มาดามรถถัง ระดมยานเกราะ โดรนช่วยรบฟรี หนุนทัพไทย บริเวณชายแดน

มาดามรถถัง ประธานบริษัท ชัยเสรี อุตสาหกรรมยานยนต์ทหาร ประกาศจุดยืนสนับสนุนกองทัพเต็มกำลัง จัดส่งทั้งยานเกราะกันกระสุน First Win 4×4, รถสะเทินน้ำสะเทินบก และทีมช่างซ่อมบำรุง
ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา ที่ยังคงตึงเครียด กองทัพไทยได้รับกำลังเสริมครั้งสำคัญจากภาคเอกชน เมื่อ มาดามรถถัง หรือ นางนพรัตน์ กุลหิรัญ ประธานบริษัท ชัยเสรี อุตสาหกรรมยานยนต์ทหาร ได้ประกาศระดมยุทโธปกรณ์และทีมงานเข้าสนับสนุนภารกิจในแนวหน้าอย่างเต็มกำลัง
ในเช้าวันนี้ (18 ส.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก Bangkok I Love You ได้เผยแพร่คำประกาศจาก “มาดามรถถัง” ผู้นำหญิงแห่งอุตสาหกรรมยานเกราะของไทย ซึ่งได้ตอกย้ำจุดยืนอย่างชัดเจนว่า “ชัยเสรีเป็นบริษัทสัญชาติไทย เราเกิดมาบนแผ่นดินไทย เราก็ต้องทำหน้าที่ปกป้องเอกราชและความมั่นคงของชาติ”
ตามแถลงการณ์ บริษัท ชัยเสรี ได้ดำเนินการจัดส่งยุทธปัจจัยสำคัญเข้าสู่พื้นที่การรบทันที ประกอบด้วย ยานเกราะกันกระสุนและกันระเบิด, รถล้อยาง First Win 4×4 และ รถสะเทินน้ำสะเทินบก 8×8 สำหรับภารกิจเคลื่อนที่เร็ว พร้อมกันนี้ยังได้ส่งทีมวิศวกรซ่อมบำรุงและคลังอะไหล่เคลื่อนที่เข้าไปสนับสนุนหน้างาน เพื่อให้ยุทโธปกรณ์ของกองทัพบก ทั้งรถ Humvee, M113 และยานยนต์อื่นๆ อยู่ในสภาพพร้อมรบสูงสุด
นอกเหนือจากยุทโธปกรณ์หนักแล้ว ทางชัยเสรียังได้ระดมเครือข่ายจิตอาสาเพื่อเร่ง “คิด-ทำ-ทดสอบ” โดรนสนับสนุนการรบ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการรบของหน่วยทหารในพื้นที่ โดยทั้งหมดนี้ “มาดามรถถัง” ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าเป็นการดำเนินการในฐานะจิตอาสา โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ในช่วงท้ายของแถลงการณ์ “มาดามรถถัง” ได้ย้ำว่านี่คือความร่วมมือจากภาคเอกชนเพื่อกองทัพและประเทศชาติ พร้อมทั้งฝากเสียงเรียกถึงประชาชนคนไทยทุกคนให้ยึดมั่นในความสามัคคีในช่วงเวลาที่บ้านเมืองกำลังเผชิญหน้ากับศึกใหญ่ เพราะแม้ในสนามรบจะเป็นยานเกราะที่รับแรงปะทะ แต่ในสนามของสังคม หัวใจของคนไทยที่ไม่แตกแถวคือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดของประเทศ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดวาร์ป เมีย VannDa รักแท้แร็ปเปอร์เขมร ดีกรีแบรนด์แอมบาสเดอร์
- พระสงฆ์ไทย ต้องยื่นภาษีหรือไม่? เงินได้ประเภทไหนได้รับการยกเว้น
- เส้นตาย! 1 ม.ค.69 ยกเลิก อนุโมทนาบัตร บริจาคเงินให้วัด ผ่านระบบ อิเล็กทรอนิกส์ เท่านั้น
อ้างอิง : FB/Bangkok I Love You
ติดตาม The Thaiger บน Google News: