ป.ป.ช.นัดประชุมด่วน คดีสินบนทองคำบิ๊กโจ๊ก “เอกวิทย์” ถอนคุมไต่สวนส่งทนายสู้ปมฉาว
จากมหกรรมค้นบ้าน 11 จุด สู่ความระอุในรั้ว ป.ป.ช. เมื่ออดีตรองผบ.ตร. ถูกแฉว่าแอบถ่ายคลิปขณะส่งมอบทองคำแท่ง 246 บาท หวังแบล็คเมล์กรรมการ ป.ป.ช. แต่สุดท้ายลูกน้องคนสนิททนไม่ไหว หอบหลักฐานแฉกลับจนเกมพลิก
มหากาพย์ล่าสุดของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” ที่กำลังทำให้องค์กรอิสระอย่าง ป.ป.ช. ต้องสั่นคลอนจนต้องนัดประชุมด่วนในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ โดยเรื่องราวเริ่มแดงขึ้นเมื่อตำรวจ บก.ปปป. เข้าตรวจค้น 11 จุดที่โยงใยกับบิ๊กโจ๊ก รวมถึงสมาคมชาวปักษ์ใต้ เพื่อสืบสวนคดีติดสินบน นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช. ด้วยทองคำแท่งหนักรวม 246 บาท เพื่อแลกกับการช่วยเหลือคดีความ
แต่จุดหักมุมที่ทำให้คดีนี้ซับซ้อนกว่าเดิม คือรายงานที่ระบุถึงบิ๊กโจ๊กสั่งให้มีการ “แอบถ่ายคลิป” ขณะส่งมอบทองคำไว้ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือต่อรองหรือแบล็คเมล์กรรมการ ป.ป.ช. หากงานไม่สำเร็จตามที่ตกลงกันไว้
แผนการที่วางมาอย่างดิบดีกลับพังครืนลง เมื่อ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย นายตำรวจคนสนิทที่เป็นคนถือทองไปส่ง เกิดทนแรงกดดันไม่ไหว หลังจากถูกบิ๊กโจ๊กพยายามโยนความผิดให้ในหลายเรื่อง พ.ต.อ.ภาคภูมิ จึงตัดสินใจ “เปิดหน้าแลก” หอบคลิปวิดีโอหลักฐานชิ้นสำคัญมามอบให้ทีมสอบสวน ปปป. พร้อมแฉพฤติกรรมทุกขั้นตอนจนกลายเป็นหลักฐานมัดตัวทั้งผู้ให้และผู้รับ
ผลกระทบจาก “พิษทองคำ” ครั้งนี้ลามไปถึงหอคอยงาช้างของ ป.ป.ช. ทันที โดยมีประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาในวันที่ 30 ธ.ค. นี้ อ้างอิงข้อมูลจากสำนักข่าวอิศรา ประกอบด้วย กรณีแรกคณะกรรมการ ป.ป.ช. เตรียมขอให้ นายเอกวิทย์ ถอนตัวจากการคุม “สำนักไต่สวนทุจริตภาครัฐ 1” ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจตรวจสอบตำรวจ ศาล และอัยการ เพื่อรักษาภาพลักษณ์และป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน
รายงานระบุด้วยว่า ณ เวลานี้ ป.ป.ช. กำลังมึนตึ้บเพราะตามกฎหมาย ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจไต่สวนกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยกันเอง หากจะเอาผิดนายเอกวิทย์ ต้องใช้ช่องทางเข้าชื่อ สส.และสว. ยื่นต่อประธานรัฐสภา เพื่อส่งให้ศาลฎีกาตั้งคณะกรรมการไต่สวนพิเศษเท่านั้น
ขณะที่ฝั่งพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยังคงยืนกรานปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและพร้อมสู้คดีตามกฎหมาย แต่การที่ “ลูกน้องมือขวา” ออกมาแฉพร้อมหลักฐานวิดีโอแบบนี้ ถือเป็นศึกหนักที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตราชการ เพราะคดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของสินบน แต่มันคือการเปิดโปงขบวนการ “กินกันเอง” ในแวดวงยุติธรรมที่ซับซ้อนเกินกว่าใครจะคาดถึง และในวันที่ 30 ธ.ค. นี้ เราจะได้เห็นว่า ป.ป.ช. จะแก้โจทย์ยากนี้อย่างไร
อัปเดตล่าสุด วันนี้ (29 ธ.ค.) บิ๊กโจ๊กเดินทางไปกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อนำข้อมูลมามอบให้กับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมกับยืนยันความบริสุทธิ์ว่า ตนไม่เคยรู้เห็นเกี่ยวกับการติดสินบนเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และทองคำแท่งจำนวน 246 บาท โดยพร้อมพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม
ส่วนกรณี พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย อดีตลูกน้องคนสนิทของตนเอง พลิกมาเป็นพยานในคดีนำข้อมูลแจ้งความตนเองนั้น ยอมรับว่า เสียใจกับการกระทำที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่าไปหลงเชื่อคำกล่าวอ้างของบุคคลอื่นเพื่อจะได้กลับเข้ารับข้าราชการตำรวจอีกครั้ง
ขณะที่กรรมการ ป.ป.ช.ที่ตกเป็นข่าวนั้น ล่าสุดมอบอำนาจให้ทนายความ เข้าแจ้งความกองปราบเพื่อดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ลูกน้องคนสนิทของบิ๊กโจ๊กด้วย ฐานแจ้งความเท็จและกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา
ข้อมูลจากมติชนยืนยันว่า ขณะนี้ทนายความพาผู้เสียหายคนติดตามกรรมการ ป.ป.ช. แจ้งความกับตำรวจ สน.บุปผาราม หลังถูกตำรวจภาค 4 อุ้มไปวางแนวทางปรักปรำคำให้การคดีเพื่อใส่ร้ายกรณีรับสินบน


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- บิ๊กโจ๊ก เข้าพบบก.ปปป เผยเสียใจเจอลูกน้องแฉ เข้าใจทุกคนต้องเอาตัวรอด
- ลูกน้องสุดรักบิ๊กโจ๊ก พลิกลิ้น กลับลำเป็นพยาน แฉคลิปเด็ดสินบนทองคำ ป.ป.ช.
- พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ร่วมฌาปนกิจ ผกก.เบิ้ม เตรียมจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือครอบครัว
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





