ข่าวดาราบันเทิง

มรสุมตีคู่ พลอย เฌอมาลย์ เปิดใจ มะเร็งเต้านม-ซึมเศร้า ถึงขั้น เข้า รพ.จิตเวช

หนึ่งปีที่หายไปของ พลอย เฌอมาลย์ คือการต่อสู้กับมะเร็งเต้านมระยะที่ 2 ลามต่อมน้ำเหลือง ภาวะซึมเศร้าหนัก นอนไม่ได้ น้ำหนักลดฮวบ 13 กิโลฯ จนต้องเข้ารักษาที่ รพ.จิตเวช

“เป็นผู้หญิงที่คนมองว่าแกร่ง แต่จริง ๆ อ่อนแอกว่าที่ใครคิด” นี่คือคำเล่าของ พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ที่ตัดสินใจเปิดเผยมรสุมชีวิตครั้งใหญ่ที่เพิ่งผ่านมา ในรายการ WOODY FM

กว่าหนึ่งปีที่พลอยหายหน้าไป คือช่วงเวลาที่เธอบอกว่า “หนักที่สุดในชีวิต” เมื่อต้องเผชิญกับการต่อสู้พร้อมกัน ทั้งมะเร็งเต้านมระยะที่ 2 และภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง จนน้ำหนักลดฮวบไป 13 กิโลกรัม ภายในเวลาเพียง 3 เดือน

พลอยเล่าว่า จุดเริ่มต้นทั้งหมดมาจาก “ความประมาท” ของตัวเธอเอง เธอเคยตรวจเจอก้อนเนื้อในเต้านมมาก่อนหน้านี้ ซึ่งคุณหมอแนะนำให้ติดตามผล แต่ด้วยความที่เธอเป็นคน “กลัวเข็ม” และกลัวการเจาะเส้น เธอจึงเลี่ยงการตรวจติดตามไปนานเกือบ 1 ปีครึ่ง

จนกระทั่งต้นปี 2024 เธอกลับไปตรวจอีกครั้ง ผลตรวจชี้ชัดว่า เต้านมข้างซ้ายเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 2 และลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง ทำให้ต้องผ่าตัดซ้ำถึงสองครั้ง เธอยอมรับว่าวันที่หมอบอกว่าเป็นมะเร็ง “ขาอ่อน น้ำตาไหลทันที” ไม่คิดว่าคนที่ออกกำลังกายและดูแลตัวเองมาตลอด จะต้องมาเจอกับคำนี้

การรักษามะเร็งของพลอยทำให้เธอต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช
ภาพจาก : WOODY FM

หลังการผ่าตัด พลอยต้องเข้าสู่กระบวนการฉายแสงถึง 25 ครั้ง สัปดาห์ละ 5 วัน เธอบอกว่า “หน้าอกไหม้ เจ็บมาก” แม้จะไม่ต้องทำคีโม แต่เธอต้องกินและฉีดยาลดฮอร์โมนเอสโตรเจนต่อเนื่อง 1 ปีครึ่ง ซึ่งส่งผลให้ประจำเดือนขาดเหมือนเข้าสู่วัยทอง และอารมณ์เหวี่ยงอย่างรุนแรง

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ร่างกายและจิตใจของเธอก็เหมือนถูกดึงลงเหวพร้อมกัน ไม่ใช่แค่มะเร็งที่ถาโถม แต่ยังมีเรื่องงาน ปัญหากับผู้จัดการ และเรื่องส่วนตัวอีกหลายเรื่อง ที่ประดังเข้ามาในเวลาเดียวกับที่เธอกำลังรักษาตัว

พลอยเล่าว่า เธอตกอยู่ในภาวะ “โรคซึมเศร้าหนัก” นอนไม่ได้ ร้องไห้แทบทุกวัน อยู่ในสภาพ “ตาลอย” และจมอยู่กับความเศร้าจนจำตัวเองไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร สุดท้ายจึงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจิตเวช เพราะไม่ไหวแล้วจริง ๆ เธอยอมรับว่ามีช่วงที่ทำร้ายตัวเอง เพราะอยากให้อีกคนเห็นใจ ซึ่งนั่นคือสัญญาณว่าเธอปล่อยให้ใจตัวเองพังเกินไปแล้ว

ในช่วงที่สภาพจิตใจแย่ที่สุด พลอยเลือกที่จะปิดประตูห้อง ปิดโทรศัพท์ ไม่รับงาน และเก็บตัวเงียบ ไม่กล้าบอกแม้แต่เพื่อนสนิทว่าเธอกำลังป่วยเป็นมะเร็ง เพราะกลัวเพื่อนลำบากใจและกลัวคนอื่นเป็นห่วง เธอจึงเลือกที่จะจัดการกับพายุทั้งหมดนี้เพียงลำพัง

การรักษามะเร็งของพลอยทำให้เธอต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช
ภาพจาก : WOODY FM

ข่าวดีคือ พลอย เฌอมาลย์ ในวันนี้ ได้ผ่านจุดที่มืดที่สุดมาแล้ว เธอบอกว่าช่วงที่เริ่มดีขึ้นคือราวเดือนเมษายนที่ผ่านมา น้ำหนักเธอกลับมาเพิ่มขึ้นราว 8 กิโลกรัม ผลตรวจสุขภาพล่าสุด “ปลอดภัย” แต่ยังต้องกินยาและติดตามอาการต่อเนื่อง เธอเริ่มกลับมาออกกำลังกาย ปรับการกิน และใช้ชีวิตให้ช้าลง

ที่สำคัญที่สุดคือ เธอกลับมาฟังเสียงหัวใจตัวเอง พลอยกล่าวว่า เธอยอมรับแล้วว่า “เรามีสิทธิ์อ่อนแอ” ไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเองให้เข้มแข็งตลอดเวลา และบอกตัวเองว่าเดี๋ยวเราจะดีขึ้น “ถึงเวลาที่เราต้องกลับมารักตัวเองให้มาก ๆ เพราะไม่มีใครทำให้เราดีขึ้นได้ นอกจากตัวเราเอง”

พลอยยังฝากย้ำถึงผู้หญิงทุกคนว่า อย่าประมาทสุขภาพ ถ้าพบก้อนเนื้อหรือความผิดปกติ ห้าม “ดอง” การตรวจเหมือนที่เธอเคยทำ อย่าปล่อยให้ความ “กลัวเข็ม” กลายเป็นเหตุให้ทุกอย่างลุกลาม เพราะถ้ารู้เร็ว มะเร็งเต้านมจำนวนมากสามารถรักษาให้หายได้

บทสัมภาษณ์ พลอย เฌอมาลย์ ในรายการ WOODY FM

วู้ดดี้: FM ในวันนี้เราจะได้มีโอกาสคุยกับน้องรักที่คบกันมานาน แต่ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงที่ผ่านมาเราไม่ได้เห็นพลอยเฌอมาลย์ได้มีโอกาสเปิดใจคุยหลายเรื่องมาก ถามพลอยเลยแล้วกันว่า คิดว่าวันนี้คนที่เปิดมาดูคอนเทนต์ของเราเนี่ย เขาจะได้ประโยชน์อะไรกับเรื่องที่เราจะพูดคุยบ้างในวันนี้

พลอย เฌอมาลย์: เป็นเรื่องของการให้กำลังใจ เกี่ยวกับการรักตัวเองนะคะ แล้วก็การก้าวข้ามผ่านความกลัว สู้กับความกลัวของตัวเองให้ได้ เป็นแนวนี้ที่พลอยจะคิดว่าสามารถจะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้ก้าวข้ามผ่านเรื่องยาก ๆ สิ่งยาก ๆ ในชีวิตไปได้แล้ว ก็การที่ว่ากลับมารักตัวเอง กลับมาดูแลหัวใจตัวเอง ก็เป็นประสบการณ์ชีวิตของพลอยในช่วงที่ผ่านมา คิดว่าน่าจะเป็นกำลังใจ แล้วก็ empower ให้กับคนอื่น ๆ ได้บ้างค่ะ

วู้ดดี้: มีคำที่คนใช้กันบ่อยมาก ถามว่า How are you feeling วันนี้ นี่มีการลังเลนะ แสดงว่ายังไม่ 100%

พลอย เฌอมาลย์: อือ จริง อ ดีขึ้นค่ะ แต่ยังไม่ 100% ค่ะ เพิ่งกลับมาดีขึ้นค่ะ

วู้ดดี้: ทุกสิ่งทุกอย่างค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ซึ่งชีวิตของพลอยพี่รู้จักมาก็มีหลาย Chapter มาก เหมือนพวกเราทุกคน มนุษย์ทุกคนแหละครับ มันก็จะมีหลายช่วงชีวิตนะครับ แล้วช่วงประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าเราจะเจอกันในตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างเช่นดำน้ำ พลอยก็จะแฮปปี้ ยิ้มแย้มเท่าที่ยูสามารถทำได้ แต่พอเราไม่ได้เจอ กันเนี่ย แล้วก็จะเห็นในข่าวคราว ยูก็จะมีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นในชีวิตอยู่ เออ แล้วก็บาง แล้วบางเรื่องมันก็รู้สึกมันถาโถมมากเนาะ เออ แล้วเราก็เลยคิดว่า โอ้โห ว้าว ไม่เจอกันปีนึง มีเรื่องเยอะมาก เออ

พลอย เฌอมาลย์: มันมาเรื่อย ๆ มันมาเรื่อย ๆ

วู้ดดี้: แล้วยูบริหารจิตใจจากวันนั้นที่ยูอาจจะต้องมานั่งจัดการตลอด วันนี้ได้วางระดับไหนล่ะ การบริหารจิตใจนี่มัน…

พลอย เฌอมาลย์: พลอยพูดตรง ๆ นะว่าพลอยไม่ใช่คนที่เข้มแข็งและแข็งแรง การที่พลอยแสดงออกมาเนี่ย แสดงตัวว่าพลอยแข็งแรง พลอยเข้มแข็ง จริง ๆ แล้วมันเป็นกรอบป้องกันตัว จริง ๆ แล้วตัวเองเป็นคนอ่อนแอ ก็รักษาตัวเองตามสถานการณ์นั้น ๆ ไปอะไร เงี้ยค่ะ ทุกวันนี้ยอมรับเลยนะคะว่าโตมาเนี่ย อยู่ในวงการบันเทิงมา 30 กว่าปีแล้วเนี่ย ณ เหตุการณ์บางครั้งพลอยยังไม่สามารถจัดการกับความคิดตัวเองได้เลย แต่ก็ไม่แปลก เพราะว่าคนเรามันมีสิทธิ์ที่จะอ่อนแอ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะอ่อนแอ จะพ่ายแพ้ จะแบบไม่สามารถสู้กับความรู้สึกของตัวเองได้ในแต่ละครั้ง แต่พลอยก็รู้สึกว่าพลอยค่อย ๆ จัดการมันไปทีละนิด ทีละขั้นตอนอะไรเงี้ยค่ะ แล้วก็ทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

วู้ดดี้: เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่อยากคุยก่อน เพราะว่าช่วงนี้เราก็เห็นทั้งพลอยเอง พระองค์หญิงเอง หลาย ๆ คน หลาย ๆ ท่านด้วยกัน ก็ออกมาแบ่งปันเกี่ยวกับเรื่องของ มะเร็งเต้านม ใช่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้หญิงก็พบเจอกันบ่อย แล้วก็มีการพูดกันเสมอว่า ถ้ามีโอกาสก็จะหมั่นตรวจเช็ก Journey ของพลอยในช่วงที่ผ่านมากับเรื่องเนี้ยนะ คิดว่ามันสอนอะไรล่ะ

พลอย เฌอมาลย์: ความประมาท ความประมาทของพลอยเลยแบบ อย่าประมาทแม้แต่วินาทีเดียว แล้วก็ขอเท้าความนิดนึงได้ไหมคะว่า สิ่งที่มันเกิดขึ้นเนี่ย เป็นเพราะความประมาทของพลอย ก็คือพลอยตรวจเจอแล้วล่ะ เจอก้อนเนื้อ แต่ว่าตอนนั้นน่ะก้อนเนื้อมันยังดูไม่น่าอันตรายสักเท่าไหร่ แล้วพลอยเป็นคนที่กลัวเข็มเจาะเส้นเลือดมาก พลอยก็เลยเหมือนชะล่าใจ ไม่ไปตรวจสุขภาพประมาณปีครึ่ง แล้วพอมาตรวจอีกทีเนี่ย รูป ร่างของก้อนเนื้อเนี่ย ชิ้นเนื้อเนี่ยเปลี่ยน แปลงเป็นมะเร็ง ประมาณ เขาเรียกว่า 4B something นี่แหละ ก็คือฟันธงเลยว่าเป็นมะเร็งอะไรอย่างเงี้ย ทีเนี้ย มันก็สอนให้พลอยรู้ว่า พลอยควรจะไม่ประมาทกับการดูแลตัวเอง อย่า อย่าปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีกอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
วันที่ถูกวินิจฉัย [diagnosed] นะฮะ กี่ปีแล้วช่วงนั้นน่ะคะ

วู้ดดี้: เอ่อ ปีที่แล้วค่ะ ปีที่แล้วก็ 2024 เนาะ ช่วงกุมภาพันธ์ที่พลอยไปดำน้ำราชาอัมพัต ไม่มีใครรู้เลยใช่ไหม พี่ก็อยู่

พลอย เฌอมาลย์: ครั้งแรกที่รู้ก็ อื้อหือ ด้วยคำว่าเป็นมะเร็งอ่ะนะพี่วู้ดดี้ คำว่ามะเร็งเนี่ย ทุกคนแบบขาอ่อนเลยอ่ะ ขาอ่อน ใจสั่น แบบน้ำตานี่มาเต็มที่ เพราะว่าไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเรา กับเราผู้ที่… เราเป็นคนดูแลสุขภาพ เราออกกำลังกายอะไรอย่าง เงี้ย ไม่คิดว่าวันนึงจะเป็น ณ ตอนนั้นนี่ก็คือมีความเครียดสูงมาก แต่ว่าเก็บความเครียดไว้ ไม่บอกใคร แล้วก็ไปพักผ่อนเต็มที่ ไปดำน้ำ ใช้ชีวิตตามปกติอะไรเงี้ย แต่จริง ๆ ข้างในนี่แบบโอ้โห weak มาก อ่อนแอมาก

ตอนที่รู้ว่าจะต้องมีการเยียวยารักษาแล้ว ตอนนั้นคือต้องรักษาแล้ว ต้องไปผ่าตัด นัดผ่าตัดหลัง… หลัง จากทริปนั้นก็จะนัดผ่าตัดค่ะ ก็ไปผ่าตัด เจอข้างซ้าย ก็ข้างซ้ายชัดเจนมาก แต่ข้างขวาไม่ชัดเจน ก็มีการเจาะชิ้นเนื้อข้างขวาเนี่ยออกไปตรวจก่อนว่ามันคืออะไร แต่ผลสรุปออกมาก็คือข้างขวาเป็น เป็นหินปูน ไม่อันตรายมากมาย ทีเนี้ย ก็ข้างซ้ายเนี่ยฟันธงแล้วต้องรับการผ่าตัดชัวร์ ๆ ก็ผ่าตัดออกมา พอผ่าตัดแล้วเอาชิ้นเนื้อมะเร็งเนี่ยไปตรวจแล็บ ก็พบว่ามันมี 2 สายพันธุ์ เป็น Ductal คือมะเร็งเต้านม แล้วก็ Lobular คือต่อมน้ำเหลือง ก็เป็น Stage 2 ไม่จบ

พอพลอยรู้ว่าเป็นสเตจ 2 เนี่ย พลอยถามว่าแล้วมันจะไปสเตจ 3 มั้ยคะ เขาก็บอกว่าต้องลุ้นตอนผ่าตัดเท่านั้นค่ะ เราก็เลยแบบน้ำตาก็รื้นมาอีกแล้ว โอ้โหแบบกลัวมาก กลัวมาก กลัวว่ามันจะลามไปอวัยวะอื่นอะไรอย่างเงี้ย แต่คุณหมอก็บอกไม่ ต้องกังวลนะคะอะไรอย่างเงี้ย แล้วพอผ่าตัดครั้งที่ 2 เสร็จปุ๊บก็โชคดีที่ว่ามันจบแค่นั้น พลอยก็ดีใจมาก ๆ เลยกับการที่ว่ามันจบแค่นั้น หลังจากนั้นก็รักษาตามขั้นตอน ก็ ฉายแสง 25 ครั้ง อะไรอย่างเงี้ย ก็แล้วก็ต้องทุกวันนี้ก็กินยา กดฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผู้หญิงอะไรอย่างเงี้ย ก็พูด ตรง ๆ ว่าตอนนี้พลอยวัยทองแล้ว วัยทองโดยยา ไม่ มีประจำเดือนมาเกือบ 2 ปีแล้ว ใช้ชีวิตลำบากมาก เพราะว่ามันเรื่องของสภาวะทางด้านอารมณ์ด้วย สวิงด้วยอะไรอย่างเงี้ยค่ะ มันก็แบบอารมณ์แปรปรวนมาก ๆ เลยในช่วงแรก ๆ อะไรอย่างเงี้ย แต่ตอนนี้ก็อยู่ในภาวะที่เริ่มควบคุมได้ดีมากขึ้นค่ะ

วู้ดดี้: ช่วงแปรปรวนที่หนักที่สุดในวันนั้นมันขนาดไหน ที่บอกโอ้ร้องไห้ต่อเนื่อง แล้วมันอยู่เป็นอาทิตย์เลยไหมที่มันจมลงไป มัน Depression มั้ย

พลอย เฌอมาลย์: มาก ๆ เลยพี่วู้ดดี้ คือตอนมัน… คือมันเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่าแบบ ภาวะซึมเศร้ากลับมาทันที เพราะว่าช่วงนั้นเนี่ยพลอยต้องเครียดกับการรักษาตัวเอง 1 อ่ะ แล้วก็มีเรื่องที่มันแบบเข้ามาในชีวิตที่ทำให้เราแบบหมดกำลังใจ เหนื่อยใจอะไรเงี้ย มันเหมือนเข้ามาในเวลาเดียวกัน แล้วมันทำให้แบบจิตใจเรามันรับไม่ทัน รับไม่ไหว ทีเนี้ยมันก็เลยแบบ depress หนักมาก หนักมาก หนักมาก จนพลอยเริ่มแย่ น้ำหนักพลอยลงแบบ 13 กิโล ภายใน 3 เดือน นิด ๆ แบบ 13 กิโลแบบฮวบ แล้วก็แบบนอนไม่ได้ เครียดอะไรอย่างเงี้ย เป็นอย่างนั้นเลย เป็นแบบเป็นปี จนเพิ่งดีขึ้นเมื่อเดือนเม… ต้นเดือนเมษายนปีนี้เอง

อยู่ในสภาวะนั้นคือแบบเกือบปี ที่ว่าพี่วู้ดดี้ก็ไม่ได้เจอพลอย ไม่เจอ พี่เปิ้ลชวนไปดำน้ำตลอด พลอยก็แบบเหมือนแบบไม่ไป ไม่เจอใคร เก็บตัว

วู้ดดี้: งานก็ไม่รับเหรอ

พลอย เฌอมาลย์: งานรับค่ะ แต่ว่าพลอยต้องแคนเซิลละครเรื่องนึงไป เพราะว่าด้วยความที่ว่าสภาพร่างกายไม่พร้อม 1. ร่างกายไม่พร้อม จิตใจไม่พร้อมอะไรอย่างเงี้ย เพราะว่าพลอยเครียดหนักถึงขนาดที่ว่า พลอยสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไป ที่พลอยเคยสัมภาษณ์ว่าพลอยร้องไห้กับตัวเอง แล้วพลอยจำไม่ได้ว่าพลอยเฌอมาลย์เธอคือใครอ่ะ ทำไมเรารู้สึกว่าเราไม่มีความมั่นใจ รู้สึก insecure รู้สึกสูญเสียความเป็นตัวเองมาก มันทุกอย่างมัน โหพี่วู้ดดี้ มันเข้ามาจนแบบไม่กล้าทำอะไร ไม่มีความมั่นใจที่จะใช้ชีวิต หรือไม่กล้าทำอะไรเลย แบบใช้ชีวิตอยู่กับความหวาดระแวง แล้วก็ความกลัวของตัวเอง แล้วก็ขังตัวเองอยู่ในบ้าน ไม่ ออกไปเจอคน นอนก็นอนไม่ได้ อยู่ในสภาวะที่มันมีความเครียดที่ค่อนข้างสูงมาก ๆ ประหลาดใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมตัวเองไปอยู่ในจุดนั้นได้

วู้ดดี้: แล้วมีวิตกกังวล มีวิตกกังวลมาก

พลอย เฌอมาลย์: อยู่ ในสภาวะที่มีความเครียดสูง คือหลับตาเมื่อไหร่ หัวก็จะคิด ๆ ๆ ๆ อะไรอย่างเงี้ย แล้วก็แบบ Panic Attack มือไม้สั่น แบบคือพี่วู้ดดี้ แบบสั่นอย่างเงี้ยตลอดเวลา แล้วก็หน้าพลอยไม่ใช่หน้าอย่างงี้นะ หน้าไม่มีรอยยิ้ม ครูลูกกอล์ฟพูดกับคำนึงตอนนั้นเจอพลอยว่า พี่พลอย หนูรู้จักพี่มานานมากเลยนะ วันเนี้ยถ้าหนูไม่รู้จักพี่เมื่อก่อนน่ะ หนูจำไม่ได้เลยนะว่าพี่คือพลอยเฌอมาลย์ ก็แบบฟังแล้วเราก็ตกใจ เพราะเราก็จำตัวเองไม่ได้เหมือนกัน สภาพตนที่แย่มาก แย่จริง ๆ แบบไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองแย่ที่สุดมาในชีวิตอย่างนี้มาก่อนอะไรอย่างเงี้ย แล้วเชื่อว่าหลายคนที่ดูอยู่ตอนนี้อาจจะเจอเหตุการณ์นี้ กำลังจะเจอ หรือกำลังเป็นอย่างที่พลอยบอก คือดิ่งสุดแล้ว ดิ่งสุดเกิดอะไรขึ้น แสงสว่างมันรอดเข้ามาตอนไหน

วู้ดดี้: ในช่วงต้นปีนิด ๆ ที่ยูเริ่มรู้สึกว่ามันจะค่อย ๆ กลับขึ้นมา

พลอย เฌอมาลย์: เจ็บให้มันสุด ไปให้มันสุด จนความเจ็บนั้นมันเป็นเรื่องที่เราไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว เริ่มแบบชินชา กับมันแล้วอ่ะค่ะ พลอยรู้สึกว่าพลอยอยู่กับความทุกข์แล้วก็ความเจ็บปวดเนี่ยมานานแล้ว เป็นปี กว่าแล้วอ่ะ พลอยรู้สึกว่าพลอยอยากหลุดพ้นแล้ว พลอยเริ่มรู้สึกว่าพลอยดูสภาพตัวเองให้ดูไม่ได้เลย แล้วพลอยจำตัวเองไม่ได้แล้ว พลอยรู้สึกว่าพลอยไม่อยากเป็นอย่างเงี้ย พลอยไม่อยากเป็นคน ๆ นี้อีกแล้วอ่ะ พลอยอยากได้พลอยคนเดิมกลับมา ก็เริ่มรู้สึกว่าต้องดึงหัวใจตัวเองกลับมาที่บ้าน เอาใจตัวเองกลับมา รักตัวเอง คำว่ารักตัวเองเนี่ยเราเคยฟังผ่านเยอะ ๆ แต่พลอยไม่เคยตั้งใจแล้วก็พินิจพิเคราะห์ถึงคำนี้จริง ๆ ว่ารักตัวเองมันคืออะไร (Self love เนาะ) คือพลอยนั่งคิดอ่ะ รักตัวเองคืออะไร รักตัวเองคืออะไร ทำให้ตัวเองมีความสุข ดูแลตัวเอง

ความรักที่เราเคยมีให้ใคร หรือเราเคยให้สิ่งนั้นกับใครเนี่ย เราให้ตัวเองบ้างสิ ทำให้กับตัวเอง ก็เลยเริ่มฟื้นขึ้นมา รู้สึกว่า เออ อ่ะ อย่างพลอยก็เริ่มแบบให้กำลังใจตัวเองทุก ๆ วัน กอดตัวเองแน่น ๆ กลับมาออกกำลังกาย เริ่มนอนดีขึ้น รักษาตัวเอง ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองเนี่ยสุขภาพดี ทำให้ตัวเองมีความสุข บางวันก็อาจจะมีบ้างนะคะที่ว่าเราแบบกลับไปอยู่ในจุดที่คิดถึงเรื่องความเครียดของเรานะ พลอยก็พยายามแบบอย่างเงี้ย cancel cancel cancel ไม่เอา ไม่เอา พลอยคิดได้ พอ พอหยุด เราต้องเดินต่อไปข้างหน้า ไม่ ไม่จมอยู่กับที่เดิม การ Self Talk เป็นเรื่องสำคัญมาก

วู้ดดี้: เพราะเสียงในหัวที่เขาพูดกันเนี่ย ทุกวันนี้เสียงในหัวลั่นเนี่ย เนาะ ที่เป็นมุกกันเนอะ ก็มันเป็น… ก็มันเป็นสิ่งที่ลั่นแล้วมันทุกข์มาก เพราะว่าเราอ่ะจะพูดกับตัวเองต่าง ๆ นานาว่า ชีวิตฉันมันไม่ดี ฉันมันพินาศ ฉันมันแย่ อนาคตมันไม่มีใช่ไหม ทั้งที่ไม่มีอะไรเลย เราก็อยู่กับตัวเราเอง แต่ไอ้เสียงในหัวที่เราฟังตัวเองเนี่ย จนโดนกรอกสมองจากตัวเราเองเนี่ย ใช่ มันทำให้ทุกข์ใจมากขึ้น แล้วมันก็ร่วง ๆ ไป แต่การที่เายกสติขึ้นมาและ Cancel อย่างที่คุณบอก แล้วยิ่ง Tap ไปเนี่ยนะ มันไม่ใช่แค่หยุด แต่มันคือ นี่ เคาะอย่างงี้เลย เคาะเลย เคาะแรง ๆ แบบคือแบบ หยุด ลุกขึ้นมา พลอย ลุกขึ้นมา ไม่เอา อย่าทำแบบนี้ อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้ อย่าให้ความคิดของตัวเองมาทำร้ายตัวเอง ดัง นั้น ดึงสติ ดึงสติขึ้นมา กลับมาปัจจุบัน ต้องเดี๋ยวนี้

พลอย เฌอมาลย์: แล้วทำบ่อย ๆ เดี๋ยวทำบ่อย ๆ ค่ะ ฝึกให้มันเป็นนิสัย เออ ฝึกให้มันเป็นนิสัย มันเป็นเรื่องธรรมดาค่ะที่เราจะเผลอเอาตัวเองกลับไปอยู่ในความทุกข์ หรือว่าไปอยู่ในเรื่องราวของอดีตที่เราไม่สามารถลืมได้ อือ คือมันเป็นเรื่องธรรมดามาก แต่ว่าให้มองว่ามันเป็นเรื่องปกติ แล้วเราก็ต้องมีสติที่จะดึงตัวเราออกมาจากตรงนั้น

วู้ดดี้: เพราะการเป็นมะเร็งก็เป็นเรื่องปกติค่ะ การมีปัญหาเรื่องหัวใจก็เป็นเรื่องปกติ และเป็นไม่รู้กี่ครั้ง มนุษย์ค่ะ และการที่จะพลาดพลั้ง การที่จะผิดหวังก็เป็นเรื่องปกติ ความทุกข์เป็นเรื่องปกติ แล้วเราก็ลุกขึ้นมาเดินต่อ ก็เลยหวังว่า EP นี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อ 100 คนที่กำลัง… จงเชื่อว่าเมื่อลงแล้วมันก็ต้องมีขึ้น ใช่

พลอย เฌอมาลย์: ชีวิตมันคงไม่ ไม่แย่ไปตลอดอ่ะ มันอยู่ที่เราเลือกด้วยนะคะ พลอยเชื่อว่าแบบเราสามารถควบคุมความคิดของเราได้ เราสามารถควบคุมตัวเองได้ เอาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ดีได้ หยุดที่จะคิดอะไรที่มันเศร้า หยุดจมกับอดีต เดินหน้า บังคับตัวเองให้เดินหน้า แล้วก็บอกตัวเองว่า อย่าไปควบคุมอะไรที่เราควบคุมไม่ได้ ปล่อยวาง ช่างมัน

เพราะเมื่อเราช่างมันเมื่อไหร่เนี่ย เราจะไปต่อได้นะ ใช่ เพราะเราไม่พันธนาการตัวเองกับความทุกข์ ก่อนหน้านั้นพลอยเหมือนตัวเองไปพันธนาการกับความทุกข์ ไปอยู่ตรงนั้นอ่ะ เอาตัวเองออกมาไม่ได้อ่ะ แต่ว่า ณ วันนี้ที่เอาตัวเองออกมาได้แล้ว รู้สึกว่ามีความสุขมาก ๆ แล้วก็ภาคภูมิใจในตัวเองมาก ๆ ว่าเราสามารถเดินหน้าต่อไปได้

วู้ดดี้: พี่คิดว่าคุณก็ได้เข้าคอร์สพิเศษแล้วนะ ปีนึงเนี่ย คอร์สของการเตือนสติ เจริญสติของตัวเองในแบบฉบับพลอยเฌอมาลย์เนี่ย ที่มีอาวุธพิเศษที่คุณจะใช้สำหรับอนาคต แล้วเมื่ออะไรมันจะมาอีกรอบนึงเนี่ย คุณจะได้จำไว้เลยว่า เฮ้ย ฉันก็ผ่าน มาแล้ว ฉันก็ผ่าน มาแล้ว แล้วก็ผ่าน มาได้

พลอย เฌอมาลย์: ซึ่งหนทางกว่าจะผ่านมาได้เนี่ย ล้มไม่รู้กี่รอบ กลิ้งไม่รู้กี่รอบ แต่ก็ดีใจที่ตัวเองผ่านมาได้ค่ะ ด้วยคำที่ว่า รักตัวเองบ้างเถอะ

วู้ดดี้: พี่ว่าแค่เราบอกว่าเรายังมีลมหายใจอยู่ แค่นี้ก็ถือว่าเป็นเป็นอะไรที่โชคดีแล้ว

พลอย เฌอมาลย์: พลอยไม่คิดว่าพลอยจะโชคดีขนาดนี้ที่ได้มีชีวิต เพราะฉะนั้นต้องรักษาชีวิตไว้ตัวเองดี ๆ ได้เกิดมาเป็นคนเราถือว่าโชคดีแล้วค่ะ

วู้ดดี้: มีเรื่องหนึ่งที่วู้ดดี้เองก็ไม่เคยรู้มาก่อน แม้กระทั่งเราดำน้ำด้วยกัน คือคุณมี โฟเบียเรื่องน้ำ เหรอ

พลอย เฌอมาลย์: ใช่ คือพลอยเนี่ยเป็นคนที่กลัวน้ำหนักมาก เพราะเนื่องจากตอนเด็ก ๆ เนี่ยจมน้ำ พ่อบังคับให้ว่ายน้ำ ทีนี้ว่ายน้ำก็จมน้ำก็กลัว แล้วก็มีครั้งนึงที่กลัวมาก ๆ ก็คือคุณพ่อพลอยเป็นคนชอบตกปลา แล้วพลอยก็พลัดตกเรือกลางทะเล แล้วก็แบบตะกายอยู่ในทะเลอย่างงั้นน่ะ ตะกายอยู่พักนึง

จำได้ว่าตัวเองเนี่ยเหมือนเริ่มไม่ไหวแล้ว จมลงไปในน้ำ แล้วมือของคุณพ่อจับศีรษะเรา แล้วก็หยิบผมเราดึงขึ้นมาเหนือน้ำ ตั้งแต่ตอนนั้นนี่คือแบบกลัวมาก ทั้ง ๆ ที่เป็นคนชอบทะเล รักธรรมชาติมาก แต่มีความกลัวน้ำตลอดเวลา จนวันนึงเนี่ยเจอเพื่อน ๆ ที่ดำน้ำ เขาก็พยายามชวน

จนเราคิดว่า เออ ทำไมเราไม่เอาชนะความกลัวของเราล่ะ พลอยรู้สึกว่าเกิดมาครั้งนึงในชีวิตเนี่ย เราต้องได้สัมผัสโลกใต้น้ำ แล้วก็เอาชนะความกลัวของตัวเอง เอาชนะใจตัวเอง ด้วยการไปเรียนดำน้ำ เรียนว่ายน้ำ แล้วก็ฝึกให้ตัวเองอยู่กับมันให้ได้ แล้วสุดท้ายมันก็ไม่แย่อย่างที่คิด

จำได้ว่าครั้งแรกที่ลงน้ำปุ๊บ… พอกระโดดลงน้ำปุ๊บ ลืม ลืม ลืมความกลัวนั้นไปเลย รู้สึกว่าความสวยงาม ความงดงามของธรรมชาติ มันทำให้เราลืมความกลัวไปหมดเลย อยู่ดี ๆ มันก็ลืมอ่ะพี่วู้ดดี้ มันเหมือนแบบใจเราชนะความกลัวนั้นไปแล้วอ่ะ แล้วมันก็หายไปเลย

วู้ดดี้: น่าคิด เพราะว่าถ้าวันนั้นคุณไม่เปลี่ยนความกลัวเป็นความกล้า เราจะได้เห็นความงดงามในใต้ท้องทะเลแบบนี้ไหม ถ้าวันนั้นเราไม่อนุญาตให้ตัวเองลองดูสักตั้ง มันเป็นทีละสเต็ปไง ทีละสเต็ป

พลอย เฌอมาลย์: ใช่ ต้องขอบคุณตัวเองที่ว่าเราได้มีความกล้าหาญกับเขาสักที ไม่ งั้นถ้าเรามัวแต่กลัวแล้วอยู่กับความกลัวของเรา เราก็จะไม่ได้เห็นสิ่งที่สวยงามบนโลกนี้

วู้ดดี้: ต้องสำรวจดี ๆ ว่าอะไรที่มันปลดล็อกได้บ้างกับชีวิต กลัวอะไรก็ตาม ถามใจตัวเองว่ามันเกิดขึ้นมาเพื่อให้คุณก้าวผ่าน หรือเกิดขึ้นมาเพื่อให้คุณถดถอย ไม่มีอะไรจะหยุดคุณได้หรอก นอก จากใจคุณเองเท่านั้นเอง

พลอย เฌอมาลย์: แล้วพลอยก็คิด วันที่พลอยตัดสินใจดำน้ำอ่ะ พลอยมีคำนึงที่บอกกับตัวเองว่า ถ้าเราตายไปแล้วเราไม่ได้ทำสิ่ง ๆ เนี้ย จะเสียดายมากที่เกิดมาเป็นคน พลอยเลือกที่จะสู้ แล้วก็เลือกที่จะเปลี่ยนทัศนคติ ปรับทัศนคติ ตัวเองใหม่

วู้ดดี้: โดดร่มเหรอ

พลอย เฌอมาลย์: อันนั้นนี่ ยังกลัวอยู่ คิดอยู่ว่าความกล้าหาญของเราจะไปถึงตรงนั้นไหม แต่ก็คิดไปคิดมา อืม ถ้ามันยังไม่จำเป็น ก็ไม่ ต้องพิสูจน์อะไรให้กับตัวเองทุก ๆ เรื่องก็ได้นะ คนเราไม่ต้องเก่งไปทุก ๆ เรื่อง

วู้ดดี้: พูดถึงเรื่องของการเปิดรับมากขึ้นดีกว่า วันนี้ที่เรามาคุยกันเนี่ยนะครับ เราก็มีพาร์ทเนอร์อย่าง LBC ที่พาร์ทเนอร์กับเรา แล้วก็สนับสนุนความงามของพลอยด้วย เล่าให้ฟังซิว่าทำไมถึงไว้วางใจ

พลอย เฌอมาลย์: ใช่ LBC เนี่ย คือเขาเป็นคลินิกที่แบบว่ามีชื่อเสียงมานานแล้ว ทีมแพทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือผลิตภัณฑ์ที่เขาเลือกใช้ให้กับลูกค้า เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกรดคุณภาพพรีเมี่ยมและคุณภาพดี และที่สำคัญเนี่ย แพทย์ใจดี มือเบา และได้รับคำปรึกษาที่มันจริงใจมาก ๆ ผลลัพธ์จากการที่ได้ LBC มาดูแลเนี่ย เป็นผลลัพธ์ที่มันสวยงามมาก ๆ แล้วเป็นเวอร์ชั่นที่เป็นตัว เอง ที่เป็นเวอร์ชั่นที่ดี

วู้ดดี้: แล้วตอนนี้พลอยว่าการทำหัตถการเนี่ย เป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตอยู่ของมนุษย์ทุกวันนี้เลยจริง ๆ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแล้ว

พลอย เฌอมาลย์: นอก จากแบบว่าออกกำลังกายแล้วเนี่ย การดูแลตัวเองเนี่ยเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เราต้องดูแลตัวเองจากภายในแล้วก็ภายนอก พลอยนี่ทุกเดือนพี่วู้ดดี้ ทุกเดือน ทุกเดือนเข้าคลินิกค่ะ ดูแลตัวเองค่ะ เพราะว่า ณ ตอนเนี้ย อย่างที่พลอยบอกว่าพลอยกินยาต้านฮอร์โมนเอสโตรเจน ฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นฮอร์โมนที่สำคัญมากสำหรับเพศหญิง พอพลอยกินยาต้านตรงนี้แล้วเนี่ย โดนกดไว้เนี่ย พลอยก็จะดูเร็ว เพราะฉะนั้นพลอยยิ่งต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น

วู้ดดี้: ขีดจำกัดของยูเป็นยังไง

พลอย เฌอมาลย์: ขีดจำกัดของพลอยคือ การดูแลตัวเองให้เป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด เวอร์ชั่นที่เป็นตัวเองในแบบของตัวเอง แต่ดีกว่าเดิม และ ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ได้เปลี่ยนเป็นหน้าใหม่ พลอยต้องการเหมือนให้แบบว่ารู้สึกว่าเรายังสวยเป็นตัวเราอยู่

วู้ดดี้: อะไรคือสิ่งที่คิดว่า LBC พิเศษ ที่ยูชอบ ที่ยูพอใจ

พลอย เฌอมาลย์: พลอยดูดีขึ้นในเวอร์ชั่นที่เป็นตัวพลอยเอง แล้วมันดูธรรมชาติอ่ะ ดูไม่แข็ง ตั้งแต่พลอยให้มาดูแลพลอยเนี่ย พลอยรู้สึกว่าพลอยมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

เคยมีบางที่รู้สึกไม่แฮปปี้ พลอยเป็นคนระวังเรื่องนี้มาก ๆ ถามว่าเคยเจอมั้ยที่ประสบการณ์แย่ ก็เคยเจอ ก็ไปปรึกษาคุณหมอที่ LBC เขา ก็จัดให้เลย สลายเลยค่ะ ฉีดสลาย คุณพลอยครับ นับ 1 ใหม่ เออ เริ่มใหม่ อยากรู้ว่าพลอยทำอะไรเนี่ย ต้องไปถามว่าคอร์สคุณมัมเนี่ย โปรโมชั่นคุณมัมเนี่ยมีอะไรบ้างคะ

วันนี้ LBC ฝากโปรโมชั่นที่ไม่เคยให้ส่วนลดแบบนี้ที่ไหนมาก่อน โปรโมชั่นผลิตภัณฑ์ทุกยี่ห้อ ซื้อ 2 ซีซั่น แถมฟรีอีก 1 ซีซั่น แล้วยังไม่พอค่ะ แถมโปรแกรมหน้าใสอีก 2 เข็มด้วยค่ะ เพียงแอด Line เข้ามานะคะ แล้วแจ้งด้วยว่าต้องเป็น โปรจาก Woody FM

วู้ดดี้: คุณเป็น Best Version ของคุณในรอบหลายปีแล้วล่ะพี่บอกเลยวันนี้ Aura มันออกมามากเนาะ เรื่องราวที่เราคุยในวันนี้เราไปหลายทางหลายเรื่องมาก ถ้าจะต้องเลือก 1 เรื่องในวันนี้ที่คุณคิดว่าน่าจะ เป็นประโยชน์สุด

พลอย เฌอมาลย์: คนเราทุกคนมันล้มได้ มันล้มได้ แต่เพียงแค่ว่าเราล้มแล้วเราจมกับมัน แต่ อย่าจมนาน เราต้องลุกขึ้นมา เราต้องลุกขึ้นมาสู้เพื่อตัวเอง อยากให้ทุกคนต่อสู้กับความกลัวของตัวเอง หันมารักตัวเอง เยียวยาจิตใจตัวเอง ทำชีวิตตัวเองให้ดีและมีความสุข รักแล้วก็ให้เกียรติตัวเอง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลจาก

การรักษามะเร็งของพลอยทำให้เธอต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช
ภาพจาก : WOODY FM
พลอย เฌอมาลย์ แนะนำให้ผู้หญิงไม่ประมาทสุขภาพและตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
ภาพจาก : WOODY FM
การฉายแสงทำให้พลอยรู้สึกเจ็บปวดและมีผลกระทบต่ออารมณ์
ภาพจาก : WOODY FM
พลอยเปิดเผยว่าเธอเคยประมาทเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพ
ภาพจาก : WOODY FM
ในช่วงที่แย่ที่สุด พลอยเลือกที่จะเก็บตัวและไม่บอกใครเกี่ยวกับอาการป่วย
ภาพจาก : WOODY FM

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button