นายกรัฐมนตรีแถลงสรุปการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน”
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาลรายงาน นายกรัฐมนตรีแถลงสรุปการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง โดยครั้งนี้เป็นบทสรุปของการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทยภายใต้แนวคิดหลัก “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” ซึ่งมุ่งเน้นเรื่องความเป็นหุ้นส่วน เพื่อสานต่อผลลัพธ์จากการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 เมื่อเดือนมิถุนายนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง
ประเทศไทยเห็นความสำคัญของหุ้นส่วนในการขับเคลื่อนความยั่งยืนของอาเซียน จึงได้นำผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ไปหารือกับผู้นำ G20 ที่นครโอซากา และได้นำเสนอประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ 4 ประการ คือ
การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การเข้าถึงแหล่งทุน การพัฒนาทุนมนุษย์ และการแก้ไขปัญหาขยะทะเล โดยกิจกรรมดังกล่าวมีประเทศ G20 เข้าร่วมสนับสนุนด้วย นอกจากนี้ ไทยได้ผลักดันประเด็นเหล่านี้กับประเทศคู่เจรจาและนำไปหารือต่อในช่วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่นครนิวยอร์กในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาเพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการหารือระหว่างอาเซียนกับภาคีของอาเซียนในช่วงการประชุมสุดยอดครั้งนี้
ช่วง 3 วันที่ผ่านมา ผู้นำจาก 18 ประเทศทั่วโลก พร้อมด้วยเลขาธิการสหประชาชาติและกรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ได้มาร่วมประชุมกันที่อิมแพ็ค เมืองทองธานีแห่งนี้ โดยผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุมระดับผู้นำทั้ง 9 การประชุม ทั้งการประชุมระหว่างอาเซียนกันเองและกับประเทศคู่เจรจาที่สำคัญ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ อินเดีย และสหประชาชาติ รวมทั้งมีการประชุมในกรอบอาเซียนบวกสาม การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก หรืออีเอเอส และการประชุมสุดยอด RCEP นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษที่ไทยได้จัดขึ้น คือ งานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อหารือเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งที่ประชุมยินดีต่อข้อเสนอไทยที่จะจัดการประชุมระหว่างอาเซียนกับภาคีภายนอกเพื่อสร้างหุ้นส่วนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี 2563
การประชุมทั้งหมดนี้ประสบผลสำเร็จด้วยดี แสดงให้เห็นถึงบทบาทนำและความเป็นแกนกลางของอาเซียนในโครงสร้างสถาปัตยกรรมภูมิภาคและการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างประเทศต่าง ๆ ในสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ การแข่งขันและการเผชิญหน้าระหว่างมหาอำนาจ และความตึงเครียดทางการค้า โดยมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมที่สานต่อข้อริเริ่มของอาเซียนในปีที่ผ่าน ๆ มา ไม่ว่าจะเป็นข้อริเริ่มความร่วมมือด้านเมืองอัจฉริยะกับจีน และการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่น จีน และประเทศอาเซียนบวกสาม ภายใต้แนวทางการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงของอาเซียนที่ไทยได้ริเริ่ม ซึ่งประเด็นนี้ได้รับการสนับสนุนจากประเทศต่าง ๆ และการสนับสนุนในเชิงวิชาการจากธนาคารโลกอีกด้วย
ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ เราได้ต่อยอดการส่งเสริมความมั่นคงที่ยั่งยืนในภูมิภาค โดยผู้นำอาเซียนได้หารือเกี่ยวกับการสานต่อมุมมองของอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิกผ่านกิจกรรมและโครงการความร่วมมือในลักษณะ win-win บนพื้นฐานของหลักการสามเอ็ม คือ ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน การเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
ได้หารือกันในประเด็นสถานการณ์ในภูมิภาค และเห็นความจำเป็นที่จะต้องรักษาพลวัตในการหารือเพื่อแก้ไขความท้าทายต่าง ๆ โดยสันติวิธี ในการประชุมครั้งนี้ เรายังมุ่งมั่นที่จะร่วมกันรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคง โดยเฉพาะอาชญากรรมข้ามชาติผ่านการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการบริหารจัดการชายแดนและการเสริมสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์เพื่อส่งเสริมพื้นที่ไซเบอร์ที่เปิดกว้าง ปลอดภัย และมีเสถียรภาพ
ผู้นำอาเซียนต่างเห็นว่า ความมั่นคงที่ยั่งยืนจะเกื้อกูลการพัฒนาเศรษฐกิจที่มีพลวัต อาเซียนจึงมุ่งมั่นที่จะบรรลุผลลัพธ์ด้านเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรม ในการนี้
การสรุปผลการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP ตามแถลงการณ์ร่วมของผู้นำเกี่ยวกับอาร์เซ็ป เป็นการผนึกกำลังของกลุ่มประเทศซึ่งมี GDP รวมกันร้อยละ 32 ของโลก มีประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลก และมีมูลค่าการค้ารวมกันสูงถึงร้อยละ 30 ของการค้าโลก รวมทั้งการพัฒนาทุนมนุษย์เพื่อให้เราได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอาเซียนจะได้รับประโยชน์จากการเชื่อมโยง ASEAN Single Window ได้ครบทั้ง 10 ประเทศ การสรุปการเจรจาข้อตกลงยอมรับร่วมผลการตรวจสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของอาเซียน ตลอดจนการริเริ่มการจัดตั้งเครือข่ายอาเซียนเพื่อต่อต้านการประมง IUU
ผู้นำอาเซียนได้หารือเพื่อร่วมมือกับภาคีภายนอกในการต่อยอดการสร้างความมั่นคงของมนุษย์ที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในการแก้ไขปัญหาขยะทะเล ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปัญหาหมอกควันข้ามแดน การส่งเสริมสิทธิต่าง ๆ และการศึกษาของเด็ก นอกจากนี้ยังได้ลงนาม MOU กับฟีฟ่า เพื่อพัฒนากีฬาฟุตบอลในอาเซียน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเสนอตัวของประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก หรือฟีฟ่าเวิล์ดคัพในปี 2577 ด้วย
ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้พบหารือกับผู้แทนภาคประชาสังคม เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน โดยได้รับฟังข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์และช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมเพื่อทำให้อาเซียนเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ผู้นำประเทศต่าง ๆ ได้ร่วมกันสานต่อเจตนารมณ์ของเอกสารวิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียนว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน โดยภาคีภายนอกได้แสดงความพร้อมที่จะช่วยอาเซียนเสริมสร้างความยั่งยืนผ่านแผนงานการส่งเสริมข้อริเริ่มความเกื้อกูลระหว่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2025 และวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ของสหประชาชาติ (Complementarities Roadmap) ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ รวมทั้งผู้นำการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกได้ออกแถลงการณ์เพื่อยืนยันความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืนอีกด้วย นอกจากนี้ ได้มีข้อเสนอในการร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมจากผู้นำอาเซียน แขกของประธาน และองค์การระหว่างประเทศต่าง ๆ จากงานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อหารือเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วย
การประชุมสุดยอดครั้งนี้ ได้มีการเปิดตัวศูนย์อาเซียนในประเทศไทยอีก 3 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงวัยอย่างมีศักยภาพและนวัตกรรม และศูนย์ฝึกอบรมอาเซียนด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไทยมอบให้กับอาเซียนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต โดยจะรองรับประเด็นต่าง ๆ ที่มีความสำคัญสำหรับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม การรองรับการเข้าสังคมสูงวัย และการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในภาพรวม
นอกจากนี้ ผู้นำอาเซียนได้มีข้อตัดสินใจร่วมกันให้จัดการประชุมสุดยอดอาเซียน-นิวซีแลนด์ภายหลังการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 36 ที่เมืองดานัง เวียดนาม ในปี 2563
นายกรัฐมนตรีได้แสดงความขอบคุณผู้นำอาเซียนและภาคีภายนอกของอาเซียนที่ได้สนับสนุนไทยอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ขอบคุณพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนทุกฝ่ายที่ช่วยสนับสนุนการจัดการประชุมและกิจกรรมภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทย ขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ ติดตาม และเผยแพร่ข่าวสารการประชุมและกิจกรรมต่าง ๆ ให้สาธารณชนได้รับทราบ และที่สำคัญที่สุด ขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่มีส่วนร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีให้แก่อาเซียนตลอดทั้งปีนี้ เราตระหนักดีว่าเป้าหมายในหลาย ๆ ด้านไม่สามารถบรรลุผลได้ภายในปีเดียว ซึ่งไทยได้สานต่อข้อริเริ่มที่สำคัญจากปีก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนกับโลกของฟิลิปปินส์ หรือการสร้างความเข้มแข็งและนวัตกรรมของสิงคโปร์เพื่อขับเคลื่อน “วาระของอาเซียน” เหล่านี้ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ขอให้คนไทยทุกคนภูมิใจว่า ปีนี้เราได้ช่วยวางรากฐานเพื่อนำไปสู่อาเซียนที่ยั่งยืนในทุกมิติและผมมั่นใจว่า เวียดนามจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนต่อจากไทยได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ
สุดท้ายนายกรัฐมนตรีได้อวยพรให้เวียดนามประสบความสำเร็จในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปีหน้าเพื่อสร้างอาเซียนที่ยั่งยืนในทุกมิติต่อไป
ที่มา: ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์