
บอส ณวัฒน์ เปิดใจสาเหตุเตือน ชาล็อต ออสติน กลางวันเกิด เผยสุดทนพฤติกรรมเปลี่ยน-ตะคอกใส่ไมค์ปฏิเสธงาน ชี้เตือนหลังบ้านไม่ฟังจึงต้องพูดให้จำ อย่าลืมวันแรกที่ไม่มีใคร
งานฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 27 ปี ของนางงามสาวขวัญใจมหาชน ชาล็อต ออสติน กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ชั่วข้ามคืน เพราะช่วงเวลาเป่าเค้กที่ควรจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มกลับกลายเป็นโมเมนต์เรียกน้ำตา กรณี บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล บิ๊กบอสแห่งเวทีมิสแกรนด์ฯ กล่าวอวยพรที่แฝงไปด้วยคำเตือนสติชุดใหญ่จนทำเอาเจ้าของวันเกิดกลั้นน้ำตาไม่อยู่
ล่าสุด บอสณวัฒน์ได้ออกมาไลฟ์สดชี้แจงถึงสาเหตุที่ต้องพูดเตือนกลางเวทีที่เกิดจากความอัดอั้นในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสาวชาล็อต เผยว่า “สุขสันต์วันเกิดครบรอบ 27 ปี ก็โตขึ้นอีก 1 ปีนะครับ สิ่งสำคัญที่สุดคือก็ขอให้ประสบความสำเร็จในการทำงานมากขึ้น แต่การจะประสบความสำเร็จในการทำงานมากขึ้นนั้นจะสำเร็จได้ต้องมีสติ สมาธิ และมีความเป็น Professional มากขึ้นเช่นเดียวกัน
เส้นทางในวงการบันเทิงมีหลายองค์ประกอบมากมายที่จะทำให้คนคนหนึ่งไปต่อได้ไกลแสนไกล จนกลายเป็นอาชีพทั้งชีวิต ถ้าคนคนนั้นเข้าใจคำว่า ศิลปะ Royalty และความเคารพซึ่งกันและกัน
ขอให้ชาล็อตปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเองนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ขอให้มีความ Professional ศิลปิน ขอให้เชื่อฟังผมในฐานะหัวหน้าสังกัด การที่เราจะใช้งานชาล็อตเยอะ เพราะเราปั้นให้ชาล็อตดัง เราถึงต้องใช้เยอะ เพราะฉะนั้นอยากให้ชาล็อตถนอมน้ำใจในการพูดจากับทีมงานและผู้บังคับบัญชาให้มากกว่านี้
เพราะว่าทุกคนหวังดีและอยากให้ชาล็อตเติบโต แต่ชาล็อตต้องไม่ลืมวันที่เริ่มต้นไม่มีใคร แต่มีเราเป็นคนแรกจนมีหลาย ๆ คนมากมายทั้งโลก เพราะเราขับเคลื่อน ถ้ามีคนอื่นแล้วจะลืมเรา ไม่ใช่คุณสมบัติของคนที่จะอยู่บนโลกของเอนเตอร์เทนเมนต์ ขอให้ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง ขอให้ชีวิตดีขึ้นตลอดไป ถ้าปรับปรุงได้ Happy Birthday ครับ”

หลังจากจบงาน บอส ณวัฒน์ ออกมาไลฟ์สดเปิดใจถึงเบื้องลึกเบื้องหลังที่ทำให้ต้องพูดเตือนสติแรงขนาดนั้น ยอมรับว่าได้เตือนกันหลังบ้านมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เป็นผล ระบุว่า “เรื่องคอลเซนเตอร์ ผมก็พาไปถึงรัฐสภาทำให้ทุกอย่างจนได้เงินแล้ว ผมทำให้หมดแต่บางอย่างคนเรามันเริ่มลืมตัว มันก็ต้องเตือนกันเพราะว่าเราเตือนกันหลังบ้านแล้วส่วนตัวหลายครั้ง แต่ว่าสิ่งที่ประจักษ์คือวันเสาร์ เห็นได้ชัดเจนถึงการเล่นกีฬาแล้วไปกระแทกคนอื่นเขาแล้วทำสีหน้าที่ไม่ดี
แล้วผมให้ออกมาช่วยยืนขายของเพียงแค่ 5 นาที แต่ไม่ยอมออก มาผมเดินเข้าไปพร้อมถือไมค์ ผมเรียกตลอด สิ่งที่น้องพูดออกมาดังมากและดังเข้ามาในไมค์ทำให้คนในฮอลล์และลูกน้องผมได้ยินหมดคือ ‘ทำไมจะต้องมาเรียกแต่หนูคนมีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมไม่ใช้คนอื่น’ นั่นคือสิ่งที่คิดว่ามันรุนแรงกับผม
คุณไปถามคนในฮอลล์ได้ว่าเขาได้ยินไหม ไปถามเจ้าหน้าที่,ลูกน้องผมได้ยินไหม ผมก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหลัง ๆ น้องพูดกับผมแบบนี้
ในเมื่อเราบอกขอแรงแค่ไปยืนที่เคาน์เตอร์ขายของก็ทำงานเพื่อบริษัท ยืนแค่ 5 นาทีมันไม่ได้เลยเหรอ ใครไปเรียกก็ไม่ยอมออกมาต้องให้ผมเดินไปเรียกด้วยตัวเอง ลุกขึ้นเดินหน้าหงิกแล้วตะโกนใส่ผมต่อหน้าทุกคนและเสียงเข้ามาในไมค์ ทำไมจะต้องหนูอีกละ คนอื่นมีตั้งเยอะตั้งแยะทำไมไม่ใช่คนอื่น คุณคิดว่าความรู้สึกของผมจะเป็นอย่างไร
ถ้าใครเป็นแฟนคลับที่แท้จริงลองใช้สมองในการคิดสิ นอกจากเล่นกีฬาแล้วหน้าเหวี่ยงแบบนั้น มันเป็นบรรยากาศที่ไม่ควรมี มันเสียคาแรคเตอร์ แล้วมาพูดกับผมแบบนี้อีกผ่านไมค์แล้วออกอากาศ ต่อหน้าศิลปินคนอื่นซึ่งอยู่ในห้อง แล้วพูดจาเหวี่ยงแบบมันทำได้ยังไง ผมเป็นใคร ซึ่งเขาจะเหวี่ยงมากมายก่ายกองกับลูกน้องผม มันเป็นความลับ ผมก็ไม่ได้เล่าให้ฟัง
ตอนเย็นเวลาร้องเพลง คนเขาให้ตังค์มายืนรออยู่ ถ้าเราไม่รับก็สวัสดีเขาดี ๆ แล้วก็ไม่รับอย่างงี้ ไม่ใช่แบบไม่รับแล้วโบกมือ ซึ่งเราเป็นผู้บริหารนั่งอยู่รู้สึกอาย ผมนั่งอยู่กับหลักผู้ใหญ่ เขาถามเป็นอะไร ผมก็บอกเป็นแบบนี้
พูดเหมือนแบบศิลปินไม่เคยถูกค่ายสั่งสอน มันตลก มันเยอะไปแล้ว แล้วศิลปินที่ดีต้องทำคิวตามบล็อกกิ้ง อย่าพูดประชดประชัน อย่าพูดแบบไปเรื่อยไปเปื่อย คือมันไม่มีใครทำแบบนี้ เข้าใจไหมศิลปินค่ายอื่นเขาก็ไม่ทำกัน
ทำไมถึงต้องพูดเตือนบนเวที เพราะว่าการแสดงของเขาทั้งวันมันแสดงผ่านสาธารณะ ถ้าเราไม่แอคชั่นผ่านสาธารณะดูเหมือนเราไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับพฤติกรรมแบบนี้ มันจะเป็นแบบอย่างให้กับคนอื่นไหม แล้วคนอื่นจะคิดอย่างไรว่าทำไมทำแบบนี้ เรายังยอมรับ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องเข้าใจไป”




อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ศาลพิพากษาเอาผิด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตุ๋นเงิน “ชาล็อต” ชดใช้ 4 ล้าน
- ดูหน้าชัดๆ ผู้กองปอยเปต หลอกชาล็อต 4 ล้าน ใครคิดคอนเทนต์ เหยื่อ 163 เคส
- ชาล็อต ออสติน พึ่งรู้โดนมิจฯ หลอกโอนเงิน สามารถฟ้องธนาคารเอาคืนได้
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



