ข่าว

แนะเส้นทางเลี่ยง ตลาดนำไทย บางนา-ตราด กม.34 เหตุสะพานลอยทับรถ รถติดสะสม

แนะเส้นทางเลี่ยง ถนนบางนา-ตราด กม.34 รถติดหนึบ เหตุสะพานลอยถล่มขวาง ปิดช่องทางหลักกู้ซากสะพานหน้าตลาดนำไทย ใครจะเข้ากรุงฯ เช็กด่วน ทางด่วน-ทางลัดที่ใช้งานได้จริง

จากกรณีอุบัติเหตุระทึกขวัญ รถบรรทุกดั๊มพ์เกี่ยวสะพานลอยคนข้ามพังถล่มลงมาทับรถยนต์ บนถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) ขาเข้า กม.34 บริเวณหน้าตลาดนำไทย อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ส่งผลให้ต้องปิดการจราจรใน “ช่องทางหลัก” ทั้งหมด เพื่อให้เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทำให้การจราจรติดขัดสะสมยาวเหยียดตั้งแต่ช่วงนิคมฯ เวลโกรว์

เพื่อไม่ให้ท่านต้องเสียเวลาบนท้องถนน ทีมข่าวขอรวบรวม “แนะเส้นทางเลี่ยง” สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ผ่านจุดดังกล่าว ดังนี้

1. ทีมทางไกล (มาจากชลบุรี / ฉะเชิงเทรา)

หากท่านยังมาไม่ถึงจุดเกิดเหตุ (กม.34) ขอแนะนำให้เลี่ยงการใช้ถนนพื้นราบถนนบางนา-ตราด โดยเด็ดขาด ให้ใช้เส้นทางต่อไปนี้

ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางด่วนลอยฟ้า)

  • หากจุดขึ้นทางด่วนยังอยู่ก่อนถึง กม.34 ให้รีบขึ้นใช้ทางยกระดับทันที เพื่อข้ามจุดเกิดเหตุไปลงยังพื้นที่บางพลี หรือเข้าสู่กรุงเทพฯ ชั้นใน

มอเตอร์เวย์ (ทล.7)

  • สำหรับผู้ที่มาจากชลบุรี ให้เบี่ยงออกไปใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ (กรุงเทพฯ-ชลบุรี สายใหม่) จะทำความเร็วได้ดีกว่าและไม่ได้รับผลกระทบจากจุดเกิดเหตุ

วงแหวนกาญจนาภิเษก (ทล.9)

  • หากต้องการกระจายตัวไปโซนอื่น ให้ใช้วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก เพื่อตัดเข้าสู่รามอินทรา หรือพระราม 2 แทนการมุ่งหน้าเข้าบางนาตรงๆ
การจราจรติดขัดบนถนนบางนา-ตราด กม.34 เนื่องจากอุบัติเหตุสะพานลอย
ภาพจาก : Google Maps

2. ทีมทางลัด (เข้าโซนลาดกระบัง / สุวรรณภูมิ)

หากท่านติดอยู่ในโซนบางบ่อ หรือพื้นที่ใกล้เคียง และต้องการหนีคอขวด กม.34

ใช้เส้นทาง หลวงแพ่ง – ฉช.3001

  • ให้เลี้ยวหลบเข้าไปใช้เส้นทางถนนหลวงแพ่ง หรือถนนโยธาธิการ เพื่อมุ่งหน้าออกสู่ “ลาดกระบัง” หรือ “ร่มเกล้า” เส้นทางนี้จะช่วยให้ท่านเข้าสู่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ได้โดยไม่ต้องผ่านจุดสะพานถล่ม

3. ทีมเลาะชายทะเล (เข้าปากน้ำ / สำโรง)

ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) หากปลายทางของท่านคือสมุทรปราการ ปากน้ำ หรือสำโรง ให้พิจารณาเบี่ยงไปใช้ ถนนสุขุมวิท สายเก่า (เลียบชายทะเล) แม้ระยะทางอาจจะอ้อมและมีสัญญาณไฟจราจร แต่สามารถเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆ ดีกว่าติดตายในจุดเกิดเหตุ

4. ทีมพื้นที่ (จำเป็นต้องผ่านจุดเกิดเหตุ)

ใช้ช่องทางคู่ขนาน สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเลี่ยงไปเส้นทางอื่นได้จริงๆ เจ้าหน้าที่แนะนำให้เบี่ยงออกใช้ “ช่องทางคู่ขนาน” ของถนนเทพรัตนแทน แต่ต้องทำใจเผื่อเวลาเดินทางอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เนื่องจากปริมาณรถจะหนาแน่นมาก

อย่างไรก็ตามแนะนำว่า ก่อนออกเดินทาง โปรดตรวจสอบสภาพจราจรแบบ Real-time ผ่าน Google Maps หรือฟังรายงานสดจาก จส.100 และ FM91 Trafficpro เพื่อวางแผนการเดินทางที่แม่นยำที่สุดในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้

ขอบคุณข้อมูลเส้นทางจาก : FM91 Trafficpro, จส.100 และ กรมทางหลวง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button