ย้อนฟังคลิป ‘ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา’ วิเคราะห์พฤติกรรม ‘ลุงพล’ ปี 2566 ชี้ถูกสื่อถามซ้ำจนชิน อาจทำให้ผ่านเครื่องจับเท็จ ล่าสุด ศาลแก้โทษจำคุกจาก 20 ปี เป็น 26 ปี
หลังจากที่ศาลจังหวัดมุกดาหารอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 4 กรณีการเสียชีวิตปริศนาของ ‘น้องชมพู่’ วัย 3 ขวบ หายตัวจากบ้านในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ก่อนพบว่าเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 โดยศาลชั้นต้นจังหวัดมุกดาหาร มีคำพิพากษาจำคุก ‘ลุงพล’ หรือ นายไชย์พล วิภา ฐานความผิดกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยไม่มีเหตุอันสมควร ลงโทษจำคุกรวม 20 ปี
รวมทั้งต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวของน้องชมพู่ ส่วน ‘ป้าแต๋น’ หรือ นางสมพร หลาบโพธิ์ ศาลพิพากษายกฟ้อง ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา ศาลแก้โทษลุงพลจากจำคุก 20 ปี เพิ่มเป็น 26 ปี ฐานเจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผล, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยไม่มีเหตุอันสมควรและอำพรางศพ
หลังจากศาลตัดสินแก้โทษ ชาวโซเชียลได้ขุดคลิปในอดีตที่ ‘ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา’ นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยาและพฤติกรรมอาชญากร เคยพูดถึงเคสของลุงพล ผ่านรายการ ลุยชนข่าว เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2566 เผยว่า ไม่ต้องการตัดสินว่าการร้องไห้ของลุงพลในวันที่พบศพน้องชมพู่เป็นการแสดงหรือไม่ เนื่องจากคนเราสามารถร้องไห้ได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาจร้องไห้เพราะตกใจ, โล่งใจ, หรือรู้สึกผิด ไม่ใช่เพียงแค่ความเสียใจเท่านั้น
การจะวิเคราะห์พฤติกรรมการร้องไห้ของลุงพลได้อย่างถูกต้อง ควรสอบถามข้อมูลจากคนสนิทของลุงพลเกี่ยวกับพฤติกรรมการร้องไห้ที่ผ่านมาของเขามากกว่าการวิเคราะห์จากคลิปสั้น ๆ เพียงอย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม ดร.ตฤณห์ชี้ว่า หากบุคคลนั้นถูกฝึกมาหรือถูกถามคำถามเดิมซ้ำ ๆ หลายครั้ง ในกรณีของลุงพลที่ถูกสื่อมวลชนถามซ้ำ ๆ มาก่อนหน้าที่จะเข้าเครื่องจับเท็จเป็นเวลาหลายเดือนก็อาจทำให้เขาสามารถตอบคำถามได้โดยไม่ตื่นเต้น และกราฟหัวใจก็จะไม่ดีดขึ้นสูงเหมือนคนทั่วไปที่อาจตกใจเมื่อถูกจับเท็จ ซึ่งการเข้าเครื่องจับเท็จ คือ การวัดปฏิกิริยาของร่างกาย เช่น ความตื่นเต้น เหงื่อที่หลั่งออกมา และอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อดูว่ามีความสัมพันธ์กับคำถามที่ถูกถามหรือไม่
ย้อนกลับไปในวันแถลงข่าว นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยาสังเกตว่าลุงพลมีท่าทีที่เครียดอย่างชัดเจนจากแววตา ปกติเจ้าตัวจะมีการสบตาคู่สนทนาบ้าง แต่ในวันแถลงข่าวเขาไม่สบตาผู้สอบถามหรือสื่อมวลชนเลยและพูดน้อย สันนิษฐานว่าท่าทีนี้เป็นผลมาจากกระบวนการทางกฎหมาย ทำให้ลุงพลเลือกที่จะให้ทนายความชี้แจงแทน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อได้เปรียบเสียเปรียบที่อาจเกิดขึ้นในคดี
ดร.ตฤณห์ มองว่าท่าทีและอาการของลุงพลในปัจจุบันดูยากขึ้น เนื่องจากมีพัฒนาการในการออกเสียงและตอบคำถามแต่ละครั้ง มาจากประสบการณ์การตอบคำถามบ่อยครั้ง นอกจากนี้ลุงพลยังกล่าวขอบคุณสถานที่ สื่อมวลชน และแฟนคลับ ดูเจนสนาม หรือมีประสบการณ์ในการรับมือกับสื่อมวลชนเป็นอย่างดี สำหรับคนที่มีประสบการณ์การตอบคำถามต่อหน้าสื่อหลายครั้งไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอีกต่อไป
ทั้งนี้ กล่าวเสริมว่า หากสิ่งที่ลุงพลปฏิเสธความผิดนั้นไม่เป็นความจริง แต่ศาลกลับตัดสินว่ามีความผิดอาจหมายความว่าลุงพลเป็นคนไม่ธรรมดา เพราะสิ่งที่เขาพูดแม้จะเป็นการโกหกแต่ก็ถูกฝึกฝนมานานและบ่อยครั้งจนทำให้ดูเหมือนว่าไม่ได้โกหก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ดร.ตฤณห์ ไม่รับคำขอโทษหมอบี ฉะแรง แสร้งเล่นบทเหยื่อ ชี้คนแรกที่ต้องขอโทษ
- หมอบี ขอโทษ ดร.ตฤณห์ เปิดใจสื่อหนแรก ยันปมเงินบริจาคหลังให้ปากคำ 6 ชม.
- นิทาน ดร.ตฤณห์ เล่าในโหนกระแสชวนอึ้ง! ตัวละครสมมติ อ้างลูกบุญธรรมอัศวินวาติกัน
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
