ตกค้างก็ไม่พลาด! ไฮไลท์ เวสต์แฮม 0-2 ลิเวอร์พูล : พรีเมียร์ลีก – “บังโม” 1 จ่าย 1 ทิ้ง 19 แต้ม
ตกค้างก็ไม่พลาด! ไฮไลท์ เวสต์แฮม 0-2 ลิเวอร์พูล : พรีเมียร์ลีก – “บังโม” 1 จ่าย 1 : พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไฮไลท์พรีเมียร์ลีกเมื่อคืนนี้ ไฮไลท์เวสต์แฮม ลิเวอร์พูล ไฮไลท์ลิเวอร์พูลล่าสุดเมื่อคืนนี้
ไฮไลท์ เวสต์แฮม 0-2 ลิเวอร์พูล – วันที่ 30 มกราคม เวลา 02.45 น. การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-2020 นัดตกค้าง คู่ระหว่าง “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ณ สนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงลอนดอน
11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
- เวสต์แฮม ยูไนเต็ด: (GK) ฟาเบียนสกี้, มาซูอากู, เครสเวลล์, อ็อคบอนนา, ดิย็อป, เอ็นกาเกีย, โนเบิ้ล, ไรซ์, สน็อดกราสส์, ลานซินี่ และ เซบาสเตียน ฮัลแลร์
- ลิเวอร์พูล: (GK) อลิสซอน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โกเมซ, ฟาน ไดจค์, โรเบิร์ตสัน, เฮนเดอร์สัน, ไวจ์นัลดุม, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, โอริกี้, ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
ช่วงต้นเกม เจ้าบ้าน อย่าง เวสต์แฮม บอกเลยไม่มีกลัว เปิดเกมสวนกลับใส่ “หงส์แดง” ได้น่าสนใจหลายต่อหลายครั้ง นาทีที่ 15 มาซูอากู ได้โอกาสครอสบอลจากทางฝั่งซ้าย ลานซินี่ สอดขึ้นมาชาร์จจ่อๆ แต่ยิงแป้กออกหลังไปน่าผิดหวัง ยังดีว่าไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปเสียก่อน
นาทีที่ 24 เครื่องจักรสีแดง น่าได้สุดๆ จากจังหวะเล่นบอลชิ่งกันของ ฟีร์มิโน่ – ซาลาห์ สุดท้ายเป็น โรเบิร์ตสัน หลุดเข้าไปยกบอลผ่านตัว ลูคัส ฟาเบียนสกี้ หลุดกรอบไปนิดเดียวเท่านั้น
GOAL! นาทีที่ 33 เทรนต์ ครอสจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ “ฟีโน่” เก็บได้ก่อนจ่ายยัดเข้าไปหน้าประตู บอลอีรุงตุงนัง สุดท้ายเป็น ดิย็อป ไปขัดขา โอริกี้ ล้มลง ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษ พร้อมแจกใบเหลืองทันที และเป็น โม ซาลาห์ หลอก ฟาเบียนสกี้ หลงไปคนละทาง ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0
หลังจากเสียประตูแรกให้กับ จ่าฝูง ดูเหมือนว่า “ขุนค้อน” จะนิ่งไปดื้อๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พวกเขาทำได้ดีมาโดยตลอด นาทีที่ 42 แชมเบอร์เลน ได้บอลจาก เฮนเดอร์สัน ขอลองส่องไกลแต่ยังบดออกหลังไป
นาทีที่ 43 มาร์ค โนเบิ้ล ไปเข้าบอลจังหวะ 50-50 หน้ากรอบเขตโทษตัวเอง ใส่ ดิว็อค โอริกี้ – ผู้ตัดสินในสนาม โจนาธาน มอสส์ แจกใบเหลือง และลูกฟรีคิกให้กับทีมเยือน ก่อน “บังโม” วิ่งเข้ามาปั่นติดกำแพง บอลกระดอนมาเข้าทางได้ซัดอีกครั้งก็ยังติดกำแพงอีก จบครึ่งแรก เวสต์แฮม 0-1 ลิเวอร์พูล
45 นาทีหลังเริ่มขึ้น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด กลับมาเล่นเกมสวนกลับได้น่าสนใจเหมือนต้นครึ่งแรก
นาทีที่ 49 เจ้าบ้าน ต่อบอลกันได้สวย จังหวะสุดท้าย ดีแคลน ไรซ์ วางบอลจากทางขวาไปให้ มานูเอล ลานซินี่ ที่ยืนอยู่โล่งๆ คนเดียวหน้าประตู ได้ตั้งเท้าแปแบบไม่จับ แต่แป้ก! พลาดโอกาสตีเสมอเฉยเลย
