ประชาชนทั่วทุกภูมิภาคเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพ พระพันปีหลวง เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ด้วยความอาลัย

ประชาชนจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพ พระพันปีหลวง เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ด้วยความอาลัย
วันนี้ 26 ตุลาคม 2568 ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์อันสง่างาม ภาพแห่ง “พระแม่ของแผ่นดิน” ที่ตราตรึงอยู่ในใจคนไทยทุกคนประตูมณีนพรัตน์เปิดออกตั้งแต่ย่ำรุ่งคลื่นมหาชนในชุดดำแน่นขนัดเบื้องหน้าถนนสนามไชยราวกับผืนธารแห่งความอาลัยหลั่งไหลเข้าสู่พระบรมมหาราชวังอย่างไม่มีวันสิ้นสุด บางคนถือพระฉายาลักษณ์แนบอกแน่น บางคนก้มกราบน้ำตาไหลอาบแก้มเสียงสะอื้นเบาๆ ผสมกับเสียงสวดภาวนาแผ่วพลิ้วในสายลมฤดูปลายฝนต้นหนาวเหมือนสวรรค์เองก็เศร้าสร้อยในวันจากลา
ในสายธารแห่งผู้คน มีหญิงชราวัย 77 ปี ชื่อ นางมยุรี บรรดาศักดิ์ เธอเดินทางมาจากบางเขนแต่เช้าตรู่เพียงลำพัง มือสั่นเทาขณะถือดอกไม้จันทน์




น้ำเสียงสั่นพร่าขณะพูดว่า “รักพระองค์มากเหลือเกิน…” เธอเล่าว่าเคยไปเคารพพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ถึงสองร้อยครั้ง เพราะรักและเทิดทูนทั้งสองพระองค์ประดุจดวงใจของแผ่นดิน
“พระพันปีหลวงทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของพวกเรา ทรงให้ชีวิตและอาชีพแก่คนไทยโดยไม่เคยแบ่งแยก” คำพูดเรียบง่ายของหญิงชรากลั่นออกมาจากความรักที่อยู่เหนือกาลเวลา
ไม่ไกลกันนัก นางธัยพร อร่ามเมฆา วัย 65 ปี เดินทางมาพร้อมลูกสาวด้วยหัวใจเปี่ยมศรัทธา เธอเล่าว่าครั้งหนึ่งเมื่อยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบห้า ได้เข้าเฝ้าฯ อย่างใกล้ชิด “พระองค์ตรัสถามว่า หนูจ๊ะ มาจากไหน กินข้าวหรือยัง” เพียงประโยคสั้นๆ แต่ฝังแน่นอยู่ในความทรงจำไปชั่วชีวิต เธอกล่าวทั้งน้ำตาว่า พระเมตตาในวันนั้นคือแสงอุ่นที่ไม่เคยดับในหัวใจ
และในหมู่ผู้ใหญ่ที่ร่ำไห้ยังมีเด็กหญิงตัวน้อยวัยเพียง 10 ปี ด.ญ.ฑิธารา มาเปี่ยมในชุดนักเรียนขาวดำถือพระฉายาลักษณ์แนบอกแน่น เธอตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อมาพร้อมคุณย่า เสียงใสๆ ของเธอบอกว่า “หนูอยากมาส่งเสด็จพระพันปีหลวง เพราะพระองค์คือแม่ของในหลวง และเป็นคนดีที่ทำให้คนไทยมีความสุข” คำพูดซื่อๆ ของเด็กน้อย คือคำอธิบายความรักอันบริสุทธิ์ที่สุดต่อแผ่นดิน
นอกกำแพงพระบรมมหาราชวัง ผู้คนยังคงทยอยมาจับจองพื้นที่ตั้งแต่ค่ำคืนก่อนหน้า นั่งรอด้วยศรัทธาและหัวใจที่เปี่ยมด้วยความภักดี เพื่อเฝ้ารอขบวนพระบรมศพผ่านหน้าเพียงชั่วขณะ เพราะแม้เพียง “หนึ่งวินาทีของการส่งเสด็จ” ก็มีค่ากว่าชั่วชีวิตที่ไม่ได้กล่าวคำลา
ต่อมาเวลาประมาณ 13.15 น. สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ระบุ พสกนิกรจากทั่วสารทิศเดินทางมาจับจองพื้นที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อเฝ้าฯ รับเสด็จขบวนพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยิ่งใกล้เวลาเสด็จฯ พสกนิกรก็ยิ่งหลั่งไหลมาจับจองพื้นที่ ตลอดเส้นทางที่ขบวนพระบรมศพเคลื่อนผ่านพสกนิกรจากทุกสารทิศ หลั่งไหลมาด้วยหัวใจเปี่ยมล้นด้วยความอาลัย จับจองพื้นที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เพื่อเฝ้าฯ รับเสด็จขบวนพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ขณะเดียวกันเมื่อเวลาแห่งการอำลาคืบคลานเข้ามาผู้คนยิ่งแน่นขนัดริมถนนทุกสาย แววตาทุกคู่เปี่ยมด้วยความจงรักภักดีและความเศร้าอาดูรเสียงสะอื้นปนเสียงสวดมนต์แผ่วเบาไปทั่วอากาศ ดั่งสายลมแห่งความอาลัยกำลังพัดผ่าน ตลอดเส้นทางที่ขบวนพระบรมศพเคลื่อนผ่าน มีเพียงดวงใจของพสกนิกรทั้งแผ่นดินที่ก้มกราบแทบพระบาทด้วยน้ำตาแห่งความภักดีไม่รู้สิ้น.

ทั้งนี้อำนวยความสะดวกประชาชนที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมถวายน้ำสรงพระบรมศพ หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง หลังเวลา 12.00 น. (เฉพาะวันนี้ 26 ตุลาคม 2568)
สามารถเข้าใช้บริการจุดพักคอยภายในเต้นท์ ณ บริเวณท้องสนามหลวง และมีโรงครัวพระราชทานบริการอาหาร โดยได้จัดจอ LED เพื่อสามารถรับชมการถ่ายทอดสดขณะพักคอย
ขอความร่วมมือประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม แต่งกายไว้ทุกข์ในชุดสุภาพ งดสวมเสื้อยึดคอกลม สุภาพสตรี ขอความร่วมมือสวมกระโปรงสุภาพคลุมเข่า เข้าร่วมกิจกรรม โดยกรุงเทพมหานครบริการผ้านุ่ง ณ จุดคัดกรองที่อุโมงค์ และส่งคืนที่ประตูวิเศษไชยศรี เพียงถ่ายบัตรประชาชนเป็นหลักฐานในการยืมคืน.








พสกนิกรพร้อมใจถวายความอาลัย 26 ตุลาคม 2568
- ข้อปฏิบัติ เข้าร่วมพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง วิธีเดินทาง
- รฟม. จัด MRT สี่สาย ให้บริการประชาชน ถวายน้ำสรงพระบรมศพ พระพันปีหลวง
- สมาคมโฆษณาดิจิทัล ออก 6 แนวทางปฏิบัติ ช่วงไว้อาลัย สมเด็จพระพันปีหลวง
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



