สุขสันต์วันเกิด “ฮุน เซน” 5 ส.ค. ครบรอบ 73 ปี จากเด็กวัด สู่จอมพลกองทัพเขมร

วันเกิดครบรอบ 73 ปีของ ฮุน เซน (5 ส.ค.) เปิดประวัติเส้นทางชีวิตที่น่าทึ่ง จากเด็กวัดสู่การเป็นสมาชิกเขมรแดง ก่อนจะแปรพักตร์และไต่เต้าสู่ตำแหน่งนายกฯ ที่ครองอำนาจยาวนานกว่า 38 ปี
เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 73 ปี ในวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2568 ของ จอมพล สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน ประธานคณะองคมนตรีและประธานพฤฒสภากัมพูชา นับเป็นโอกาสอันดีในการย้อนมองเส้นทางชีวิตของหนึ่งในผู้นำที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดในโลก ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์การเมืองกัมพูชาร่วมสมัย จากเด็กหนุ่มในชนบท สู่สนามรบ และก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดทางการเมืองอย่างยาวนานกว่า 38 ปี
แม้ประวัติอย่างเป็นทางการจะระบุวันเกิดของท่านคือวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2494 แต่ข้อมูลที่รู้จักกันทั่วไปคือวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2495 ณ หมู่บ้านเปี่ยมคะนงค์ จ.กัมปงจาม ท่านเป็นบุตรคนที่สามในจำนวนพี่น้อง 6 คน ของนายฮุน เนียง และนางดี ยอง
จากเด็กวัดสู่สนามรบ
ชีวิตในวัยเยาว์ของ ฮุน เซน หรือชื่อเดิมว่า “ฮุน โบนาล” ต้องจากครอบครัวเมื่ออายุเพียง 13 ปี เพื่อเข้ามาศึกษาต่อในกรุงพนมเปญ โดยอาศัยอยู่ที่วัดนาควานในฐานะเด็กวัด และเข้าเรียนระดับมัธยมที่โรงเรียนอินทราเทวี แต่เส้นทางการศึกษาในระบบต้องสิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2513 เมื่อเกิดเหตุรัฐประหารโค่นล้มสมเด็จเจ้านโรดม สีหนุ โดยนายพลลอน นอล
ด้วยวัย 18 ปี ฮุน เซน ได้เข้าร่วมกับขบวนการเขมรแดงเพื่อต่อต้านรัฐบาลลอน นอล และเปลี่ยนชื่อเป็น “ฮุน เซน” ในปี พ.ศ. 2515 เส้นทางสายทหารของท่านต้องแลกมาด้วยการสูญเสียดวงตาข้างซ้ายอย่างถาวร จากการสู้รบในวันเข้ายึดกรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2518

จุดเปลี่ยนสำคัญและการก้าวสู่อำนาจ
สมเด็จฯ ฮุน เซน ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองพันในสมัยกัมพูชาประชาธิปไตย แต่ในปี พ.ศ. 2520 ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญโดยการแปรพักตร์ไปร่วมมือกับเวียดนามและกลุ่มเคลื่อนไหวอื่น ๆ เพื่อก่อตั้ง “แนวร่วมสามัคคีประชาชาติกัมพูชา” มีเป้าหมายเพื่อโค่นล้มระบอบเขมรแดง
หลังการล่มสลายของเขมรแดงในปี พ.ศ. 2522 ฮุน เซน ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเข้ารับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลใหม่ด้วยวัยเพียง 27 ปี นับเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศที่อายุน้อยที่สุดในโลกในขณะนั้น และเส้นทางการเมืองของท่านก็ได้ไต่เต้าขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งในเดือนมกราคม พ.ศ. 2528 ฮุน เซน ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี สืบแทนนายจัน ปี ที่ถึงแก่อสัญกรรม

ภายหลังข้อตกลงสันติภาพปารีสปี พ.ศ. 2534 และการเลือกตั้งทั่วไปในปี พ.ศ. 2536 ซึ่งพรรคฟุนซินเปกของเจ้านโรดม รณฤทธิ์ ชนะการเลือกตั้ง ได้เกิดการประนีประนอมทางการเมือง นำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลผสมที่สมเด็จฯ ฮุน เซน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ควบคู่กับเจ้ารณฤทธิ์ ก่อนที่ท่านจะรวบอำนาจเบ็ดเสร็จหลังเหตุการณ์รัฐประหารปี พ.ศ. 2540 และนำพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ชนะการเลือกตั้งอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นั้นมา จนกระทั่งประกาศลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 เพื่อส่งไม้ต่อให้แก่บุตรชายคนโต คือ นายพลฮุน มาเนต
ประวัติการทำงาน
- พ.ศ. 2513 – 2520 เข้าร่วมกองกำลังต่อสู้กับรัฐบาลลอน นอล และดำรงตำแหน่งในกองทัพของเขมรแดง
- พ.ศ. 2520 – 2522 เริ่มเคลื่อนไหวต่อต้านเขมรแดงและร่วมก่อตั้งแนวร่วมสามัคคีประชาชาติกัมพูชา
- พ.ศ. 2522 – 2524 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
- พ.ศ. 2524 – 2525 รองนายกรัฐมนตรี และสมาชิกโปลิตบูโร
- พ.ศ. 2528 – 2566 นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา (โดยมีช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ระหว่างปี พ.ศ. 2536-2541)
- พ.ศ. 2566 – ปัจจุบัน ประธานคณะองคมนตรี และ ประธานวุฒิสภากัมพูชา
ชีวิตส่วนตัวและครอบครัว
สมเด็จฯ ฮุน เซน สมรสกับ สมเด็จกิตติพฤฒบัณฑิต บุน รานี มีบุตรธิดารวม 6 คน (รวมบุตรบุญธรรม) ได้แก่ ฮุน มาเนต (บุตรชายคนโต), ฮุน มานา (บุตรสาวคนโต), ฮุน มานิด (บุตรชายคนรอง), ฮุน มานี (บุตรชายคนเล็ก), ฮุน มาลี (บุตรสาวคนเล็ก) และ ชุน มาลิส (บุตรสาวบุญธรรม)

การศึกษาและปริญญากิตติมศักดิ์
แม้จะจบการศึกษาสูงสุดในระดับประถมศึกษา แต่ด้วยประสบการณ์และบทบาททางการเมือง ทำให้สมเด็จฯ ฮุน เซน ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากสถาบันการศึกษาชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก สะท้อนถึงการยอมรับในระดับนานาชาติ
- พ.ศ. 2534 ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (รัฐศาสตร์) – สถาบันการเมืองแห่งชาติฮานอย, เวียดนาม
- พ.ศ. 2538 ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (รัฐศาสตร์) – มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา
- พ.ศ. 2539 ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (นิติศาสตร์) – วิทยาลัยเวสเลยัน, สหรัฐอเมริกา
- พ.ศ. 2544 ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (รัฐศาสตร์) – มหาวิทยาลัยดันกุก, เกาหลีใต้
- พ.ศ. 2544 ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) – มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ไทย
- พ.ศ. 2547 ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (รัฐศาสตร์) – Irish International University, สหภาพยุโรป
- พ.ศ. 2547 ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (รัฐศาสตร์) – มหาวิทยาลัยกัมพูชา, กัมพูชา
- พ.ศ. 2549 ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น) – มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา, ไทย
- พ.ศ. 2549 ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปรัชญาวิทยาศาสตร์การเมือง) – มหาวิทยาลัยซุนชุนฮยาง, เกาหลีใต้
- พ.ศ. 2550 ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (การศึกษา) – มหาวิทยาลัยการศึกษาแห่งชาติฮานอย, เวียดนาม
- พ.ศ. 2552 ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (เศรษฐศาสตร์) – มหาวิทยาลัยดันกุก, เกาหลีใต้
ฐานันดรศักดิ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์
สมเด็จฯ ฮุน เซน ได้รับพระราชทานฐานันดรศักดิ์ชั้น “สมเด็จ” จากพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ และได้รับการสถาปนาเป็น “จอมพล สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน” ในปี พ.ศ. 2552 นอกจากนี้ยังได้รับเหรียญรางวัลและเครื่องราชอิสริยาภรณ์จำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ อาทิ
รางวัลสันติภาพโลก จากบัณฑิตสภาสันติภาพโลก
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ในประเทศกัมพูชา
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชาตุปการ
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์พระราชอาณาจักรกัมพูชา ชั้นมหาสิริวัฒน์
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์มุนีสาราภัณฑ์ ชั้นมหาสิริวัฒน์
- เหรียญเสนาชยสิทธิ์
- เหรียญป้องกันประเทศ ประดับดาวทอง 2 ดวง
- เหรียญป้องกันประเทศ ประดับดาวเงิน 2 ดวง
- เหรียญป้องกันประเทศ ประดับดาวสำริด 2 ดวง
- เหรียญอนุสรณ์เฉลิมพระเกียรติ
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์การสร้างชาติ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จากประเทศไทย
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (พ.ศ. 2540)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (พ.ศ. 2544)
เครื่องอิสริยาภรณ์จากต่างประเทศ
- เครื่องอิสริยาภรณ์โฮเซ มาร์ตี (คิวบา)
- เครื่องอิสริยาภรณ์ซิกาตูนา ชั้นประถมาภรณ์ (ฟิลิปปินส์)
- เหรียญทองคำแห่งชาติ (ลาว)
- เครื่องอิสริยาภรณ์รุจบี (รัสเซีย)
- เครื่องอิสริยาภรณ์เจ้าชายยารอสเลาผู้รอบรู้ (ยูเครน)
ที่มา: Wikipedia , มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไหว้ขอโอกาส! “ธี โสวันทา” ลงคลิป ขอโทษ ฮุน เซน ลั่น สำนึกผิดแล้ว
- ฮุน เซน โชว์ฟิตกลางดึก ซดกาแฟหวานน้อย ไม่หวานร้อยแล้ว ชี้ กลัวเป็นเบาหวาน
- คนข่าวอาวุโส เผยพนง.เขมร 30 ชีวิต แห่ขอกลับกัมพูชา อ้างรัฐบาลฮุนเซน ขู่ถอนสัญชาติ-ยึดที่ดิน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: