“ภูมิใจไทย” ชี้ปมเปิดด่านกัมพูชา ต้องให้กองทัพ-ชาวบ้านร่วมหารือ

ภูมิใจไทย ชี้ปมเปิดด่านกัมพูชา ต้องให้กองทัพ-ชาวบ้านร่วมหารือ ชั่งน้ำหนักรอบด้านทั้งความมั่นคงและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวเรื่องการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ตามข้อตกลงของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ว่า สิ่งสำคัญที่ยังน่าห่วงคือการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่พิพาท แม้จะถือเป็นก้าวหนึ่งของการลดความตึงเครียด แต่การที่กองกำลังทหารยังคงปักหลักในแนวชายแดนก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรปล่อยผ่าน จำเป็นต้องหาทางออกอย่างจริงจัง
นายสิริพงศ์ ยกตัวอย่างกรณีพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ซึ่งยังมีชาวกัมพูชาเข้ามาอยู่อาศัยอยู่ในเขตแดนไทย ถือเป็นประเด็นที่รัฐบาลไทยต้องผลักดันให้มีการจัดการอย่างเด็ดขาดและถูกต้องตามกฎหมาย หากบุคคลเหล่านั้นจะอยู่หรือจะกลับเข้ามา ต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด
สำหรับข้อถกเถียงในสังคมเกี่ยวกับการปิด-เปิดด่านชายแดน นายสิริพงศ์เสนอว่า กองทัพควรหารือร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อชั่งน้ำหนักทั้งมิติด้านความมั่นคงและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เพราะเข้าใจดีว่าผู้ประกอบการต้องพึ่งพาการค้าชายแดน หลายครอบครัวไม่มีเงินเดือนประจำ การค้าขายจึงเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงชีวิต รัฐบาลและทุกฝ่ายจึงจำเป็นต้องหาทางออกร่วมกัน
“รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญต่อการทำให้ประชาชนกลับมามีชีวิตปกติ แต่ขณะเดียวกัน เรื่องอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศ ต้องปกป้องเต็มกำลัง” นายสิริพงศ์กล่าว พร้อมย้ำว่ากองทัพคือหน่วยงานด่านหน้าในพื้นที่ชายแดนที่มีบทบาทสำคัญที่สุด จึงควรได้รับอำนาจในการตัดสินใจตามสถานการณ์
นายสิริพงศ์ ยังกล่าวถึง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ซึ่งปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และมีชื่อเป็นว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลใหม่ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่า การเข้าร่วมการประชุมที่ผ่านมา เป็นไปตามกรอบของรัฐบาลชุดก่อน
เชื่อว่า เมื่อรัฐบาลใหม่เริ่มทำงานอย่างเป็นทางการ ท่าทีของ พล.อ.ณัฐพล จะเปลี่ยนไปในทิศทางที่สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ ที่ยืนยันจะปกป้องแผ่นดินไทยทุกตารางนิ้ว
ย้ำว่า สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการปฏิบัติการในพื้นที่คือ การสื่อสารต่อสาธารณะในประเด็นข้อพิพาทชายแดน ต้องสร้างเอกภาพและความเข้าใจร่วมกันในสังคม ไม่ควรมีการปลุกปั่นหรือสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้น เพราะจะยิ่งบั่นทอนความมั่นคงของชาติในระยะยาว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โฆษกยัน “บิ๊กเล็ก” ยังไม่มีเจตนาเปิดด่าน เป็นการหารือเตรียมพร้อมมาตรการในอนาคต
- เผยประชุม GBC เห็นชอบถอนอาวุธหนักใน 3 สัปดาห์-ร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด
- เสธ.ทหาร ฝากถึงเขมร ถ้าไม่ยอมถอนกำลังกลับ ไม่ต้องคุยเรื่องเปิดด่าน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: