โลกแห่ยกย่อง “ควีนสิริกิติ์” ราชินีผู้ทรงสิริโฉม-แต่งกายงดงามสุดในโลก ผู้นำเทรนด์ผ้าไทย
สำนักพระราชวัง แถลงการณ์ ณ วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 ว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จสวรรคตแล้ว สิริพระชนมพรรษา 93 พรรษา
สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นศูนย์รวมแห่งความงามสง่า และทรงมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และในระยะหลังได้ทรงแสดงความห่วงใยในกิจการบ้านเมืองเป็นครั้งคราว มิได้ทรงปรากฏพระองค์ต่อสาธารณชนนับตั้งแต่ทรงพระประชวรด้วยโรคหลอดเลือดในสมอง เมื่อปีพุทธศักราช 2555
แถลงการณ์สำนักพระราชวังระบุว่า พระองค์ทรงเข้ารับการรักษาพระอาการประชวรหลายประการ ณ โรงพยาบาล ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2562 และทรงเกิดภาวะติดเชื้อในกระแสพระโลหิตเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนเสด็จสวรรคตอย่างสงบในช่วงค่ำของวันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พุทธศักราช 2568
ได้มีการประกาศการไว้ทุกข์ในพระราชสำนักเป็นเวลา 1 ปี รัฐบาลประกาศให้สถานที่ราชการลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 1 เดือน และขอให้ข้าราชการไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปี
ขณะที่ อนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีได้ยกเลิกกำหนดการเดินทางเยือนกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน เนื่องในการเสด็จสวรรคตครั้งนี้ โดยท่านกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าจะเดินทางไปยังมาเลเซียในวันอาทิตย์เพื่อลงนามข้อตกลงหยุดยิงกับกัมพูชา แต่จะเดินทางกลับประเทศไทยทันทีหลังจากนั้น

พระสิริโฉมผู้งามสง่า ตราตรึงใจทั่วโลก
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบรมราชสวามีในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ครองสิริราชสมบัติยาวนานที่สุดของไทยถึง 70 ปี และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้ทรงเคียงข้างพระองค์ในห้วงเวลาส่วนใหญ่แห่งการครองราชย์นั้น ทรงชนะใจพสกนิกรในประเทศด้วยพระราชกรณียกิจด้านการกุศลอันอเนกอนันต์
เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ พระองค์ได้ทรงสร้างความประทับใจแก่สื่อมวลชนทั่วโลกด้วยพระสิริโฉมอันงดงามและฉลองพระองค์อันมีเอกลักษณ์ ในระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาเมื่อปีพุทธศักราช 2503 นิตยสารไทม์ได้ถวายพระสมัญญาว่าทรงมี “พระวรกายระหง” และ “ทรงมีความคิดก้าวหน้ายิ่ง” ขณะที่หนังสือพิมพ์ L’Aurore ของฝรั่งเศสบรรยายว่า ทรง “งามเลิศล้ำ”
สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชสมภพในราชสกุลกิติยากรเมื่อปีพุทธศักราช 2475 ซึ่งเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงการปกครองของสยามสู่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทรงเป็นพระธิดาในพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ ซึ่งในขณะนั้นทรงดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศฝรั่งเศส ขณะทรงศึกษาด้านดนตรีและภาษา ณ กรุงปารีส ได้ทรงพบกับพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ ซึ่งทรงใช้เวลาครั้งทรงพระเยาว์ส่วนหนึ่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
“แรกเริ่มนั้นแทบจะไม่โปรดกันเลย” พระองค์เคยรับสั่งในสารคดีของ BBC โดยทรงเล่าว่าพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ เสด็จฯ มาช้ากว่าเวลานัดหมายในการพบกันครั้งแรก “แต่แล้วหลังจากนั้นก็กลายเป็นความรัก”
ทั้งสองพระองค์ทรงใช้เวลาศึกษาดูพระราชหฤทัยกัน ณ กรุงปารีส ก่อนทรงประกอบพระราชพิธีหมั้นในปีพุทธศักราช 2492 และทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ณ ประเทศไทย ในปีถัดมา ขณะนั้นสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงมีพระชนมพรรษา 17 พรรษา
ด้วยพระสไตล์อันงามสง่าเสมอมา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้ทรงร่วมงานกับ ปิแอร์ บัลแมง นักออกแบบเสื้อผ้าชั้นสูงชาวฝรั่งเศส รังสรรค์ฉลองพระองค์อันงดงามวิจิตรตระการตาจากผ้าไหมไทย และด้วยการที่ทรงสนับสนุนการอนุรักษ์หัตถกรรมการทอผ้าแบบดั้งเดิม พระองค์จึงทรงได้รับการยกย่องว่าทรงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมผ้าไหมไทยให้กลับมารุ่งเรือง

ทรงอุทิศพระองค์เพื่อการพัฒนาชนบท
เป็นเวลากว่าสี่ทศวรรษ ที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ ไปยังหมู่บ้านห่างไกลทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ทรงส่งเสริมโครงการพัฒนาต่างๆ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพสกนิกรผู้ยากไร้ โดยพระราชกรณียกิจของทั้งสองพระองค์ได้รับการถ่ายทอดสู่สายตาประชาชนผ่านแถลงการณ์สำนักพระราชวังทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเป็นประจำทุกค่ำคืน
พระองค์เคยทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นระยะเวลาสั้นๆ ในปีพุทธศักราช 2499 เมื่อครั้งที่พระบรมราชสวามีทรงพระผนวชเป็นเวลาสองสัปดาห์ตามโบราณราชประเพณี และในปีพุทธศักราช 2519 วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ คือวันที่ 12 สิงหาคม ได้รับการประกาศให้เป็นวันแม่แห่งชาติและวันหยุดราชการของไทย
พระราชโอรสพระองค์เดียว คือ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้เสด็จขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ หลังการเสด็จสวรรคตในปีพุทธศักราช 2559 และเมื่อทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในปีพุทธศักราช 2562 พระราชอิสริยยศอย่างเป็นทางการของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ คือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำหรับพสกนิกรชาวไทยจำนวนมาก พระองค์จะทรงเป็นที่จดจำในฐานะองค์อุปถัมภ์แห่งงานการกุศลและสัญลักษณ์แห่งคุณธรรมความดีงามของความเป็นแม่ การเสด็จสวรรคตของพระองค์จะได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพสักการะอย่างสูงสุด ในประเทศที่การวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเรื่องต้องห้ามตามกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอันเข้มงวด
รัฐบาลได้ขอความร่วมมือภาคเอกชนในการปรับเปลี่ยนกิจกรรมรื่นเริงต่างๆ ให้เหมาะสมกับช่วงเวลาแห่งการไว้ทุกข์ ขณะที่คอนเสิร์ตของวงเคป๊อป แบล็กพิงก์ ซึ่งมีสมาชิกชาวไทยรวมอยู่ด้วย จะยังคงจัดขึ้นตามกำหนดเดิมในสุดสัปดาห์นี้ โดยผู้จัดได้ขอความร่วมมือให้ผู้เข้าร่วมชมแต่งกายด้วยสีดำและขาวเพื่อเป็นการถวายความอาลัย
ณ วันเสาร์ พสกนิกรในชุดสีดำได้มารวมตัวกัน ณ บริเวณหน้าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สถานที่ซึ่งสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จสวรรคต
“เมื่อได้ทราบข่าว โลกทั้งใบของดิฉันหยุดหมุนไปชั่วขณะ และภาพในอดีตเกี่ยวกับทุกสิ่งที่สมเด็จฯ ได้ทรงทำเพื่อพวกเราก็ผุดขึ้นมาในความคิด” นางมณีนาถ (Maneenat Laowalert) ชาวกรุงเทพฯ อายุ 67 ปี กล่าว
ทั้งนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระบรมราชโอรส คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชธิดาอีก 3 พระองค์.
ที่มา : รอยเตอร์ส (Reuters)



อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ทั่วโลกร่วมเสนอข่าวพระราชกรณียกิจ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ
- เรื่องเล่าจากแพทย์หลวง พระพันปีหลวงทรงตรัสกับชาวบ้าน ไปบอกเจ้าหนี้นะคะ พระราชินีจะใช้หนี้ให้
- ทูลกระหม่อม ทรงกราบบังคมทูลลาสมเด็จแม่ ด้วยรักและคิดถึง-สถิตในดวงใจนิรันดร์
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



