เริ่มวันนี้ กสทช. คุมเข้ม เปิดซิมใหม่ต้อง ‘สแกนหน้า’ Liveness Detection แบบเรียลไทม์ ป้องกันมิจฉาชีพ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เริ่มบังคับใช้มาตรการใหม่ในการลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยกำหนดให้ผู้ใช้บริการต้องยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าแบบเรียลไทม์ ผ่านเทคโนโลยี “Liveness Detection” มีผลตั้งแต่วันนี้ (18 ส.ค. 68) เป็นต้นไป เพื่อยกระดับความปลอดภัยและสกัดกั้นการแอบอ้างตัวตนของมิจฉาชีพ
รู้จักระบบ Liveness Detection คืออะไร?
Liveness Detection คือระบบตรวจสอบการปลอมแปลงตัวตนแบบเรียลไทม์ โดยจะเปรียบเทียบใบหน้าของผู้ลงทะเบียนกับข้อมูลภาพบนบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารยืนยันตัวตนอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันจริง ระบบจะมีการตรวจสอบลักษณะเฉพาะบุคคล เช่น มิติของใบหน้า และอาจมีการสั่งให้กะพริบตา หรือหันหน้าซ้าย-ขวา เพื่อป้องกันการใช้รูปถ่ายหรือวิดีโอของบุคคลอื่นมาสวมรอยในการลงทะเบียน
ใครบ้างที่ต้องยืนยันตัวตนด้วยวิธีนี้? บังคับใช้กับบุคคล 2 กลุ่ม ดังนี้
- ผู้ที่ขอเปิดใช้ซิมการ์ดใหม่: ครอบคลุมทั้งซิมการ์ดแบบเติมเงินและแบบรายเดือน
- ผู้ใช้บริการเดิมที่ขอเปลี่ยนซิมการ์ดใหม่: กรณีซิมการ์ดหายหรือชำรุด แต่ยังใช้เบอร์โทรศัพท์เดิม
ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
ประชาชนที่เข้าข่ายข้างต้นจะต้องเตรียม บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงที่ยังไม่หมดอายุ หรือหนังสือเดินทาง (Passport) และที่สำคัญคือ เจ้าของเบอร์จะต้องไปดำเนินการด้วยตนเอง เพื่อทำการสแกนใบหน้า
มาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้กับทุกจุดที่ให้บริการลงทะเบียนซิมการ์ดทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์บริการของผู้ให้บริการโทรศัพท์ทุกค่าย (AIS, TRUE, NT), ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย (ลูกตู้) และร้านสะดวกซื้อต่างๆ
การยกระดับกระบวนการลงทะเบียนซิมการ์ดในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญของ กสทช. ในการแก้ปัญหามิจฉาชีพที่ใช้ซิมการ์ดที่ลงทะเบียนอย่างไม่ถูกต้อง (ซิมผี) ไปก่ออาชญากรรมทางออนไลน์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกคน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ซิมทรู 850 เบอร์นี้ต้องเปลี่ยนซิมไหม เช็กง่าย ๆ รีบก่อน 3 ส.ค.
- วิธีเปลี่ยนชื่อซิมตรงชื่อแอปฯ scb easy ภายใน 8 ก.ค.นี้ ก่อนใช้งานไม่ได้
- วิธีเช็กเบอร์มือถือ ชื่อซิม-Mobile Banking ตรงกันไหม ทำง่ายๆ ไม่ตรงแก้ตามนี้
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
