ข่าวดาราบันเทิง

โจวเจี๋ย พระเอก ‘องค์หญิงกำมะลอ’ ฉาวจนดับ กลับตัวทำฟาร์มรวยร้อยล้าน แต่ไม่ทันดูใจพ่อ

เปิดชีวิต โจวเจี๋ย พระเอกดัง ในองค์หญิงกำมะลอ สู่จุดตกต่ำเพราะข่าวฉาว หันหลังให้วงการไปทำฟาร์มจนรวย แต่กลับเสียใจที่สุด มัวหาเงินจนดูใจพ่อไม่ทัน

ย้อนกลับไปในปี 1998 ซีรีส์เรื่อง “องค์หญิงกำมะลอ” ได้สร้างปรากฏการณ์โด่งดังไปทั่วเอเชีย เมืองไทยก็ดังมาก นักแสดงนำอย่าง เจ้าเวย, หลินซินหยู, ซูโหย่วเผิง ฟ่านปิงปิง รวมถึง โจวเจี๋ย ผู้รับบท “เอ่อคัง” กลายเป็นดาราระดับ A-List ในทันที แต่ทว่าชื่อเสียงของโจวเจี๋ยกลับอยู่ได้ไม่นาน เมื่อเขาต้องเผชิญมรสุมข่าวฉาวอย่างต่อเนื่องจนต้องหันหลังให้วงการบันเทิง

จากดาวรุ่งสู่ดาวร่วง เพราะข่าวฉาวรุมเร้า

โจวเจี๋ย เกิดปี 1970 สร้างชื่อจากบทนำ เอ่อคัง ชายหนุ่มผู้ฉลาด สุขุม และเพียบพร้อม ทำให้เขาเป็นที่รักของผู้ชมอย่างมาก หลังจบองค์หญิงกำมะลอ เขายังมีผลงานดังอีกหลายเรื่อง เช่น “เปาบุ้นจิ้นวัยหนุ่ม” และ “มังกรหยก”

ทว่าช่วงที่กำลังรุ่งโรจน์ อาชีพของเขากลับต้องพังทลายลงเพราะข่าวฉาว ในปี 2004 หลินซินหยู นักแสดงร่วมในองค์หญิงกำมะลอ ออกมาแฉว่าเขาพยายามนอกบท จูบเธอเกินที่ซ้อมไว้ ต่อมาในปี 2008 เขาขับรถชนแล้วทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ยังไม่จบ ในปี 2009 ก็ขับรถชนรถแท็กซี่แล้วหนี ไม่นับรวมข่าวลือเรื่องหนี้สินการพนัน และทะเลาะวิวาทในกองถ่าย

ข่าวฉาวที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ไม่หยุดหย่อนทำให้ภาพลักษณ์ของเขาตกต่ำ ผู้ผลิตต่างพากันปฏิเสธที่จะร่วมงานด้วย จากนักแสดงมากฝีมือ โจวเจี๋ยกลายเป็นคนไร้งาน ถูกสังคมตราหน้า จนเคยคิดสั้นฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ

โจวเจี๋ย-หลินซินหยู ร่วมงานในองค์หญิงกำมะลอ
โจวเจี๋ย-หลินซินหยู ร่วมงานในองค์หญิงกำมะลอ

หันหลังให้วงการ ผันตัวเป็นเกษตรกรพันล้าน

ในปี 2015 โจวเจี๋ยตัดสินใจออกจากวงการบันเทิงอย่างเงียบๆ นำเงินเก็บทั้งหมดไปลงทุนทำการเกษตรที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เช่าที่ดินหลายพันไร่เพื่อปลูกข้าว เลี้ยงไก่ วัว และม้า พร้อมทั้งลงทุนผลิตข้าวออร์แกนิกและผลิตภัณฑ์เกษตรปลอดสารพิษ

ด้วยสายตาที่เฉียบคมทางธุรกิจ เขากลายเป็น “เศรษฐีเงียบ” ของวงการอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันคาดว่าโจวเจี๋ยมีทรัพย์สินมากกว่า 100 ล้านหยวน หรือราว 500 ล้านบาท เป็นเจ้าของบริษัท 5 แห่ง โรงบ่มไวน์ 1 แห่ง และที่ดินทำการเกษตรอีกมหาศาล

“เงินเยอะไปทำไม เมื่อไม่มีพ่อแม่อยู่ข้างๆ”

โจวเจี๋ย หันหลังให้วงการ ผันตัวเป็นเกษตรกรพันล้าน

แม้จะประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น แต่ในรายการหนึ่ง โจวเจี๋ยได้เปิดใจสัมภาษณ์ว่า สิ่งที่เขาเสียใจที่สุดในชีวิตคือการไม่ได้ดูใจพ่อเป็นครั้งสุดท้ายในปี 2016

ในช่วงที่พ่อของเขากำลังป่วยหนัก ใกล้สิ้นใจ เขากำลังง่วนอยู่กับการดูแลธุรกิจการเกษตร แม้จะรีบขับรถข้ามคืนกลับมาปักกิ่ง แต่ก็ไม่ทันได้ฟังคำพูดสุดท้ายจากพ่อ สิ่งนี้กลายเป็นแผลในใจที่ทำให้เขาโทษตัวเองมาตลอด ถึงขั้นอยากจะทิ้งทรัพย์สินทั้งหมด เพราะรู้สึกผิดที่มัวแต่ทำงานหาเงินจนละเลยพ่อที่กำลังป่วยหนัก

ต่อมาในปี 2021 แม่ของเขาก็จากไปอีกคน ทำให้โจวเจี๋ยต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว เนื่องจากเขาไม่มีญาติพี่น้องคนอื่นและยังไม่ได้แต่งงาน ในช่วงเทศกาลที่ครอบครัวอื่นได้อยู่พร้อมหน้า เขาต้องใช้ชีวิตอย่างเดียวดาย บางปีต้องไปพักที่โรงแรมเพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกเจ็บปวด

โจวเจี๋ยระบายความรู้สึกว่า “ตอนเด็กๆ บ้านผมจนมาก แต่ทุกเทศกาลเรามีความสุขพร้อมหน้ากันบนโต๊ะอาหาร แต่ตอนนี้ผมมีทุกอย่าง มีเงิน 500 ล้านบาท อยู่บ้านหลังใหญ่ แต่กลับไม่มีใครอยู่ข้างๆ ทุกวันตื่นมามีแต่ความเงียบ ไม่มีใครเรียกชื่อ ไม่มีใครสนใจผม ผมมีเงินเยอะไปทำไมเมื่อไม่มีพ่อแม่หรือคนในครอบครัวอยู่ข้างๆ ผมไม่ต้องการเงิน

เปิดชีวิต โจวเจี๋ย พระเอกดัง ในองค์หญิงกำมะลอ สู่จุดตกต่ำเพราะข่าวฉาว หันหลังให้วงการไปทำฟาร์มจนรวย แต่กลับเสียใจที่สุด มัวหาเงินจนดูใจพ่อไม่ทัน

ด้วยเหตุนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาจึงอุทิศตนให้กับการกุศล ทั้งสร้างโรงเรียน บริจาคเงินให้กองทุนต่างๆ และมอบข้าวสาร 10 ตันให้บุคลากรทางการแพทย์ที่อู่ฮั่น เขาใช้ชีวิตอย่างสมถะ เสื้อผ้าบางตัวใส่มานานกว่า 10 ปี โจวเจี๋ยกล่าวทิ้งท้ายว่า “ตอนนี้ผมก็แค่ชาวนาที่โดดเดี่ยวคนหนึ่งบนโลกใบนี้ ไม่ได้สนใจภาพลักษณ์ภายนอกอีกแล้ว”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button