พี่สาว “น้องเมย” เปิดเอกสารลับ เจ็บปวดน้องถูกตราหน้าเป็น “ไอขี้โกหก”

พี่สาว “น้องเมย” เปิดเอกสารลับ เจ็บปวดน้องถูกตราหน้าเป็น “ไอขี้โกหก” ยอมรับไม่รู้สึกยุติธรรมมากพอ ฝากเปลี่ยนแปลงระบบการพิจารณาความ
จากกรณีที่ศาลทหารชั้นฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นอุทธรณ์ จำเลยมีความผิดทำร้ายร่างกายนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิต ทำโทษโดยฝ่าฝืนคำสั่งกลุ่มนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ส่วนที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยทันทีนั้น ศาลเห็นว่าด้วยอายุจำเลยไม่เคยได้รับโทษ การจะลงโทษจำเลยไปก็ไม่เป็นประโยชน์ ให้จำเลยปรับปรุงตัวรับราชการรับใช้ชาติต่อไปจะเป็นประโยชน์มากกว่า จึงให้ลงโทษจำคุก 4 เดือน 16 วัน ปรับ 15,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี
ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Supicha M Tanyakan ซึ่งพี่สาวน้องเมย โพสต์เอกสารก่อนเขียนระบุว่า “บันทึกจากพี่สาวถึงน้องชาย
วันนี้ได้มีการออกนั่งอ่านฎีกา ณ ศาล มบท12
คดีทำร้ายร่างกาย น.ต.ท. ภคพงศ์ ตัญกาญจน์
ส่วนที่ 1
ศาลสูงยื่นตามศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยมีความผิดจริงตามฟ้องโจทก์ แต่ให้รอการจำคุกไว้ เนื่องด้วยเป็นการกระทำความผิดครั้งแรก ประเด็นต่อมาคือลงในฐานความผิดอาญาลหุโทษ ทำให้จำเลยยังคงรับราชการเป็นตำรวจได้ต่อไปโดยที่ไม่ต้องออกจากราชการ แต่คนตายนั้นไม่มีสิทธิแม้แต่ได้ดำรงชีวิตของตัวเองด้วยซ้ำ
ส่วนที่ 2
น.ต.ท.ภคพงศ์ นายต้องปราศจากความผิดทั้งหมด รวมถึงข้อครหาว่าเพราะนาย “โกหก” จึงต้องไปโดนธำรงวินัย
เอกสารที่แนบมานี้ ไม่ได้ถูกส่งประกอบเข้าไปในการฟ้องร้องเพราะขอเอกสารจากต้นสังกัดเข้ามาในสำนวลไม่ทัน แต่ดิฉันอยากเอาออกมาเปิดเผยให้ทุกคนได้รับทราบโดยทั่วกันว่าเรื่องทั้งหมดที่เด็กชายคนนึงต้องรับมันไว้เกิดมากจากจุดใด
อยากให้ทุกคนได้อ่านมันไปพร้อมๆกันและสรุปเรื่องราวนี้ในใจของท่านเองว่าคิดเห็นอย่างไร
-เอกสารฉบับที่ 1 เป็นคำให้การของนักเรียนบังคับบัญชาที่พาน้องเมยเดินลงมาด้วยกัน และมีการอนุญาตให้ใช้บันไดเจ้าปัญหาแล้ว
-เอกสารฉบับที่ 2 เป็นคำให้การของจำเลย ซึ่งเป็นนักเรียนบังคับบัญชาเช่นกัน
โปรดตั้งใจอ่านแล้วจะเห็นจุดขัดแย้ง
ส่วนที่ 3 ความรู้สึกของพวกเราสามคน ในฐาน พ่อ แม่ และพี่สาว ของเด็กชายคนนึง
เราทั้งสามคนต้องนั่งฟังคำให้การวนเวียนไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะว่าน้องเมยโกหกถึงได้รับผลเช่นนี้ ทุกปากที่มาขึ้นศาลหรือให้การกับตำรวจล้วนแล้วแต่ปรักปำให้เด็กชายเป็นคนผิด ไม่ใช่แค่จากนักเรียนด้วยกัน แต่จากปากผู้ปกครองของเด็กอื่นๆก็ด้วย “ไอ้ขี้โกหก” ทำให้ทุกคนต้องมาเสียชื่อเสียง โรงเรียนได้รับผลกระทบ ทำไมครอบครัวไม่ยอมทำใจยอมรับมันซะละเพราะลูกแกนะมันเป็น “ไอ้ขี้โกหก”
วันนี้คุณทุกคนลองอ่านทุกตัวหนังสือเสียใหม่นะว่าเรื่องต่างๆ เกิดขึ้นยังไง แล้วใครกันที่โกหก
ส่วนที่ 4
ถึงผู้ปกครองส่วนมากก็ดีแต่ก็มีอีกส่วนที่รักโรงเรียนเสียยิ่งกว่าอะไรจนจับต้องไม่ได้ ฟังนะสิ่งที่ทำไปทั้งหมด มันจะไปกระทบกองทัพ โรงเรียน หรือ ปฏิรูปการเกณฑ์ทหาร มันก็ถูกต้องแล้วที่หน่วยงานพวกนี้จะถูกตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกอย่างโปร่งใส ถ้าให้ตรวจสอบกันเองพวกคุณก็ให้การเข้าข้างกันแบบนี้แหละ เป็นนักเรียนยังขนาดนี้เติบใหญ่จะเป็นขนาดไหน…
อย่างน้องเด็กชายที่ตายไปได้สร้างแรงกระเพื่อมทิ้งไว้ ทำให้ระบบอะไรๆมันดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ก็มองข้อดีในตรงนี้กันบ้าง เพราะฉันรู้ว่ามันจริง
ส่วนที่ 5
วันนี้เดินทางมาสุดสายปลายทางของคดีแรกแล้ว พวกเราทำสำเร็จแล้วนะเมย แต่ถึงมันจะไม่ได้รู้สึกว่ายุติธรรมมากพอแต่มันก็สำเร็จแล้ว ฉันล้างมลทินทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้นายแล้ว ขอบคุณพ่อกับแม่ที่หัวใจแหลกสลายแค่ไหนแต่ก็แข็งแกร่งมากพอที่จะอยู่และทนรับความเจ็บปวดนี้ไว้
สุดท้ายนี้ ฉันอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการพิจารณาความ
-อะไรที่เป็นอาญาทหารก็ให้ไปขึ้นศาลทหาร
-เหตุอะไรที่เกิดในกฎหมายอื่นก็อยากให้ไปขึ้นศาลพลเรือน เพราะการพิจารณาคดีมันแตกต่างกันจริงๆ
โกหกใครโกหกได้แต่ใจเราโกหกตัวเองไม่ได้ เพราะฉันยืนตามความจริงมาตลอดฉันถึงแข็งแกร่ง ฉันถึงพูดออกมาโดยไม่เกรงกลัวใดๆ”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่วน! ศาลพิพากษายืนคดี “น้องเมย” จำคุก 4 เดือน 16 วัน รอลงอาญา 2 ปี
- เปิดเหตุผล ศาลฯ ไม่ลงโทษทันที คดี “น้องเมย” ชี้ ไม่เป็นประโยชน์ ให้โอกาสจำเลยปรับปรุงตัว
- ย้อนไทม์ไลน์ คดี “น้องเมย” 8 ปี นักเรียนเตรียมทหารเสียชีวิตปริศนา รอฟังคำพิพากษาสูงสุดวันนี้
ติดตาม The Thaiger บน Google News: