“อ.ปวิน” ชมเปาะ “ศุภจี” อภิปรายครั้งแรก ข้อมูลแน่น ฉีกภาพการเมืองเก่า เน้นเนื้อไม่เน้นน้ำ

“อ.ปวิน” ชื่นชมการอภิปรายครั้งแรกของ “ศุภจี” เป็นการอภิปรายแบบผู้ดี-เนื้อหาแน่น ชี้คือกลยุทธ์ “เทคโนแครต” ที่ชาญฉลาดของนายกฯ อนุทิน
30 กันยายน 2568 ศ.ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความชื่นชมการอภิปรายครั้งแรกในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของ นางสาวศุภจี สุธรรมพันธุ์ โดยระบุว่าเป็นการอภิปรายที่ได้คะแนนเต็ม และช่วยยกระดับคุณภาพการถกเถียงในสภา
“เมื่อวานดิชั้นได้ฟังการอภิปรายครั้งแรกของคุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ หรือ “แต๋ม” ซึ่งเป็นผู้บริหารหญิงระดับแนวหน้าของไทย คุณพี่แต๋มได้คะแนนจากดิชั้นไปเต็ม ๆ เพราะการอภิปรายมีความเป็นผู้ดีมาก สุภาพ และที่สำคัญ เต็มไปด้วยเนื้อหา ซึ่งถือเป็นภาพที่แตกต่างและสดใหม่จากสนามการเมืองแบบดั้งเดิมที่เต็มไปด้วยนักการเมืองโสโครก ที่ด่าทอในสภาแสดงความกักขฬะ แต่การนำเสนอของคุณศุภจีเน้นการใช้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง การวิเคราะห์เชิงธุรกิจ และการวางแผนงานอย่างเป็นระบบตามหลักการบริหารองค์กรใหญ่
แทนที่จะเป็นการโจมตีบุคคล ใช้คำพูดที่ยั่วยุ หรือมีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง (เอาล่ะ นักการเมืองปากกล้า/fierce ดิชั้นก็เชียร์ค่ะ แต่ต้องมีเนื้อด้วย ไม่ใช่ปากกล้า แต่มีแต่น้ำ) ดังนั้น ลีลาการอภิปรายของคุณแต๋มจึงช่วยยกระดับคุณภาพของการถกเถียงในสภาให้กลับมาเน้นที่เนื้อหาและนโยบายอย่างแท้จริง สะท้อนความเป็นนักบริหารที่ยึดหลักผลลัพธ์ (Result-oriented) มากกว่าการเล่นเกมการเมือง

ถือได้ว่าคุณศุภจีเป็นภาพตัวแทนของกลยุทธ์ “เทคโนแครต” ของอนุทิน คุณศุภจีมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งจากการเป็นผู้บริหารหญิงคนแรกที่เคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของ IBM ในไทย ก่อนจะก้าวไปเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไทยคม และปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของ บมจ. ดุสิตธานี มีวุฒิการศึกษาด้านสังคมวิทยา (ธรรมศาสตร์) และปริญญาโทด้านการเงินและการบัญชีต่างประเทศ (นอร์ทรอป) พร้อมประสบการณ์ในคณะกรรมการสำคัญหลายแห่ง
การตัดสินใจของอนุทินที่ดึงบุคลากรสาย “เทคโนแครต” ที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์บริหารองค์กรขนาดใหญ่ระดับโลกอย่างคุณศุภจีเข้ามาเป็นเสาหลักในรัฐบาล จึงเป็นกลยุทธ์ที่เฉียบคมและชาญฉลาดอย่างยิ่ง (คงเรียนรู้ว่า ถ้าพรรคตัวเองมี รมต. ค้ายา ก็คงต้องเอาเทคโนแครตเข้ามา balance)
เพราะการมีผู้เชี่ยวชาญระดับนี้จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและเติมเต็มความสามารถด้านการบริหารจัดการเชิงเศรษฐกิจให้กับคณะรัฐมนตรีได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและภาคเอกชนที่ต้องการให้รัฐบาลมุ่งเน้นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมในระยะเวลา 4 เดือนนี้ แทนที่จะจมอยู่กับการเมืองสกปรกวกวน ทั้งแค้นทั้งค้ำกันในสภา”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ศุภจี” โชว์วิสัยทัศน์ ในสภาครั้งแรก อัดมาตรการด่วน ธงฟ้า-ส่งฟรี กู้เศรษฐกิจชายแดน
- ประวัติ “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” CEO หญิงแกร่ง แห่งดุสิตธานี สู่ว่าที่ รมว.พาณิชย์
ติดตาม The Thaiger บน Google News: