ดราม่าจุดติด ปิ่นหทัย ทัวร์ลง บทเรียนใช้คำว่า “หมอ” วงการขออย่าบูลลี่ วิชาชีพไหนก็ศักดิ์สิทธิ

ดราม่าจุดติด ปิ่นหทัย ทัวร์ลง บทเรียนมักง่ายใช้คำว่าหมอ อีกมุมขออย่าบูลลี่ วิชาชีพไหนก็ศักดิ์สิทธิ
ปิ่น-หทัยรัตน์ ณ เชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวโซเชียลรู้จักเธอดีในฉายา “คุณหมอนักมวยหน้าหวาน” แต่ต่อมาจากกระแสดราม่าปัจจุบันที่เจ้าตัวดันก่อความผิดพลาด โดยเฉพาะในส่วนของวิชาชีพแพทย์แผนไทยประยุกต์ของตัวเองครั้งใหญ่ ซึ่งแรงกระเพื่อมหนล่าสุดนี้ลากยาวไปถึงข้อถกเถียงความเหมาะสมของการใช้คำว่า “หมอ” ควรจะจำกัดความให้ชัดกว่านี้ดีหรือไม่ด้วย
อดีตนักมวยหญิงซึ่งตอนนั้นใช้ชื่อ “ปิ่นหทัย เอกบาร์เบอร์” ก่อนปัจจุบันบนวัย 25 ปี ได้ผันตัวมาเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและทำงานในฐานะแพทย์สนามมวยไทยอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่นานนี้มาเจอปัญหาเสียงตำหนิติติงชุดใหญ่จากกรณีเผลอไปสร้างคอนเทนต์เย็บแผลบริเวณใบหน้านักมมวย
วานนี้ (12 ก.ย.68) เฟซบุ๊ก “ปิ่นหทัย” ของน.ส.หทัยรัตน์ หรือ “ปิ่นหทัย” อินฟูเอนเซอร์ชื่อดังที่มียอดติดตามบนติ๊กตอกกว่า 2 ล้านฯ ออกมาเขียนข้อความร่ายย่วยอมรับผิดทั้งหมดต่อดราม่าที่เธอเป็นผู้ก่อ พร้อมกับยังขออนุญาตฝากคำขอโทษไปยังทุกภาคส่วนที่มักง่าย ใช้คำว่า “หมอ” โดยที่ไม่ตรวจสอบสถานะของตัวเองให้ดีเสียก่อน
“สวัสดีค่ะ ปิ่นขอออกมาชี้แจงกรณีดราม่าที่เกิดขึ้นนะคะ ปิ่นขอน้อมรับทุกคำติเตียนจากทุกท่านและนำไปปรับปรุงไม่ทำให้เกิดอีกค่ะ ชี้แจงในส่วนของที่ทุกคนเข้าใจผิด ปิ่นจบสาขาแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ค่ะ ปิ่นได้ทำการเย็บแผลนักมวยที่บริเวณใบหน้าซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควร อีกทั้งยังทำนอกสถานที่ ในส่วนนี้ ปิ่นยอมรับผิดและจะไม่ทำอีกค่ะ”
“ในการเรียนแผนไทยประยุกต์มีการสอนเย็บแผลเบื้องต้นจริง แต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์/พยาบาลค่ะ ส่วนนี้ยอมรับผิดและจะไม่ทำอีกค่ะ ในส่วนที่เรียกแทนตนว่า หมอ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดและมักง่ายของปิ่นเองว่าชาวบ้านเรียกแบบนั้นจึงแทนตนไป ในส่วนนี้ก็จะไม่ทำอีกค่ะ และแทนตนว่าแพทย์แผนไทยประยุกต์ทุกครั้งค่ะ”
ส่วนชาวบ้านหากเรียกว่าหมอ ปิ่นจะชี้แจงว่า ปิ่นเป็นแพทย์แผนไทยประยุกต์นะคะ และตรงไบโอทุกแพลตฟอร์ม ปิ่นได้เขียนระบุว่าเป็นแพทย์แผนไทยประยุกต์เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด และความสับสนดังที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ค่ะ ขอโทษทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยความเสียใจอย่างที่สุด ที่ทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง ขออภัยทุกท่านค่ะ
หน้าโปรไฟล์เฟซบุ๊กของเธอล่าสุด ระบุว่า ไม่ใช่แพทย์หญิง เป็นแพทย์แผนไทยประยุกต์ค่ะ ห้ามเรียกหมอแล้าน้า

