ดร.ธนกฤต ไขปริศนา ตรวจไซยาไนด์ “นัทปง” รู้ผลภายใน 3 วัน ไม่ต้องรอเป็นเดือน

ดร.ธนกฤต เผยเบื้องหลังผลตรวจ “ไซยาไนด์” คดีนัทปง ยืนยันได้ใน 3 วัน จากปกติ 2 เดือน ระบุแพทย์สงสัยตั้งแต่แรกบวกกับระบบเฝ้าระวังใหม่จากคดีแอม
7 ธันวาคม 2568 นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ออกมาเปิดเผยเบื้องหลังในคดีการเสียชีวิตของ นายณัฐวุฒิ ปงลังกา หรือ “นัทปง” ถึงสาเหตุที่ผลตรวจทางพิษวิทยาสามารถยืนยันสารไซยาไนด์ ได้ภายในเวลาเพียง 3 วัน โดยระบุไว้ว่า
การเสียชีวิตปริศนาของนายณัฐวุฒิ ปงลังกา กลายเป็นคดีสะเทือนสังคมหลังผลตรวจทางพิษวิทยายืนยันว่า “ไซยาไนด์” คือสารพิษที่อยู่ในร่างกายผู้ตาย และผลยืนยันออกภายในเวลาเพียง 3 วัน ซึ่งเรามักจะเคยได้ยินว่าผลการตรวจมักใช้เวลา 1-2 เดือน หลังจากการชันสูตร บทความนี้คือการ เจาะลึกลำดับเหตุการณ์ และการประสานงานหลังฉาก ที่ทำให้ผลตรวจออกได้อย่างรวดเร็ว
จุดเริ่มต้นความสงสัยที่จากประวัติที่ได้รับแจ้งเพื่อการกู้ชีพ ขัดแย้งกับประวัติจากการตรวจที่เกิดเหตุ
จากการตรวจชันสูตร ณ วันที่เกิดเหตุไม่ได้มีการระบุถึงการใช้สารยาหรือสารพิษ แต่แพทย์ผู้ตรวจกลับได้รับข้อมูลแจ้งจากทางศูนย์วิทยุ รวมถึงข้อมูลรับแจ้งเพื่อเรียกทีมกู้ชีพ ว่าผู้ตายอาจเกี่ยวข้องกับ “การใช้สารหรือยาเกินขนาด และเมื่อประกอบกับข้อเท็จจริงว่า ผู้ตาย อายุยังน้อย มีโรคประจำตัวแต่ไม่ได้มีอาการนำที่เกี่ยวข้องในวันที่เสียชีวิต และการเสียชีวิตเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน จึงทำให้ทีมแพทย์ “หันไปจับที่สารพิษตั้งแต่ชั่วโมงแรก” แต่ในหน้าสื่อ จะชี้สาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นไปทาง “ใหลตาย” ก็ไม่แปลก เนื่องจากการตรวจสารพิษต้องมีขั้นตอนการตรวจสอบที่รัดกุมและใช้เวลา

เหตุจากคดี “แอม ไซยาไนด์” ทำให้ระบบนิติเวชมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
หลังการเสียชีวิตต่อเนื่องจากคดี “แอม ไซยาไนด์” ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างมากในสังคมไทย ทางสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทยและราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย ได้เปิดการพูดคุยและหารือหลายครั้ง จัดกระทั่งได้มีการจัดทำ แนวทางคัดกรองการตรวจสารพิษรวมถึงสารไซยาไนด์ ในผู้เสียชีวิตที่เข้าเกณฑ์ต้องสงสัยอย่างเข้มงวด เป็นเหตุให้เกิดการตรวจพบการใช้สารไซยาไนด์ ในคดี “ตอง ชลดา” และได้สร้าง “ระบบเตือนภัยเงียบ” ว่าถ้าลักษณะการตายที่ไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้แน่ชัด ต้อง “คิดถึงไซยาไนด์เป็นหนึ่งในสาเหตุเสียชีวิตด้วยเสมอ” ดังนั้น เมื่อคดีล่าสุดเกิดขึ้น แพทย์หลายฝ่ายจึงเข้าสู่ “โหมดเฝ้าระวังสูงสุด” ในทันที
การประสานงานที่ต้องทำอย่างรวดเร็วที่สุด
จากข้อสงสัยหลายประการข้างต้น ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดย นพ.ศราวุฒิ สุจริตธรรม แพทย์ผู้ตรวจศพ ได้ประสานไปยัง รศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ นายกสมาคมแพทย์นิติเวชฯ เพื่อหารือถึง “ข้อสงสัยที่ต้องคลี่คลายโดยด่วน” และขอความอนุเคราะห์ให้ ห้องปฏิบัติการพิษวิทยา ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และของ รพ.รามาธิบดี ช่วยเร่งรัดกระบวนการตรวจ เนื่องจากข้อสงสัยทั้งหมดทั้งมวล เหตุการเสียชีวิตชี้ไปทาง “พิษวิทยา” มากกว่า “โรคธรรมชาติ”
ในเวลาใกล้เคียงกันนั้นเอง มีข้อมูล “off the record” ถูกส่งถึง ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ว่า “มีการพบสารต้องสงสัยในพื้นที่เกิดเหตุ” ข้อมูลนี้ไม่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่กลายเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ต้องตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เพราะหากสารดังกล่าวเป็นไซยาไนด์จริง จะเชื่อมโยงกับตัวผู้ตายได้ทันที ดร.ธนกฤต จึงมอบหมายให้ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (หมอหมู) ทำการวิเคราะห์สารจากที่เกิดเหตุแบบเร่งด่วนในห้องปฏิบัติการ
ทั้งสองส่วนต่างเดินหน้าตรวจสอบแบบคู่ขนาน โดยที่ไม่ทราบการดำเนินงานของกันและกันมาก่อน แต่สุดท้ายมาบรรจบตรงกันอย่างแม่นยำ ทั้งจากการตรวจสารจากศพ และการตรวจสารจากที่เกิดเหตุ ว่าเป็น “ไซยาไนด์” ทีมแพทย์จึงสามารถสรุปได้ทันทีว่า “สารที่ผู้ตายได้รับและเป็นเหตุให้เสียชีวิตคือไซยาไนด์แน่นอน” จึงได้แจ้งข้อมูลไปยัง พนักงานสอบสวน และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อให้เริ่มดำเนินการด้านกฎหมายและการหาพยานหลักฐานต่อทันที โดยไม่ให้เกิดความล่าช้า นี่คือเหตุผลว่าทำไมคดีนี้จึงเดินหน้าอย่างฉับไว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ตายอย่างสูงสุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- วอนหยุด แห่ไล่ขุดข่าว “นัทปง” เลยเถิด ย้ำเห็นใจคอรบครัวผู้สื่อข่าวช่องดัง
- ร่าง “นัทปง” ถึงสถาบันนิติฯ แล้ว ตร.เรียกพยาน 5 ปาก เข้าให้ปากคำ เคลียร์ปมไซยาไนด์
- พิธีเผาหลอก นัทปง ครอบครัว-เพื่อนร่วมงานร่ำไห้ 4 คนในบ้านวันสุดท้ายร่วมงานด้วย
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





