เด็กหญิง 6 ขวบ ถูกหามส่ง ICU หลังกินลิ้นจี่เกือบสิบลูก หมอเตือน อันตรายถึงชีวิต

ช็อก! หามเด็กหญิง 6 ขวบ แอดมิตห้องฉุกเฉิน พบน้ำตาลในเลือดต่ำ หลังกินลิ้นจี่กว่า 10 ลูก แพทย์เตือน ไม่ควรทำ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
ใครจะไปคาดคิดว่าการกินผลไม้ อย่าง ลิ้นจี่ จะทำให้เกือบตายได้ ตามรายงานของสื่อจีนพบเคสของ เด็กหญิงวัย 6 ขวบ ในมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ถูกหามส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน เนื่องจากเธอมีอาการง่วงซึม และเหงื่อออกแต่ตัวเย็น โดยอาการผิดปกติดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เธอกินลิ้นจี่เป็นจำนวนมากขณะท้องว่าง เนื่องจากรู้สึกหิวจัดหลังกลับจากโรงเรียนในตอนเย็น
พ่อกับแม่เล่าว่า พวกเขาไม่ทันได้สังเกตว่าลูกสาววัย 6 ขวบ กินลิ้นจี่ช่วงท้องว่างในจำนวนเยอะขนาดนั้น หลังจากลูกเริ่มมีอาการผิดปกติก็ยิ่งทำให่ตื่นตระหนก รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลในทัน เพื่อเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน
ภายหลังการตรวจวินิจฉัยของแพทย์ พบว่า เด็กหญิง 6 ขวบ มีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำรุนแรง คือมีเพียง 3 มิลลิโมล/ลิตร เท่านั้น แพทย์ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ถ้าอาการรุนแรงขึ้นอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย เนื่องจากลิ้นจี่แม้จะมีรสหวานจัดและมีปริมาณน้ำตาลฟรุกโตสสูง พอร่างกายได้รับในปริมาณมากเกินไปในขณะที่ท้องว่าง อาจกระตุ้นให้เกิดกระบวนการสร้างกลูโคสใหม่และหลั่งอินซูลินออกมามากเกินไปจนนำไปสู่ปฏิกิริยา “น้ำตาลในเลือดต่ำ”

ดังนั้น ผู้ใหญ่ไม่ควรรับประทานลิ้นจี่เกิน 15 ถึง 20 ลูกต่อวัน ส่วนเด็กควรจำกัดปริมาณให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่ และไม่ควรรับประทานลิ้นจี่ในขณะท้องว่าง
ทั้งนี้ไม่ใช่แค่ลิ้นจี่ที่มีปริมาณน้ำตาลสูง ผลไม้ชนิดอื่น ๆ ก็ควรระวังในการกินปริมาณเยอะด้วยเช่นกัน อาทิ แตงโม แอปเปิล รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงอย่างน้ำผึ้ง หรือเครื่องดื่มรสหวานจัด เนื่องจากอาหารเหล่านี้ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาน้ำตาลในเลือดต่ำได้เหมือนกัน
นอกจากนั้น ลิ้นจี่ก็ถูกจัดเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน การรับประทานในปริมาณและจำนวนที่มากเกินไป อาจจะเกิดอาการ ปากแห้ง เลือดกำเดาไหล หรืออาการร้อนในได้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ของดีเมืองไทย สื่อนอกใส่ชื่อ “ส้มตำ” ติดโผ 24 สลัดที่อร่อยที่สุดในโลก
- รวบแก๊งค์อินเดีย ใช้ผงแกงกะหรี่ โปะหน้าชายญี่ปุ่น หวังขโมยกระเป๋า
- เตือนภัย หญิงใช้น้ำประปาล้างจมูก ติดเชื้ออะมีบากินสมอง ตายภายใน 1 อาทิตย์
อ้างอิงจาก : soha.vn
ติดตาม The Thaiger บน Google News: