กันจอมพลัง เผยคำพูดจุกอก หัวหน้าแบกร่าง ‘ธีรยุทธ’ ฝ่าดงกระสุนเขมร พาร่างกลับบ้านตามสัญญา
คืบหน้าสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างตลอดแนวชายแดนในหลายจังหวัด มีการปะทะกันอย่างหนักบริเวณปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย ทั้งสองฝ่ายได้ใช้อาวุธหนักตอบโต้กันต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน จนกระทั่งมีการเจรจาและบรรลุข้อตกลงหยุดยิง มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แม้การสู้รบโดยรวมจะยุติลง แต่สถานการณ์ยังคงมีความตึงเครียด และมีรายงานการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงจากฝ่ายกัมพูชาในบางพื้นที่
ฝั่งไทยมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทั้งทหารและพลเรือน ข้อมูลสรุปจากกองบัญชาการกองทัพไทย (ถึงวันที่ 31 ก.ค. 68) ยืนยันว่า มีทหารไทยเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยในครั้งนี้ทั้งสิ้น 15 นาย มีทหารได้รับบาดเจ็บอีก 196 นาย ส่วนสถานะในพื้นที่พิพาทสำคัญอย่างปราสาทตาควายยังคงมีความซับซ้อน กองทัพบกยอมรับว่ายังไม่สามารถควบคุมตัวปราสาทได้ 100% แต่ยังคงควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์โดยรอบไว้ได้หลังการหยุดยิง
ด้านอินฟลูสายช่วยเหลือสังคม กัน จอมพลัง หรือ “กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์” ได้โพสต์ข้อความลงแฟนเพจ“กันจอมพลัง ช่วยสู้” เล่าเบื้องหลังสุดสะเทือนใจ จากการพูดคุยกับหัวหน้าชุดรบซึ่งเป็นผู้แบกร่างของ น้องธีรยุทธ กระจ่างทอง ทหารกล้าผู้เสียชีวิตจากสนามรบสมรภูมิเขมรกลับบ้าน
“ใบหน้าของหัวหน้าที่แบกร่างของ น้องธีรยุทธ กระจ่างทอง กลับมาคืนสู่ครอบครัว หลังจากที่น้องธีรยุทธได้จากไปในสนามรบสมรภูมิเขมร หัวหน้าบอกผมว่าทำเต็มที่แล้ว และเล่าเหตุการณ์ให้ผมฟังพวกเขาอยู่กัน 5 คน ตอนนั้นเขมรสาดบึ้มเข้ามาหาพวกน้องอย่างหนัก พอสิ้นเสียงลง หัวหน้าจึงขานเรียกในทีม ขานตอบเกือบหมด ยกเว้นน้องธีรยุทธ ทุกคนจึงพยายามสาดกระสุนใส่เขมร และคลานหาร่างน้องจนเจอ และแบกร่างน้องออกจากสมรภูมิ”
“ผมชมเลยว่าเขากล้าหาญมาก หัวหน้าบอกว่าพวกผมสัญญากันไว้ว่าจะไม่ทิ้งกัน จะพาทุกคนกลับบ้านใบหน้าของหัวหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าตลอดเวลาที่เล่าให้ผมฟัง ซึ่งวันนี้หัวหน้าทำได้ดีมากๆ แล้ว แล้วก็รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับน้องจริงๆ แล้วทุกอย่างไม่ใช่ความผิดของหัวหน้า ไม่มีใครอยากให้เกิดพี่เป็นกำลังใจให้ครับ”
นอกจากนี้ กันยังได้โพสต์เพิ่มเติมว่า พลทหาร ญาณพัฒน์ โครตสาขา อายุเพียง 21 ปี ต้องเสียชีวิต เขาเติบโตในครอบครัวทหาร สมัครใจไปอยู่แนวหน้าเพื่อเดินตามรอยพ่อ โดยได้ต่อสู้อย่างกล้าหาญจนวินาทีสุดท้าย มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 1,000,000 บาท ให้กับครอบครัว
“เศร้ามาก มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้มอบเยียวยา 1000000 ให้กับครอบครัวของ พลทหาร ญาณพัฒน์ โครตสาขา ซึ่งเสียชีวิตในสมรภูมิปกป้องแผ่นดินจากเขมร น้องอายุเพียง 21 ปีน้องเติบโตมาในค่ายทหารครอบครัวน้องพ่อน้องเป็นทหารในตำนานเชี่ยวชาญการรบพี่ก็เป็นทหารน้องจึงไปสมัครเป็นทหารเพื่อจะเดินตามรอยพ่อไปเป็นสุดยอดนักรบเหมือนพ่อหลังฝึกเสร็จน้องก็สมัครใจไปอยู่แนวหน้าซึ่งเป็นเพียงไม่กี่คนในรุ่นที่ได้ไปซึ่งน้องมาได้เพราะตัวของน้องเองและพอเกิดเหตุการน้องย้ำกับพ่อน้องว่าน้องขอไปในสนามรบเหมือนที่พ่อเคยรบ
วันเกิดเหตุเขมรรุมบึ้มเข้ามาที่ฐานของน้องหนักมากแต่น้องก็สู้สุดใจพยามตอบโต้จนวินาทีสุดท้าย สุดท้ายน้องยอมเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินและจากไปข้างอาวุธคู่กาย สุดท้ายนี้มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้และFCกันจอมพลังทุกคนขอสดุดีความกล้าแด่ท่าน ญาณพัฒน์ โครตสาขา วีรกรรมของท่านคือตำนานขอบคุณที่ปกป้องประเทศไทยจนวินาทีสุดท้ายและขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวอย่างสุดซึ้งครับ”
รายชื่อทหารเสียชีวิตทั้ง 15 นาย ประกอบด้วย
- 1.พลทหาร วรัญชิต ยวงสุวรรณ (24 ก.ค.)
- 2.ส.อ.นพดล บุญเลิศ (25ก.ค.)
- 3.ส.อ.กฤษฎา น้อยโคตร (25ก.ค.)
- 4.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น (25ก.ค.) 5.จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา(25ก.ค.)
- 6.ส.ท. ศราวุฒิ นามสวัสดิ์ (25 ก.ค.) 7.ส.อ. จิรายุส อินทุมาน ( 25 ก.ค.)
- 8.พลทหาร ณาณพัฒน์ โคตรสาขา (26 ก.ค.)
- 9.ส.อ.อัมรินทร์ ผาสุข ( 28 ก.ค.)
- 10.พลทหาร สิรวิชญ์ ภิญโญสุข (28 ก.ค.)
- 11.จ.ส.อ.อโณทัย ป้องแก้ว (28 ก.ค.)
- 12.จ.ส.อ.ธีระยุทธ สีจุ้ยจ้าย (28 ก.ค.)
- 13.จ.ส.อ.อภิรมย์ ทรงพุฒิ (28 ก.ค.)
- 14.พลทหาร ธีรยุทธ กระจ่างทอง (28 ก.ค.)
- 15.ส.ท.ต่อพงษ์ พันดวง (28 ก.ค.)
วานนี้ (31 ก.ค.68) กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินทางไปพื้นที่ จ.สิงห์บุรี เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพของ ส.อ. จิรายุส อินทุมาน ตำแหน่ง หน.พวกระเบิดทำลาย กองพันจู่โจม หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ. ศรีสะเกษ (25 ก.ค.68) ณ วัดโพธิ์ขาวพอก อ.เมือง จ.สิงห์บุรี
กองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 9 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นพันตรี พร้อมมอบเงินพระราชทาน, สินไหมทดแทนภัยสงคราม, ประกันชีวิตกองทัพบก, เงินช่วยเหลือ และบำเหน็จตกทอดให้กับทายาท รวม 3,013,672 บาท และได้รับสิทธิบรรจุทายาททดแทนต่อไป
ผู้บัญชาการทหารบก ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ อีก 2 นายในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 คือ
พิธีพระราชเพลิงศพของ ส.ท.ศราวุธ นามสวัสดิ์ ตำแหน่ง หน.ชุดยิง หมู่ ปล. มว.ปล.ร้อย อวบ. ร.8 พัน.1 กองพลทหารราบที่ 3 ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะระหว่างปฏิบัติหน้าที่พิทักษ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (25 ก.ค.68) ณ ศิลาพัฒนาราม อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู โดยมี พล.อ. ชิษณุพงศ์ รอดศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธาน โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 9 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยเอก พร้อมมอบเงินพระราชทาน, สินไหมทดแทนภัยสงคราม, ประกันชีวิตกองทัพบก, เงินช่วยเหลือ และบำเหน็จตกทอดให้กับทายาท รวม 2,596,616 บาท
พิธีพระราชเพลิงศพของ พลทหาร ญาณพัฒน์ โคตรสาชา ตำแหน่ง พลกระสุน ร้อย อวบ.ร.3 พัน.2 กองพลทหารราบที่ 3 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทโดนตวล อ.กันทรลักษ์ จ. ศรีสะเกษ (26 ก.ค.68) ณ วัดสุทธิจินดา อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมี พล.อ.วสุ เจียมสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธาน โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นสิบเอก พร้อมมอบเงินพระราชทาน, สินไหมทดแทนภัยสงคราม, ประกันชีวิตกองทัพบก, เงินช่วยเหลือ และบำเหน็จตกทอดให้กับทายาท รวม 2,088,828 บาท
กองทัพบกขอสดุดี ทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยและผืนแผ่นดินเกิดด้วยชีวิต เป็นวีรบุรุษของชาติที่จะถูกจารึกไว้ในหัวใจของคนไทยตลอดไป ทั้งนี้ กองทัพบกจะดูแลสิทธิและสวัสดิการแก่ครอบครัวและทายาท เพื่อเชิดชูเกียรติแห่งความเสียสละอันยิ่งใหญ่อย่างดีที่สุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดรายชื่อ 23 ประเทศ ร่วมลงพื้นที่ดูความเสียหายไทย ถูกกัมพูชายิง
- เขมร ประจบ ‘ทรัมป์’ ยกแผ่นดินให้ตั้งฐานทัพ เชื่อกัมพูชาจะเจริญ ไทยไม่กล้ารุกราน
- ลือสะพัด หน่วย BHQ แค้น ฮุนเซน ส่งไปตาย จ่อโค่นอำนาจ ฮุนมาเนต
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
