ข่าวต่างประเทศ

แม่ใจสลาย ลูกชาย 16 กินใบกระท่อมดับ ใช้คลายเครียด เพราะหาซื้อง่าย

คุณแม่ในดัลลัสออกมาเตือนภัย “กระท่อม” หลังลูกชายวัย 16 ปีเสียชีวิตจากพิษสารไมทราไจนีนและโคลนาซีแพม เชื่อลูกชายหันไปใช้เพราะคิดว่าเป็นสมุนไพรที่ปลอดภัย หาซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้อ

“ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของการสูญเสียลูกได้ ถ้าฉันสามารถป้องกันไม่ให้ใครต้องเจอเรื่องแบบนี้ได้ ฉันก็อยากจะทำ” อไลนา บรูคส์ คุณแม่ผู้สูญเสียกล่าว พร้อมออกมาเตือนภัยเกี่ยวกับการใช้ กระท่อมที่แพร่ระบาดในหมู่วัยรุ่น หลังลูกชายของเธอเสียชีวิตอย่างกะทันหัน

คีตัน บรูคส์ เด็กหนุ่มวัย 16 ปี ต่อสู้กับโรควิตกกังวลมาเกือบตลอดชีวิต ครอบครัวของเขาพยายามหาทางรักษาทุกวิถีทาง ทั้งคำปรึกษาทางการแพทย์และจิตวิทยา แต่แม่ของเขาเชื่อว่า ความต้องการของลูกชายที่จะจัดการปัญหานี้ด้วยตัวเอง ผ่านสมุนไพรที่ไม่ผ่านการควบคุมและหาซื้อได้ทั่วไป คือสาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิต

“ลูกรู้ว่าตัวเองมีความวิตกกังวล แต่เขาก็เรียนรู้วิธีรับมือกับมันได้หลายอย่าง สิ่งที่เขาบอกฉันบ่อยที่สุดคือ เขาแค่อยากเป็นคนปกติ” อไลนากล่าวถึงลูกชาย

ในเช้าวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเวลา 12 วันก่อนที่คีตันจะมีอายุครบ 17 ปี อไลนาพยายามปลุกลูกชายไปโรงเรียนตามปกติ แต่เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป เธอก็พบว่าลูกชายไม่ตอบสนองแล้ว แม้จะพยายามช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถทั้งจากผู้เป็นแม่และทีมแพทย์ฉุกเฉิน แต่ก็ไม่สำเร็จ คีตันเสียชีวิตขณะนอนหลับ

ในเวลาต่อมาครอบครัวพบว่า มีนักเรียนอีกคนในโรงเรียนมัธยมไฮแลนด์พาร์คได้นำยาคลายกังวล “โคลนาซีแพม” (Clonazepam) หรือที่รู้จักในชื่อ “โคลโนพิน” (Klonopin) มาแจกจ่ายให้เพื่อนๆ รวมถึงคีตันด้วย

อย่างไรก็ตาม ครอบครัวบรูคส์เพิ่งจะเข้าใจสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงเมื่อได้รับรายงานการชันสูตรในอีกหลายเดือนต่อมา าเป็นการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ “จากพิษของสารไมทราไจนีน (Mitragynine) และโคลนาซีแพม” ซึ่งไมทราไจนีนคือสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทที่พบในพืชกระท่อม มีจำหน่ายทั่วไปตามร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าและร้านสะดวกซื้อในฐานะสมุนไพร

อไลนาเชื่อว่าลูกชายของเธอหันไปพึ่งกระท่อมเพราะคิดว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยในการจัดการกับความวิตกกังวลของตัวเอง “เขาคงคิดว่าพ่อแม่จะไม่โกรธ เพราะมันไม่ใช่ยาเสพติด ตรวจไม่เจอในปัสสาวะ และหาซื้อได้ตามปั๊มน้ำมัน”

ด้านผู้เชี่ยวชาญจาก Youth180 องค์กรที่ช่วยเหลือเยาวชนด้านยาเสพติดในดัลลัส ยืนยันว่ากรณีการใช้กระท่อมเกินขนาดและการเสพติดกำลังเพิ่มขึ้น พร้อมระบุว่าเยาวชนไม่ควรสามารถเดินเข้าไปซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้ง่ายๆ เพราะอันตรายเกินกว่าจะนำมาทดลองใช้

ขณะที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ได้เริ่มดำเนินการเพื่อควบคุมสารออกฤทธิ์หลักในกระท่อม โดยพุ่งเป้าไปที่ 7-ไฮดรอกซีไมทราไจนีน (7-OH) ซึ่งเป็นผลพลอยได้ที่มีความเข้มข้นสูงและเป็นสารโอปิออยด์ที่อาจมีฤทธิ์รุนแรงกว่ามอร์ฟีน FDA แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีสาร 7-OH เข้มข้น ซึ่งมีทั้งรูปแบบเม็ด กัมมี่ และเครื่องดื่ม ที่อาจดึงดูดความสนใจของเยาวชนได้ง่าย

“ถ้ามันมีประโยชน์ ก็ดี แต่เราต้องควบคุมมัน” อไลนากล่าวทิ้งท้ายด้วยความหวังว่าเรื่องราวของลูกชายเธอจะเป็นอุทาหรณ์และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง เพื่อไม่ให้ครอบครัวอื่นต้องมาเผชิญกับความสูญเสียเช่นเดียวกับเธอ

ในคำไว้อาลัยครอบครัวเขียนถึงคีตันว่า คีตันรักในเสียงดนตรี ภาพยนตร์ อาหาร และประวัติศาสตร์ เขาเป็นเด็กฉลาด มีอารมณ์ขัน ทั้งยังรักครอบครัวของเขาอย่างสุดหัวใจ รวมถึงสุนัขแสนรักทั้งสามตัว สไปเดอร์, บิงโก และคร็อกเก็ตต์, กลุ่มเพื่อนสนิท และเมซี แฟนสาวของเขา

ในช่วงชีวิตอันแสนสั้น คีตันได้เผชิญและก้าวผ่านความท้าทายมากมาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งอันน่าทึ่ง ด้วยการสนับสนุนจากครอบครัว ปีที่ผ่านมาจึงเป็นปีที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา เขาได้ทำงานแรกในชีวิต มีเพื่อนที่ดีมากมาย มีความสุขตลอดหนึ่งปีที่โรงเรียนมัธยมไฮแลนด์พาร์ค ถึงแม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรค เขายังคงมีรอยยิ้มที่สวยงาม มีไหวพริบที่เฉียบแหลม และมีประกายในดวงตาสีฟ้าคู่นั้นเสมอ แม้ว่าการต่อสู้ของเขายังคงดำเนินต่อไป แต่ครอบครัวก็ภูมิใจในความพยายามและความมุ่งมั่นของเขาที่จะดีขึ้นเสมอ

คีตันจากไปโดยทิ้งไว้ซึ่งครอบครัวอันเป็นที่รักยิ่ง ได้แก่ พ่อและแม่ เจฟฟ์ และ อไลนา, พี่สาว ฟาร์เรน, คุณตาคุณยาย เจน แฮร์ริงตัน และ ไบรอน กับ โรส บรูคส์, คุณอา คริส และ เจสัน, และคุณป้า เอพริล และ ทอนยา

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Thaiger

The Thaiger นำเสนอข่าวสารล่าสุดและอัปเดตจากทั่วประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx