บูลลี่คืออะไร กรมสุขภาพจิตแนะวิธีรับมือเมื่อเด็กถูกบูลลี่ในโรงเรียน
ราชบัณฑิตยสภา ได้ให้นิยามของคำว่า cyber bully ว่าหมายถึง การระรานทางไซเบอร์ เป็นการกลั่นแกล้ง การให้ร้าย การด่าว่า การข่มเหง หรือการรังแกผู้อื่นทางสื่อสังคมต่าง ๆ เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ดังนั้น การบูลี่ผู้อื่นจึงมีพฤติกรรมที่น่ารังเกียจประกอบด้วย การกลั่นแกล้ง การให้ร้าย การด่าว่า การข่มเหง หรือการรังแกผู้อื่น ให้เกิดความเจ็บปวดทางร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางจิตใจ
กรมสุขภาพจิต ได้แบ่งการบูลลี่ออกเป็นประเภทได้ดังนี้
ประเภทของการกลั่นแกล้ง
1. ทางร่างกาย เช่น การชกต่อย การผลัก การตบตี
2. ทางสังคมหรือด้านอารมณ์ เช่น กดดัน ยั่วยุ ให้เพื่อนๆ แบ่งแยก ออกห่างจากกลุ่ม ทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดหรือเสียใจ
3. ทางวาจา ทางคำพูด เช่น เยาะเย้ย ดูถูก เสียดสี นินทา โกหกบิดเบือน เพื่อให้เกิดความเจ็บปวด
4. Cyber bullying : การกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ ด้วยวิธีการ โพสน์ข้อความโจมตี หลอกลวง ทำร้าย คุกคามทางเพศ ด้วยถ้อยหยาบคาย เป็นเท็จ เพื่อให้อีกฝ่ายอับอาย เจ็บปวดและเสียใจ
รู้หรือไม่ว่า พฤติกรรมการบูลลี่ แกล้งกันของเด็กในโรงเรียนไทยมีอัตราที่สูงมากติดอันดับโลก จนล่าสุดเกิดเหตุสลด เด็กนักเรียนชั้นม.1 ยิงม.1 ตาย เพราะถูกบูลลี่ เพราะเขาเหล่านั้นได้รับผลกระทบจากการถูกบูลลี่อย่างรุนแรง ดังเช่น
1.มีภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล ส่งผลต่อความรู้สึกโดดเดี่ยว มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้านการนอนหลับ การรับประทานอาหาร สูญเสียความสนใจในกิจกรรมที่พวกเขาเคยสนุก ภาวะซึมเศร้านี้อาจส่งผลไปถึงวัยผู้ใหญ่ได้
2.มีปัญหาด้านสุขภาพ3.ประสิทธิภาพทางการเรียนลดลงและมีแนวโน้มที่จะออกจากโรงเรียนกลางคันมากขึ้น
แล้วเราจะรับมือกับการบูลลี่ได้อย่างไร?
1. ตั้งสติให้รู้ตัวว่ากำลังเจอกับการรังแก
2. เดินจากไปอย่างสงบ ไม่ใส่ใจ
3. อย่าให้ผู้กลั่นแกล้งรู้สึกสนุกจากการตอบสนองของเรา
4. มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นและคุณค่าของเรา
5.อยู่ในที่ปลอดภัย มีเพื่อนที่เข้าใจอยู่ข้างๆ
6.ไม่เลือกใช้กำลังเพราะนั่นอาจเป็นสิ่งที่ผู้กลั่นแกล้งต้องการ
7. หากการกลั่นแกล้งยังรุนแรง ให้พูดคุยกับผู้ใหญ่ที่เข้าใจและรู้วิธีจัดการ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก: กรมสุขภาพจิต
