รับ ส.ส. เสียบบัตรแทนกันจริง
รับ ส.ส. เสียบบัตรแทนกันจริง
จากกรณีที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “คุณศุภชัย ใจสมุทร พรรคภูมิใจไทย พูดว่า ผมเหมือนสุนัขพันธุ์บูลด็อคที่กัดไม่ปล่อย ผมว่าท่านไม่สุภาพ พูดไม่ให้เกียรติกัน แต่ไม่เป็นไร สันดานของท่านอาจเป็นคนอย่างนั้น ผมเพียงทำหน้าที่ตรวจสอบนักการเมืองซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ แต่เอาเถอะ ไหนๆ ท่านก็ว่าผมกัดไม่ปล่อยแล้ว ผมก็จะขอให้ท่านศุภชัย ใจสมุทร ช่วยตรวจสอบการกดบัตรของ ส.ส.ให้ผมอีกสักราย ดูซิว่าข้อมูลในมือของผมกับข้อมูลในมือของท่านจะตรงกันไหม
วันที่ 11 มค.2563 ขณะที่มีการประชุมงบประมาณ ผมได้ข่าวว่า นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เดินทางไปประเทศจีน ลองตรวจดูหน่อยสิครับว่า หลังจาก check in (เช็คอิน) ที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว บัตรของคุณนาที รัชกิจประการ ยังมีการกดโหวตอยู่ที่สภาหรือเปล่า อย่าว่าใครผิด ใครถูกเลย ถือว่างานนี้ ผมท้าให้ท่านเปิดเผยข้อมูลก็แล้วกันครับ แล้วมาดูกันว่า ข้อมูลในมือของท่านกับข้อมูลในมือของผมตรงกันหรือเปล่า”
ทั้งนี้ที่ประชุมได้ประมวลข้อกล่าวหาจากพยานหลักฐาน เบื้องต้นมีความเห็นว่า พอเก่าหาเรื่องการเสียบบัตรแทนกันนั้นเป็นจริง และทำให้ผลการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ในมาตรา 31 ถึง 55 ถือว่าเป็นการลงมติ ที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แม้จะเป็นเพียงเสียงเดียวก็ตาม ทั้งนี้กระบวนการที่จะทำให้ชอบ และถูกต้องได้ คือการทำตามมาตรา 139 ของ รธน. โดยให้สมาชิกรัฐสภาจำนวน 1 ใน 10 จำนวน 75 คน เข้าชื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งได้รายงานต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ แล้ว เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา และเห็นว่าเพื่อให้เกิดหลักการที่ถูกต้อง เรื่องนี้จะต้องหารือกับสมาชิก ต่อที่ประชุมสภาในวันพรุ่งนี้ ว่าจะตัดสินใจอย่างไรส่วนจะส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่นั้นต้องดูมติจากที่ประชุมพรุ่งนี้อีกครั้ง
ขณะที่ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังประชุม ฝ่ายกฎหมายถึงกรณีที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่านายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้อยู่ในสภา ในวันที่มีการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 แต่กลับมีรายชื่อร่วมลงมติว่า จากการตรวจสอบพบว่าข้อกล่าวหาของนายนิพิฏฐ์ เป็นจริง โดยเมื่อเชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักชวเลข มาตรวจสอบรายงานผลการลงคะแนน ตั้งแต่มาตรา 31 ถึง 55 พบว่ามีชื่อของนายฉลอง ลงมติจริง และเมื่อตรวจสอบบันทึกการเก็บรักษาบัตร พบว่าบัตรของนายฉลอง ถูกเบิกนำไปใช้จริงและนำไปใช้ลงมติวันที่ 8 ถึง 10 มกราคม โดยไม่ได้มีการคืนบัตร แต่มาคืนในเวลา 17:30 น. ของวันที่ 11 มกราคม และยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าบัตรของนายฉลอง ถูกนำไปใช้ที่ช่องใด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม:news.bectero.com