ต่อมา เพจหมออนามัยขี้mouth วิพากษ์วิจารณ์ผ่านข้อความบนหน้าฟีดข่าวของตัวเอง ทำนองแตะเบรกกระแสโจมตีไล่ล่าแม่มดตามประสาโคนันโซเชียลเบาๆ ว่า “เคสปิ่นหทัย น้องเป็นแพทย์แผนไทย อยู่ รพ.สต. จริง ไม่ใช่เคสหมอปลอม”
“ตักเตือนในส่วนที่ผิดก็พอ แต่อย่าลามไปบูลลี่วิชาชีพเขาเลยนะครับ”
ทันใดนั้น เวลาไม่นานเรื่องราวบานปลายเป็น เพจเสพข่าวหมอ 2 เพจเล่นไปเปิดประเด็นสานต่อไฟปัญหาจนมีคนตามไปมุงต่ออีกคีกคำรบใหญ่ เมื่อ “หมอไม่บ่น aggressive not doctor v2” อีกเพจที่เป็นคู่กรณีความเห็นขัดแย้งกันหนัก เมื่อมองว่าการที่มีเสียงเห็นอกเห็นใจดังกล่าวดูจะสรุปในมุมของโลกสวยเกินไป
“แหม่คุณหมออนามัยฯ โพสปกติคนเมนต์น้อยจังเลย ! น่าสงสารนะ !! พอโพสหิวแสงแล้วคนสนใจอะเนอะ ตอนแรกเห็นเม้นอยู่4 เม้นพอเพจนี้แชร์ ยอดพุ่งเลยนะควรมาขอบคุณผมมั้ย”
หลังเนื้อหาจิกกัดที่ถึงตรงนี้ทั้งสองเพจยังใส่วิวาทะประเด็นสืบเนื่องของอินฟลูฯ สาวอดีตนักมวย ถกเถียง แซะกันไปจนคำว่า “หมอหนู” , “หมอปลา” ทำไมเรียกได้
ส่วนมุมวิชาชีพส่งตรงจากคอมเมนต์คนในวงการแพทย์และรักษาผู้ป่วยทั้งแพทย์แผนปัจตุบันและประยุกต์ ก็อยากให้จบข้อขัดแย้งนี้ลง ด้วยการเสนอต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โดยที่ต้องท่องจำไว้ตลอดว่า “ต้องไม่ก้าวก่ายหน้าที่ไปจนความรับผิดชอบทางวิชาชีพจริงๆ ของคนที่ร่ำเรียนมาในแต่ละสายและศาสตร์ที่มีองค์ความรู้หลากหลายและต่างกัน”



ด้านเสียงวิจารที่มีเหตุมีผลไม่เน้นไหลตามกระแสเชี่ยวกรากดังกล่าว ทยอยจบปมร้อนนี้พร้อมทิ้งความเห็นเชิงถอดบทเรียนได้แล้ว ไล่ตั้งแต่ ความเห็นของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งระบุ “ตำหนิ / ชี้จุดบกพร่อง / ตีแผ่เรื่องราว ในส่วนที่เขาทำผิดพลาดเพื่อให้ยอมรับ เกิดการแก้ไขปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้นนั่นทำถูกแล้ว”
“แรกเริ่มที่เพจนั้นทำส่วนใหญ่คนก็เห็นด้วย แต่ทำไมไปๆมาๆ ถึงเอาเค้ามาแขวนในประเด็นอื่นที่ไม่ใช่ท้อปปิกของการทำผิดพลาดหละ ทำไมเพจนั้นถึงไปว่าเขาว่าจบอะไรเรียกหมอได้ไม่ได้หละ คือทำไมถึงไปบิดเบือน ใส่ร้ายใส่ความ เอาเค้ามาแขวนให้คนรุมหมิ่นประมาทจนเค้าเสียชื่อเสียงอย่างนั้นหละ”
“ทีนี้ก้ลามมาถึงการด้อยค่าแดกดันทับถมในวิชาชีพของเค้า แบบนี้ก้ไม่ควรเลยจริงๆ แทนที่จะโฟกัสไปในสิ่งที่เค้าทำผิดพลาดแล้วให้ปรับปรุงแก้ไขเสีย แต่นี่กลับมาโยงไปอย่างอื่น ตกลงเพจนั้นแอนตี้วิชาชีพแพทย์แผนไทยจริงๆใช่มั้ย เห็นมีคนเม้นว่าหลายกรณีแล้วด้วย”
อีกความเห็นระบุจบด้วยว่า “วิชาชีพไหนก็ศักดิ์สิทธิ์ อย่าบูลี่สหวิชาชีพร่วมสายด้วยกันเลย ในองค์กรไม่ใช่มีวิชาชีพเดียวขับเคลื่อนองค์กร”.






อ่านข่าวเพิ่มเติม
- น้องปิ่นมุก จูบร่ำไห้บอกลา จ่าจุ้ย วีรบุรุษชายแดน พร้อมคำมั่น จะดูแลแม่และน้องเอง
- แจกวาร์ป IG โคตะ มิอุระ ประวัตินักมวยหนุ่มหล่อญี่ปุ่น เตรียมชกบัวขาวพรุ่งนี้
- ยูทูบเบอร์มะกันเกือบตาย รถพุ่งชนกระจก ขณะทั้งคู่อัดคลิปทานข้าว
ติดตาม The Thaiger บน Google News: