เอ้ สุชัชวีร์ เดือดซัด รัฐบาลล้มเหลว รู้ล่วงหน้าน้ำท่วม แต่ปล่อยชาวบ้านรอหายนะ

ท่ามกลางวิกฤตอุทกภัยในพื้นภาคใต้ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สร้างความเสียหายทั้งอำเภอ ฝนถล่มหนักสุดในรอบ 300 ปี ล่าสุด “เอ้-สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านโซเชียลมีเดีย สะท้อนความล้มเหลวของการบริหารจัดการภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ระบุว่าเป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
สุชัชวีร์ เปิดเผยข้อมูลจากทีมงาน “พรรคไทยก้าวใหม่” ที่ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย พบความจริงที่น่าตกใจว่า ชาวบ้านต้องเผชิญกับความยากลำบากถึงขีดสุด เนื่องจากหนีน้ำไม่ทัน สาเหตุหลักมาจาก ระบบเตือนภัยไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ประชาชนไม่รู้ตัว ระบบล่ม ไฟฟ้าดับ อินเทอร์เน็ตล่ม ตัดขาดการสื่อสาร ไร้แผนรองรับไม่มีที่อยู่ที่ปลอดภัย ไม่มีการวางแผนอพยพ ล่วงหน้า
ประเด็นสำคัญที่สุชัชวีร์ตั้งคำถามคือ ปัจจัยต้นเหตุทั้งหมดเป็นสิ่งที่ภาครัฐรู้อยู่ คาดการณ์ได้ ว่าจะเกิดฝนตกหนักและภัยพิบัติ แต่กลับไม่มีการเตรียมการรับมืออย่างเป็นรูปธรรม ปล่อยให้ประชาชนต้องรอรับหายนะเพียงอย่างเดียว
ข้อความในภาพกราฟิกที่โพสต์ระบุคำถามตรง ๆ จากคนใต้ว่า “มันทำอะไรกัน (วะ)? นอกจากผลาญภาษี” สะท้อนอารมณ์ความคับแค้นใจของผู้ประสบภัยได้อย่างชัดเจน
สุชัชวีร์ยังกล่าวถึงญาติที่อาศัยอยู่ในหาดใหญ่ ซึ่งโทรศัพท์มาระบายความรู้สึกทั้งเสียใจและแค้นใจจากการสูญเสียทรัพย์สิน โดยเขายกตัวอย่างเหตุการณ์น้ำท่วมตั้งแต่ แม่สาย อยุธยา จนมาถึงหาดใหญ่ ว่าเป็นภาพสะท้อนของปัญหาเดิมที่ไม่เคยได้รับการแก้ไข
“เมื่อไหร่? เราจะแก้ปัญหาอย่างมืออาชีพเสียที” สุชัชวีร์ทิ้งท้าย พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหยุดการทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องมารับกรรมเช่นนี้อีก

เอ้ ชี้ ประเมินสถานการณ์ผิด ทำชีวิตคนหาดใหญ่เปลี่ยน ใครจะรับผิดชอบ?
หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ โพสต์เพิ่มเติมว่า น้ำท่วมหาดใหญ่คราวนี้ เสียงสะท้อนออกมาตรงกันว่า “ระบบเตือนภัยมีปัญหา” ฝนตกหนักระดับ “Rain Bomb”ในพื้นที่หาดใหญ่และหลายจังหวัดในภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. จนถึงวันที่ 22 พ.ย. ปริมาณน้ำฝนสะสม 3 วัน วัดได้ 595 มิลลิเมตร มากกว่าปี 2553 (516 มิลลิเมตร) ที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ เสียหายนับหมื่นล้านมาแล้ว
ปีนี้ ระดับน้ำสูงขึ้นต่อเนื่องจนกระทั่งเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองหาดใหญ่กลางดึกคืนวันที่ 22 พ.ย.โดย “แก้มลิงคลองเรียน” ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้แล้ว
ตามแผนเผชิญเหตุฯ จะต้องมีการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าก่อนเกิดสาธารณภัยไม่ต่ำกว่า 120 ชั่วโมง หรือ 5 วัน ซึ่งหากนับเอาวันที่ 22 พ.ย. เป็นจุดวิกฤติ เท่ากับว่าต้องออกประกาศเตือนภัยตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. และหากข้อมูลที่มียืนยันว่ามีโอกาสเกิดสาธารณภัยมากกว่าร้อยละ 60 ให้แจ้งเตือนภัยไม่ต่ำกว่า 72 ชั่วโมงหรือวันที่ 19 พ.ย.(ซึ่งเป็นวันที่ฝนตกหนัก ระดับน้ำเริ่มสูง)
แต่ในวันที่ 20 พ.ย. หรือ 48 ชั่วโมงก่อนเกิดสาธารณภัยน้ำท่วม ทางศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่มีนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่เป็นผู้อำนวยการ ยังเพิ่งออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 และแจ้งว่า “อยู่ในสภาวะปกติ ธงเขียว”
นี่คือความผิดพลาดร้ายแรงในการบริหารจัดการภัยพิบัติ และทำให้คนหาดใหญ่นับแสนต้องเผชิญชะตากรรม สูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน บ้าน รถ จมน้ำนับร้อยนับพัน มูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่าหมื่นล้านบาท(เทียบกับน้ำท่วมใหญ่ปี 2553 )
ใครจะรับผิดชอบ
ด้วยความห่วงใยครับ
สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- วิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่ “แม่หมอไอซ์” โพสต์สั่งลา น้ำมิดชั้น 2 ชาวบ้านติดในบ้านไร้คนช่วย
- แจ้งคนหาดใหญ่อพยพด่วน ! น้ำท่วมระดับ “วิกฤตสูงสุด” สูงกว่าปี 53
- รพ.หาดใหญ่ ประกาศให้ผู้ป่วยใช้บริการผ่านระบบโทรเวช มวลน้ำหนุนเข้ามา
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





