ร่วมยินดี “ผู้พันเบิร์ด” ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็น “พลโท วันชนะ” เจ้าตัวโพสต์ซึ้งถึงแรงบันดาลใจ

ผู้พันเบิร์ด หรือ พลโท วันชนะ สวัสดี โพสต์ซึ้งถึงคุณพ่อผู้เป็นแรงบันดาลใจ หลังได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งยศนายพล ขณะที่ภรรยาและแฟนคลับร่วมยินดี
นับเป็นข่าวที่น่ายินดีอย่างยิ่ง เมื่อมีรายงานว่า ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง ผู้พันเบิร์ด ขึ้นดำรงยศ พลโท โดยข่าวการเลื่อนยศครั้งนี้ได้รับการรายงานจากสื่อหลายสำนักตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นมา
“ขอพระบารมีสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช โดยเฉพาะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ได้โปรดดลบันดาลให้ไทยคงความเป็นไทยหยัดยืนในเอกราชและอธิปไตยตราบชั่วฟ้าดินมลาย ให้คนไทยมีพลังแรงกายแรงใจฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆไปได้ อย่างสมบูรณ์ 1ต.ค.68”

ภายหลังมีประกาศอย่างเป็นทางการ พลโท วันชนะ ได้โพสต์ข้อความและคลิปวิดีโอสุดซึ้งผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัว เป็นภาพขณะที่ท่านกำลังตัดผมให้กับคุณพ่อ พร้อมระบุว่าคุณพ่อคือแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เลือกเดินในเส้นทางทหารรับใช้ชาติ
“หลังจากเสร็จพิธีการที่ทำงานแล้ว ต้องมาหาคนนี้้เลยครับ พ่อที่เป็นแรงบันดาลใจการมาเป็นทหาร จนถึงวันนี้เป็นทหารตามที่พ่ออยากให้เป็นและคิดได้ว่า เป็นสิ่งที่เหมาะกับเบิร์ดที่สุด วันที่1ต.ค. วันที่ก้าวหน้าทางอาชีพสิ่งที่อยากทำวันนี้คือ มาตัดผมให้พ่อ แม้จะมาตัดเป็นประจำ แต่วันนี้พิเศษครับพ่อ”

ขณะที่ คุณปาม วริญญา ภรรยา ก็ได้โพสต์ภาพครอบครัวแสดงความยินดีกับการเลื่อนยศของสามี ท่ามกลางคอมเมนต์แสดงความยินดีจากเพื่อนในวงการและแฟนคลับอย่างล้นหลาม

สำหรับ พลโท วันชนะ สวัสดี เป็นนายทหารที่เป็นที่รู้จักของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่เพียงในบทบาทราชการทหารที่สำคัญ เช่น อดีตรองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย แต่ยังเป็นที่จดจำในฐานะนักแสดงผู้รับบท ‘สมเด็จพระนเรศวรมหาราช’ ในภาพยนตร์ไตรภาคอิงประวัติศาสตร์อีกด้วย
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา พลโท วันชนะ มีบทบาทสำคัญในการให้ข้อมูลและชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อสื่อมวลชน ทำให้การเลื่อนยศในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนที่ติดตามข่าวสารเป็นอย่างมาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผู้พันเบิร์ด ตอบ ทำไมไทย-กัมพูชา ปะทะชายแดนไม่เลิก ที่แท้ แผนที่คนละฉบับ
- องค์ดำประทับร่าง “ผู้พันเบิร์ด” ร่ายบทพระนเรศวร แฉเขมรยอมรับล้ำแดน
- พักโหนฯ เปิดภาพนาทีชื่นมื่น กรรชัย-ผู้พันเบิร์ด หอบถุงยังชีพ 2000 กระสอบ หนุนกองทัพ
ข้อมูล/ภาพจาก :
ติดตาม The Thaiger บน Google News: