ต้ะ นักข่าวลพบุรี โฟนอินแฉ ทำข่าวโยงวัดพระบาทน้ำพุ 10 วันโดนยิงถล่มรถ จู่ๆ คดีปลิว

ต้ะ นักข่าวลพบุรีที่ถูกลอบยิง หลังทำข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ช่วงปี 64 โฟนอินเล่ารายละเอียดยิบกับ กรรชัย หลังคดีโดนดีดหยุดควานหาตัวคนร้ายเอาดื้อๆ ทั้งที่ศักยภาพตำรวจทำคดีในตอนนั้น ข้อเท็จจริงไปจนหลักฐานต่างๆ น่าจะเอาผิดได้ไม่ยาก แต่ปรากฏทุกอย่างสวนทางความจริงสิ้นเชิง
กำลังเป็นประเด็นร้อนหลังจากวันนี้ (11 ส.ค.68) ในรายการโหนกระแสมีการเปิดเผยข้อมูลของต้ะ ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นใน จ.ลพบุรี ซึ่งเคยไปทำข่าวเกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุในพื้นที่ตัวเมืองแล้วต่อมาให้หลัง 10 วัน ตัวเองประสบเหตุถูกคนร้าย 2 คนใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่รถนักข่าวที่จอดอยู่ภายในบ้านพักของตัวเอง และพอเป็นคดีความสืบจนเกือบทราบตัวคนก่อเหตุแน่ชัด แต่จู่ๆ คดีมาถูกดีดออกจากสารบบชนิดเป็นปริศนาคาใจมาจนปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวที่โฟนอินเข้ามาในรายการของกรรชัย กำเนิดพลอย กล่าวว่า ย้อนกลับไปช่วงปี 2564 ตนได้พูดถึงวัดๆ หนึ่งถึงกรณีมีเหตุให้ต้องสงสัยในหลายๆ ประเด็นของการครอบครองที่ดินอสังหาริมทรัพย์หรืออะไรต่างๆ หรือในส่วนของคนใกล้ชิดที่ดูแล้วมีทรัพย์สินที่น่าจะเกินของรายได้ที่ได้รับในช่วงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
แต่พอตั้งคำถามไปได้ระยะหนึ่งนักข่าวที่อยู่ปลายสายยืนยันกับ หนุ่ม กรรชัย ว่า ตนก็ถูกกระทำเลย !
โดยต้ะ ผู้สื่อข่าวเล่าต่อว่า ตอนนั้นตนเองได้ตั้งคำถามว่าใครคือเจ้าของโรงงานลพบุรีตัวจริง ใครคือเจ้าของโรงเรียนกำจรวิทย์ตัวจริง
นักข่าวย้ำว่าแค่ประเด็นเจ้าของสถานที่นั้น ส่วนตัวตนเชื่อว่าคนในพื้นที่อำเภอเมืองลพบุรีจริงๆ ย่อมทราบเป็นนัยยะอยู่แล้วว่า ใครเป็นเจ้าของตัวจริง แต่หลังจากนำเสนอเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ไป ก็มีตำรวจนายหนึ่งที่เคยทำข่าวด้วยกันโทรมาเตือนให้ระวังนะ เพราะมีคนมาเช็กแล้ว ! ผู้กองคนหนึ่งส่งรายชื่อมาว่าคนสนิทของเจ้าอาวาส ส่งรายชื่อมา ให้สืบจ.ลพบุรีเช็กข้อมูลของตน และเขียนเรื่องนี้ไปถึงวันที่โดนยิง เป็นเวลา 10 วันก็โดนกระทำเลย จึงทำให้อดสงสัยใครอื่นไม่ได้นอกจากเคสที่ได้ลงไปทำข่าว
เนื้อหาที่เล่าในโหนกระแสยังเน้นถึงทิศทางคดีหลังจากถูกยิงไปแล้วปรากฏ รองผู้อำนวยการกรมสอบสวนคดีพิเศษภาคเดินเรื่องไปตามเนื้อผ้าดีๆ มีการเขียนเส้นทางการเงินไปยังธนาคาร แต่จู่ๆ ทุกอย่างก็ยุติไปอีก
เกี่ยวกับวัดดังวัดนี้ทุกอย่างถูกดีดออกหมด ตนจึงขอถาม ณ ปัจจุบันว่าที่ผ่านมารวมถึงเหตุการณ์ที่ถูกลอบยิงถล่มมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

กรรชัย มีการตรวจสอบไปยังนักข่าวเนื่องจากได้รับข้อมูลมาว่า เรื่องนี้เคยไปแจ้งความไว้แล้ว อีกฝ่ายเสริมทันทีว่าหลังโดนยิงก็ไปแจ้งความทันที นักข่าวเล่าว่าเขาอธิบายกับตำรวจว่าไม่มีโจทก์อย่างอื่นที่จะมาถล่มยิงอย่างนี้ แถมตอนนั้นมีการตั้งคณะกรรมการไปสอบผู้กองและสั่งย้ายนายตำรวจคนดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งจริงๆ จุดเชื่อมโยงไม่ยาก กระบวนการสืบสวนของตำรวตไปได้ไกลแล้ว วันนั้นมีส่วนของกองปราบและรองผู้บัญชาการภาค1 ก็ลงไปที่เกิดเหตุด้วย
นักข่าวที่ประสบเหตุยืนยันว่าทุกอย่างมีกระบวนการ ไม่ว่ารถต้องสงสัยก็เจอแล้ว ศักยภาพในการทำงานมากมาย แต่สุดท้าย 3-4 เดือนทำหนังสือมาแจ้งว่า ขอยุติการสืบสวนสอบสวนเนื่องจากยังไม่มีพยานหลักฐานใหม่มาติดตามคนร้ายเพื่อดำเนินคดีได้
เมื่อถามโดยส่วนตัวเชื่อว่าใครกันแน่ที่เป็นคนมาลอบยิง ? ปลายสายก็ระบุไปถึงลูกศิษย์เจ้าอาวาสที่มีการอ้างว่า เป็นคนสั่งให้มาเช็กตนเองนั้น อยากถามว่าเชื่อมโยงกับใครเพราะน่าจะมีการไหว้วานกันได้
อีกทั้งตนมีการพูดคุยกับรองผู้การลพบุรี จึงทราบว่ารถคันดังกล่าวตรงกับรถต้องสงสัยของนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งเป็นระดับผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งก็เชื่อมโยงกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่ร่วมนับถือ ดังนั้นส่วนตัวจึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นบุคคลอื่น
ตนมีข้อมูลพอสมวคร แต่ที่หลังจากนั้นไม่ได้ดำเนินการอะไรต่อ เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย ”ต้ะ“ เล่าว่าเขาต้องเจอเล่นจิตวิทยา มีรถปริศนามาจอหน้าบ้าน 1 ชม. ครึ่งชั่วโมงบ้าง ! หลายช่องติดต่อมาอยากขอสัมภาษณ์ก็ไม่สะดวกใจที่จะไป อยากถามด้วยว่าความปลอดภัยของพวกตนที่เป็นสื่ออยู่ตรงไหน คดีเงียบหายไม่มีการรื้อฟื้นอะไรทั้งสิ้นจึงเป็นเหตุให้เลือกจะถอยออกมาอยู่เงียบๆ
ขอบคุณคลิป : รายการโหนกระแสวันนี้ 11 สิงหาคม 2568
ทั้งนี้อ้างอิงรายงานของเดลินิวส์ กรณีบุกยิงถล่มรถนักข่าวถึงบ้านพัก เมื่อ 31 ก.ค.64 ได้เกิดเหตุคนร้าย 2 คน ขี่รถจยย.มาจอดหน้าบ้านแล้วใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่รถแวนยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กท 3537 ชลบุรี จอดอยู่ภายในบ้าน กระสุนถูกเข้าที่กระจกและประตูหลังกว่า 10 นัด โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บมีแต่รถได้รับความเสียหาย
ขณะที่กล้องวงจรปิดจับภาพการกระทำของคนร้ายได้ เหตุเกิดขึ้นในช่วงเช้ามืดเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายตั้งใจจะมายิงข่มขู่มากกว่าเอาชีวิต
พ.ต.อ.อุกฤษ ภู่กลั่น รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี กล่าวตอนนั้นว่า จากการสอบสวนยังไม่ทราบสาเหตุของการถูกยิงในครั้งนี้ แต่น่าจะมาจากหลายประเด็น เบื้องต้นสันนิษฐานน่าจะมาจากเรื่องขัดแย้งส่วนตัว จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าผู้เสียหายได้เข้ามาดื่มกินอาหารในตัวเมืองลพบุรีหลายร้าน ซึ่งอาจจะมีการกระทบกระทั่งกับผู้อื่นทำให้หมางใจกันในคืนที่ผ่านมา จนอาจมีการตามมาก่อเหตุ รวมทั้งการโพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก “ลพบุรีร้องทุกข์” ที่เจ้าตัวเป็นเจ้าของเพจ อาจจะไปก่อให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นิทาน ดร.ตฤณห์ เล่าในโหนกระแสชวนอึ้ง! ตัวละครสมมติ อ้างลูกบุญธรรมอัศวินวาติกัน
- อ.ตฤณห์ ผ่าพฤติกรรม สีกากอล์ฟ ในโหนกระแส แซะแรง รู้สึกผิดกี่โมง
- ลาม 30 วัด มหาหมี แจงปมใบอนุโมทนาไม่ตรงปก ใบรับรองจากหลวงพ่อต้องมี
ติดตาม The Thaiger บน Google News: