11 ธ.ค. เริ่มลงทะเบียน ‘บ้านดีมีดาวน์’ รัฐช่วยจ่ายเงิน 5 หมื่นบาท
11 ธ.ค. เริ่มลงทะเบียน ‘บ้านดีมีดาวน์’ รัฐช่วยจ่ายเงิน 50,000 บาท
บ้านดีมีดาวน์ – จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบในหลักการมาตรการ/โครงการ ‘บ้านดีมีดาวน์’ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และอนุมัติงบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 5,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับมาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย
ล่าสุด วันที่ 11 ธ.ค. เป็นวันแรกที่เปิดให้ประชาชนเปิดลงทะเบียนโครงการบ้านดีมีดาวน์ เป็นวันแรก สามารถลงทะเบียนได้ที่ บ้านดีมีดาวน์.com
** โครงการนี้สำหรับผู้ยื่นแบบแสดงรายได้ปีภาษี 2561 กับกรมสรรพากร เท่านั้น
** ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 62 – 31 มี.ค. 63 เวลา 8.00น. – 18.00น. ไม่เกิน 5 แสนราย
กลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนทั่วไปที่มีความต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองโดยมุ่งเน้นผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน หรือ ไม่เกิน 1,200,000 บาทต่อปี และเป็นผู้ที่อยู่ในระบบฐานภาษีอากรของกรมสรรพากร จำนวน 100,000 ราย
คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ
- สัญชาติไทย
- เป็นผู้อยู่ในระบบฐานภาษีอากรของกรมสรรพากรที่มีเงินพึงได้ประเมินในปี 2561 ไม่เกิน 1,200,000 บาท ต่อปี
- เป็นผู้กู้หรือผู้กู้หลักกับสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ
- เป็นการยื่นกู้ใหม่ (ไม่ใช่การ refinance)
- การขอสินเชื่อ ต้องเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย และเป็นที่อยู่อาศัยที่สร้างแล้วเสร็จ ไม่รวมบ้านมือสองและทรัพย์สินรอการขายของกรมบังคับคดี
- ซื้อจากผู้ประกอบการที่เป็นผู้จัดสรรตามกฎหมายเท่านั้น
- ได้รับอนุมัติสินเชื่อและจดจำนองและทำนิติกรรมอื่นๆ แล้วเสร็จตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. 2562 แต่ไม่เกินวันที่ 31 มี.ค. 2563
เงื่อนไขการได้รับสิทธิ์
- มีคุณสมบัติครบตามที่โครงการกำหนด
- เป็นผู้ที่ลงทะเบียนและได้ผ่านการตรวจสอบสิทธิจากโครงการถูกต้องครบถ้วน โดยพิจารณาดังนี้
- เมื่อโครงการได้รับข้อมูลจากสถาบันการเงินที่ท่านได้ทำธุรกรรมด้วย
- ในกรณีที่สถาบันการเงินส่งข้อมูลมาวันเดียวกัน จะพิจารณาจากวันที่จดจำนอง
- ในกรณีที่มีผู้เข้าข่ายได้รับสิทธิเกิน 100,000 ราย หากสถาบันการเงินส่งข้อมูลมาในวันเดียวกัน และการจดจำนองเป็นวันเดียวกัน จะพิจารณาให้สิทธิจากผู้ที่ลงทะเบียนบนเว็บไซต์ก่อน
วิธีดำเนินโครงการ : ผู้เข้าร่วมมาตรการต้องเป็นผู้ที่อยู่ในระบบฐานภาษีของกรมสรรพากร และมีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน หรือไม่เกิน 1,200,000 บาทต่อปี และผ่านเกณฑ์ตามแนวทางที่กระทรวงการคลังกำหนด ซึ่งจะได้รับสิทธิผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดย ธอส. จะโอนเงิน จำนวน 50,000 บาท เข้าบัญชีของผู้ได้รับสิทธิ เพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ (Cash Back)