ไม่กี่วินาทีต่อมา ลิเวอร์พูล กลายเป็นฝ่ายสวนบ้าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ทำชิ่ง 1-2 กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ก่อน กองหน้าบราซิลเลี่ยน ยิงดีดๆ ยังไม่ผ่านมือของ ลูคัส ฟาเบียนสกี้
GOAL! นาทีที่ 52 จังหวะบอลสกัดออกมาจากเขตโทษ ลิเวอร์พูล – โนเบิ้ล ไปปล่อยบอลตกจนโดนฉก สุดท้าย เฮนเดอร์สัน ได้ยกข้ามมาให้ ซาลาห์ ที่สปริ้นท์มาในพื้นที่ว่าง ก่อน ซูเปอร์สตาร์ชาวอียิปต์ จ่ายลูกก้อยแบบอย่างงามให้ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เบียดเอาชนะ ลานซินี่ แปผ่านตัวของ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ เข้าประตูไป “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยังแน่นอนเหมือนเคย ทิ้งห่างเป็น 2-0
นาทีที่ 55 ไวจ์นัลดุม ไปจ่ายพลาดง่ายๆ ให้กับ ลานซินี่ หน้ากรอบเขตโทษตัวเอง แล้วเป็น ลานซินี่ ส่งต่อให้ โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ ยิงแถวสองแต่ยังติดปลายมือของ อลิสซอน เบคเกอร์
นาทีที่ 58 เวสต์แฮม โถมหนักต้องการประตูตีไข่แตก คราวนี้เป็นลูกฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งซ้าย สน็อดกราสส์ โยนเข้าไปถึงศีรษะของ อ็อคบอนนา โขกบอลข้ามคานออกไปนิดเดียว
นาทีที่ 67 จากจังหวะสวนกลับ “ดิ อ็อกซ์” แทงบอลออกซ้ายไปให้ โอริกี้ ที่ดูเหมือนจะมีอาการบาดเจ็บ “มหาเทพ” มีเวลามากพอที่จะง้างเท้าซัด แต่ยังถูก ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ปฏิเสธเอาไว้ได้
นาทีที่ 69 เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องตัดสินใจถอด มหาเทพกี้ ออกจากสนามแล้วแทนที่ด้วย ฟาบินโญ่
นาทีที่ 71 ดีแคลน ไรซ์ ตัดบอลได้สวนในแดนของ ลิเวอร์พูล เจ้าตัวพาลุยขึ้นมาเอง ก่อนหาจังหวะซัดเต็มข้อ ไปติดเซฟของ อลิสซอน บอลกระดอนมาเข้าทาง เทรนต์ อาร์โนลด์ พยายามจะสกัดแต่ผิดเหลี่ยมบอลไปชนเสาอย่างจัง แต่สุดท้ายก็ยังเคลียร์ทิ้งกันออกไปได้
นาทีที่ 73 ลิเวอร์พูล ต่อบอลกันอย่างกับ เกมฟีฟ่า ซาลาห์ พาบอลตัดเข้าในไปในกรอบเขตโทษ จ่ายให้ ไวจ์นัลดุม โชว์ความสมดุลของร่างกาย ฝืนพาบอลเลื้อยออกมาหาเหลี่ยม สุดท้ายเป็น เทรนต์ ที่เปิดกลับไปให้ ซาลาห์ ได้โขกสวนทางบอลออกหลังไปแบบเสียวๆ
นาทีที่ 78 “ช่างอ็อก” พลิ้วมาทางซ้าย จ่ายเข้าในมาให้ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม หน้ากรอบเขตโทษ แต่ “ดุม” ไหลต่อไปให้ ซาลาห์ ได้วางเท้าบรรจงปั่นโค้งๆ ไปชนเสาเหลี่ยมนอก สกอร์ยังอยุ่ที่ 0-2
นาทีที่ 83 นาบี เกอิต้า ที่เพิ่งลงมาในฐานะตัวสำรอง ได้ยิงแถวสอง แต่ไปติดมือของ ฟาเบียนสกี้
นาทีที่ 84 จากจังหวะฟรีคิกของ สน็อดกราสส์ อีกแล้ว คราวนี้เป็น ดีแคลน ไรซ์ สอดขึ้นมาโขกไม่ล้ำหน้า บอลกำลังจะย้อยเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ก็ยังเจอความหนึบของ อลิสซอน ป้องกันเอาไว้ได้เหมือนเดิม
นาทีที่ 85 คล็อปป์ ส่ง เคอร์ติส โจนส์ ผู้ทำประตูในเกม เอฟเอคัพ ลงมาแทนที่ของ แชมเบอร์เลน
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถหาประตูเพิ่มกันได้ ทำให้หมดเวลา 90 นาที “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ในบ้านด้วยสกอร์ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 70 คะแนน ทิ้งห่างอันดับที่ 2 อย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ มากถึง 19 แต้ม โดยตอนนี้ทุกทีมใน พรีเมียร์ลีก แข่งเท่ากันหมดแล้ว