เปิดบันทึก รักต้องห้าม “พิสิษฐ์ พิลิกา” แฉสัมพันธ์ลับ ฮุน เซน ก่อนถูกลอบสังหาร

ย้อนคดีลอบสังหาร พิสิษฐ์ พิลิกา อดีตซูเปอร์สตาร์ของกัมพูชา หลังไดอารี่ส่วนตัวแฉสัมพันธ์ลับกับ ฮุน เซน พร้อมบันทึกประโยคสุดท้าย ก่อนถูกลอบสังหาร
คดีลอบสังหารปริศนาของ พิสิษฐ์ พิลิกา อดีตซูเปอร์สตาร์นักแสดงและนางรำผู้เป็นที่รักของชาวกัมพูชาเมื่อปี 2542 ถูกนายเกิม สุขา อดีตผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชา ขุดคุ้ยบาดแผลเก่าที่รัฐบาลอยากให้ลืมเลือนมากที่สุด ซึ่งคือเรื่องราวของความรัก อำนาจมืด และความตายที่ถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับบุคคลที่ทรงอำนาจที่สุดของประเทศอย่างสมเด็จฯ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานวุฒิสภากัมพูชา และภรรยา บุน รานี
พิสิษฐ์ พิลิกา คือดาวค้างฟ้าผู้เป็นตัวแทนของกัมพูชาในยุค 80-90 แต่แล้วในเช้าวันที่ 6 กรกฎาคม 2542 ขณะที่เธอกำลังเลือกซื้อจักรยานให้หลานชายในตลาดโอรุสซีย์ที่คนพลุกพล่านไปมานั้น มือปืนได้เดินเข้ามาลั่นกระสุนใส่ พิลิกา อย่างเลือดเย็นจนหมดแม็กต่อหน้าหลานสาววัย 7 ขวบ พิลิกาเสียชีวิตในอีก 7 วันต่อมา ท่ามกลางความโศกเศร้าของคนทั้งชาติ งานศพของ พิลิกา กลายเป็นงานศพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปีของพนมเปญ แต่ฆาตกรกลับลอยนวล และคดีไม่เคยถูกคลี่คลายจนถึงปัจจุบัน

หลายเดือนต่อมา นิตยสาร L’Express ของฝรั่งเศสได้ตีพิมพ์บทความซึ่งสั่นสะเทือนไปทั่วโลก โดยเปิดเผยเนื้อหาจากไดอารี่ส่วนตัวของพิลิกา ที่บันทึกเรื่องราวความสัมพันธ์ลับ ๆ นานนับปีกับสมเด็จฯ ฮุน เซน ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเธอเขียนว่า “ฉันเป็นเพียงแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ” ไดอารี่เล่าถึงคำสารภาพรัก ของขวัญราคาแพงทั้งบ้านราคาเกือบสองแสนดอลลาร์ และเงินในบัญชีธนาคารอีกสองแสนดอลลาร์ที่ ฮุน เซน เปิดให้พิลิกา
จากความสัมพันธ์ลับ ๆ ได้กลายเป็นฝันร้าย เมื่อนางบุน รานี ภรรยาของสมเด็จฯ ฮุน เซน ได้รู้เรื่องราวทั้งหมด ในไดอารี่บันทึกถึงโทรศัพท์สายสุดท้ายจากฮุน เซน ที่ขอให้เธอตัดขาดจากเขา และปฏิเสธทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น หลังจากนั้นไม่นาน บัญชีธนาคารของพิลิกาถูกอายัด บ้านและรถถูกยึดคืน ความอัปยศถาโถมเข้ามาแทนที่ความรัก แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นกำลังจะตามมา

ภายในไดอารี่หน้าที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด ซึ่งลงวันที่สองเดือนก่อนจะถูกยิง พิลิกา บันทึกว่า พล.ต.อ.ฮก ลุนดี อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติผู้ล่วงลับ ได้เรียก พิลิกา ไปพบเป็นการส่วนตัวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และได้เตือนว่า “คุณนายบุน รานี ฮุน เซน กำลังโกรธจัดด้วยความหึงหวงและต้องการจะฆ่าฉัน” ก่อนที่ไดอารี่หน้าสุดท้ายจะจบลงด้วยประโยคที่สิ้นหวังว่า “ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจะไว้ชีวิตหรือจะตัดสินประหารฉัน เพราะพวกเขาเป็นเจ้าของประเทศ มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่จะช่วยฉันได้”
พยานปากสำคัญที่สุดคือหลานสาว และพี่สาวของพิลิกาที่อยู่ในเหตุการณ์ ทั้งสองได้ให้การกับ L’Express ในภายหลังว่า ขณะที่นำร่างโชกเลือดของพิลิกาขึ้นรถเพื่อส่งโรงพยาบาล พิลิกา ได้พูดคำสุดท้ายออกมาว่า “เป็นฝีมือของคุณนายฮุน เซน” คำให้การนี้สอดคล้องกับบันทึกในไดอารี่อย่างน่าขนลุก
แม้จะมีหลักฐานมากมาย แต่คดีกลับถูกทำให้เงียบ พยานในที่เกิดเหตุต่างหวาดกลัวเกินกว่าจะให้การกับตำรวจ พี่เขยของพิลิกาถูกสารวัตรทหารทุบตีและข่มขู่ให้ปิดปาก แม้หลายปีต่อมาอดีตนายตำรวจระดับสูงที่รับผิดชอบคดีในตอนแรกจะออกมายืนยันเรื่องราวทั้งหมดจากในคุก แต่รัฐบาลกัมพูชาก็ยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และโยนความผิดให้ฝ่ายค้านมาจนถึงปัจจุบัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดสาเหตุ ทำไม กษัตริย์กัมพูชา หน้าออกฝรั่ง ไม่เหมือนคนเขมร
- เปิดขุมสมบัติ “ฮุนเซน” รวยแสนล้าน จากเงินเดือนนายก 4 หมื่นบาท
- “ฮุนเซน” ต้านรถทัวร์ไทยไม่ไหว ปิดเม้นท์ หลังเปิดให้คนไทยเข้าถึงอีกครั้ง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: