ชาวเน็ตจีน ซัดยับ เจ้าหญิงกัมพูชา ร้องไห้ขอสันติภาพ ชี้ ทรยศราชวงศ์ รับใช้ตระกูลฮุน

เจ้าหญิง นโรดม เจนณา โพสต์คลิปร้องไห้วิงวอนขอสันติภาพผ่านโซเชียลมีเดียจีน แต่กลับถูกชาวเน็ตจีนถล่มอย่างรุนแรง กล่าวหาเป็น เจ้าหญิงจอมปลอม ชี้ทรยศราชวงศ์ และสนับสนุนคนชั่ว
กลายเป็นประเด็นร้อนในสื่อสังคมออนไลน์ของจีน เมื่อ เจ้าหญิง นโรดม เจนณา บุคคลผู้มีชื่อเสียงซึ่งมีความเชื่อมโยงกับราชวงศ์กัมพูชา ได้โพสต์คลิปวิดีโอที่ตนกำลังร้องไห้ และวิงวอนขอสันติภาพลงบนแพลตฟอร์ม “เว่ยป๋อ” (Weibo) ของจีน แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง แทนที่จะได้รับความเห็นใจ กลับถูกชาวเน็ตจีนจำนวนมากเข้าไปถล่มด้วยความคิดเห็นที่รุนแรง โดยกล่าวหาว่าเธอเป็น “เจ้าหญิงจอมปลอม” และเป็นเพียง “ทาสรับใช้” ของตระกูลฮุน

The Wild Chronicles Group สมาคมผู้สนใจประวัติศาสตร์ สงคราม ข่าวต่างประเทศ
ความคิดเห็นส่วนใหญ่จากชาวเน็ตจีนมีเนื้อหาไปในทิศทางเดียวกัน คือการแสดงความผิดหวังและกล่าวหาว่า นโรดม เจนณา ได้ทรยศต่อราชวงศ์สีหนุ และยอมรับใช้ตระกูลฮุนอย่างเต็มตัว โดยมีคอมเมนต์เช่น
- “เจ้าหญิงจอมปลอมกลายเป็นคนฉ้อโกงประชาชนโดยสมบูรณ์ร่วมมือกับตระกูลฮุนล้างเผ่าพันธุ์เขมร”
- “เจ้าหญิงกับตระกูลสีหนุยอมเป็นทาสตระกูลฮุนไม่มีศักดิ์ศรี”
- “การที่เจ้าหญิงกระทำบ่งบอกว่าตอนนี้ตระกูลฮุนเป็นเจ้าของประเทศกัมพูชา ที่ราชวงศ์สีหนุตอนนี้เป็นทาสเท่านั้น”

The Wild Chronicles Group สมาคมผู้สนใจประวัติศาสตร์ สงคราม ข่าวต่างประเทศ
ชาวเน็ตจีนจำนวนมากแสดงความเห็นว่า พวกเขาให้การสนับสนุนราชวงศ์สีหนุ แต่จะไม่ยอมถูกหลอกให้สนับสนุนสมเด็จฯ ฮุน เซน และมองว่าวิกฤตการณ์ชายแดนในครั้งนี้คือ “โอกาส” ที่ราชวงศ์จะสามารถกอบกู้เกียรติยศและอำนาจคืนมาจากตระกูลฮุนได้ แต่การออกมาเรียกร้องสันติภาพของเธอกลับถูกมองว่าเป็นการสนับสนุนคนชั่ว
โดยมีความคิดเห็นหนึ่งที่ได้รับการกดไลค์จำนวนมากระบุว่า “สิ่งที่เธอทำน่าอาย ถ้าเธอมีสายเลือดราชวงศ์สีหนุ ต้องใช้โอกาสวิกฤตตระกูลฮุนครั้งนี้กอบกู้ราชวงศ์ เธอมันแค่เจ้าหญิงจอมปลอมน่าเบื่อที่ยังออกมาแก้ต่างให้คนสารเลว”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กษัตริย์กัมพูชา กล่าวหาไทย ใช้อาวุธเคมี-ระเบิดลูกปราย ชี้ เป็นอาชญากรรมสงคราม
- “กษัตริย์กัมพูชา” ยกย่อง “ฮุนเซน” รักชาติ-นำประเทศด้วยความฉลาด
- ประวัติ “นโรดม แพน โมนิก้า” หญิงเขมรชี้หน้าด่าทหารไทย ที่แท้เป็นหลานสาว “สีหนุ”
ติดตาม The Thaiger บน Google News: