ข่าวภูมิภาค

ตายเพิ่มอีก พบพะยูนเหลือแต่ซาก ถูกชำแหละ-เลาะกระดูกทำของขลัง

วันนี้ (18 ก.ย.) เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ได้นำซากพะยูนขนาดโตเต็มวัย ที่คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 5-7 วัน ขึ้นมาที่ฝั่งท่าเรือหาดยาว ต.เกาะลิบง โดยพะยูนตัวดังกล่าวเป็นพะยูนตัวที่ 11 ที่พบตายในทะเลตรัง และถือเป็นตัวที่ 20 ของประเทศไทยในปีนี้

 

ผู้ที่พบซากพะยูนตัวนี้ ได้ใช้เชือกมัดซากผูกติดไว้ถังแกลลอนน้ำมัน ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา และได้แจ้งเจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 ให้ออกไปเก็บซาก แต่ช่วงวันดังกล่าวเกิดฝนตกหนักและคลื่นลมแรงทำให้การค้นหาไม่สำเร็จ กระทั่งมีชาวบ้านไปพบซากที่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นที่ชายหาดบ้านหลังเขา หมู่ 5 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง วันนี้

 

จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ซากพะยูนตัวนี้มีเหลือเพียงหนังและเศษเนื้อ ซากมีความยาวประมาณ 2 เมตร และน้ำหนักประมาณ 200 กก. ครีบหางกว้างประมาณ 40 ซม. ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นพะยูนหนุ่มหรือพะยูนสาว แต่ยังไม่สามารถระบุเพศได้ และเชื่อว่าน่าจะตายกระทันหัน

 

นอกจากนี้ ยังพบว่า ผิวหนังมีร่องรอยถูกของมีคมตัดเป็นแนวยาวตามลำตัว เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานเบื้องต้นว่า อาจมีชาวประมงไปพบซากหลังจากที่ถูกมัดไว้ถังแกลลอนน้ำมัน และลอยอยู่กลางทะเล จึงได้ตัดเลาะเอากระดูกหรือเขี้ยวไป และหากพะยูนตัวนี้เป็นตัวผู้ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการนำชิ้นส่วนกระดูกเหล่านั้นไปใช้เป็นเครื่องรางของขลังตามความเชื่อโบราณ

 

เจ้าหน้าที่ได้นำซากพะยูนตัวนี้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สภ.กันตัง จากนั้นเจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 ก็ได้นำซากไปส่งให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต เพื่อชันสูตรการตาย

 

ด้านนายวิทยา มากนคร เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 ระบุว่า เจ้าหน้าที่เชื่อว่าซากที่พบนี้น่าจะเป็นตัวเดียวกับพะยูนที่มีผู้พบและมัดไว้กับถังแกลลอนน้ำมันก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน เพราะจุดเกยตื้นคือ บริเวณบ้านหลังเขาซึ่งจะสัมพันธ์กับทิศทางของคลื่นลมและอยู่ไม่ไกลจากจุดที่คนไปพบขณะลอยอยู่ในทะเล

 

ส่วนเพศนั้นยังระบุไม่ได้ แต่ได้นำซากพะยูนไปส่งศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ตแล้ว เพื่อให้ทีมสัตวแพทย์ที่ศูนย์ฯผ่าพิสูจน์สาเหตุการตาย และระบุเพศ พร้อมทั้งดูว่ามีชิ้นส่วนใดหายไปบ้าง แต่เท่าที่ตนเห็น มีชิ้นส่วนบริเวณหนังถูกของมีคมตัด ทำให้ชิ้นส่วนกระดูกหายไป

 

ด้านดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กถึงกรณีนี้ว่า ‘ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าพบซากพะยูนลอยกลางทะเล แต่ตามซากไม่เจอ แต่ถ้าตัวนี้ไม่ใช่ตัวนั้น ก็หมายความว่าในปีนี้พะยูนตายไปแล้ว 20 ตัว คิดเป็น 10% ของประชากรในแถบนั้น ถือว่าเยอะมากจนน่าวิตก’

 

‘มาเรียมโปรเจ็คจะเข้าคณะทะเลแห่งชาติสัปดาห์หน้า ผมจะเป็นผู้นำเสนอต่อคณะกรรมการที่มีท่านรองนายกฯเป็นประธาน และมีท่านรมต.เป็นรองประธาน จะพยายามเต็มที่ครับ’

 

 

ที่มา Sanook

ภาพจาก กลุ่มพิทักษ์ดูหยง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button