การพนันส่งผลต่อชีวิตนักเรียนของคุณอย่างไร?

การพนันส่งผลกระทบต่อชีวิตนักเรียนโดยการนำความท้าทายหลากหลายเข้ามาซึ่งรบกวนทั้งด้านการเรียน ความสัมพันธ์ และสุขภาพจิต การพนันได้แทรกซึมเข้าสู่ชีวิตนักเรียนมากขึ้น โดยนักเรียนหลายคนหันมาเล่นการพนันเพื่อความบันเทิง การผ่อนคลายความเครียด หรือแม้กระทั่งเป็นวิธีในการหารายได้เสริม นักเรียนหันมาเล่นการพนันด้วยเหตุผลที่หลากหลาย เช่น ความกดดันจากเพื่อน ความตื่นเต้น หรือเพื่อหลีกหนีจากความเครียดทั้งด้านการเรียนและเรื่องส่วนตัว
นักเรียนชื่นชอบการพนันออนไลน์เพราะเข้าถึงได้ง่ายและสะดวก โดยพวกเขามักเข้าร่วมในกิจกรรมอย่างการแทงกีฬา คาสิโนสด และแม้แต่ตู้สล็อต กิจกรรมเหล่านี้น่าสนใจเพราะสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วผ่านสมาร์ตโฟน ทำให้สามารถเล่นการพนันได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงพัก หรือแม้กระทั่งตอนดึกเมื่อความเครียดพุ่งสูง การแทงกีฬา โดยเฉพาะในเกมยอดนิยมอย่างบอล บาสเก๊ตบอล และแม้แต่กีฬาอีสปอร์ต ถือเป็นรูปแบบการพนันที่พบได้บ่อยในหมู่นักเรียนไทย
ความตื่นเต้นจากการมีโอกาสชนะเกมที่พวกเขาชื่นชอบนั้นมีน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ผลกระทบจากการพนันส่งผลอย่างมากต่อชีวิตของนักเรียน โดยผลกระทบทันทีที่เห็นได้ชัดคือผลการเรียน นักเรียนเลือกที่จะเล่นการพนันแทนการเข้าเรียน การสูญเสียจากการพนันและการพยายามเอาคืนทำให้เกิดการขาดเรียน เกรดตก และไม่มีสมาธิกับการเรียน การไล่ตามเงินที่เสียไปถือเป็นหนึ่งในสัญญาณทั่วไปของปัญหาการพนัน ความสัมพันธ์ทางสังคมเริ่มตึงเครียดเมื่อนักเรียนเริ่มแยกตัวออกจากผู้อื่นหรือโกหกเพื่อนและครอบครัวเกี่ยวกับพฤติกรรมการพนันของตน
ปัญหาความไม่มั่นคงทางการเงินก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญ โดยมีนักเรียนจำนวนมากที่ยืมเงินมาเล่นการพนัน นำไปสู่หนี้สินที่เพิ่มขึ้น พฤติกรรมเหล่านี้ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตในระยะยาว เช่น ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และความเครียด ซึ่งส่งผลให้การจัดการชีวิตประจำวันยากขึ้น การพนันบั่นทอนวินัยของนักเรียนในด้านการเรียน ชีวิตสังคม และสุขภาพส่วนตัว ทำให้มันกลายเป็นพฤติกรรมที่อันตรายและส่งผลยาวนาน
ปัญหาการพนันในหมู่นักเรียนไทยกำลังกลายเป็นประเด็นสำคัญ โดยมีการศึกษาเผยว่ามีเด็กและเยาวชนเกือบ 5 ล้านคนที่เกี่ยวข้องกับการพนันในรูปแบบต่างๆ ข้อมูลจากมูลนิธิส่งเสริมสุขภาพไทยและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยชี้ว่า การเพิ่มขึ้นของการพนันในกลุ่มเยาวชนเชื่อมโยงกับการเข้าถึงมือถือ โปรโมชั่นออนไลน์ และสื่อบันเทิงดิจิทัล ตามรายงานของเว็บไซต์ nationthailand.com การพนันออนไลน์ในรูปแบบการแทงบอลออนไลน์ เกมไพ่ และหวย เป็นประเภทที่พบมากที่สุด ผู้เชี่ยวชาญเตือนถึงปัญหาการเสพติดที่เพิ่มขึ้น ปัญหาทางการเงิน และความเสี่ยงต่อสุขภาพจิต พร้อมเรียกร้องให้มีการออกกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นและการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายเพื่อปกป้องเยาวชน
1. ความล้มเหลวทางการเรียน
จากการศึกษาล่าสุดเกี่ยวกับพฤติกรรมการพนันในกลุ่มวัยรุ่น พบว่ามีความเชื่อมโยงอย่างมีนัยสำคัญระหว่างผลการเรียนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกับนิสัยการพนัน ข้อค้นพบนี้น่ากังวลเป็นพิเศษ เนื่องจากแสดงให้เห็นถึงภาระเพิ่มเติมของนักเรียนที่ต้องเผชิญกับความเครียดจากการเรียนอยู่แล้ว ความเครียดจากการทำงานในรายวิชา ประกอบกับปัญหาทางการเงินจากการพนัน ยิ่งเพิ่มความท้าทายด้านสุขภาพจิต ทำให้เกิดวงจรอุบาทว์ของผลการเรียนที่แย่ลงและการพนันที่เพิ่มขึ้นผลกระทบด้านลบต่อเกรดของนักเรียนยังส่งผลต่อความมั่นใจในตนเองและโอกาสในอนาคต สร้างผลกระทบต่อเนื่องที่ลุกลามออกไปจากห้องเรียนไปสู่คุณภาพชีวิตโดยรวม แนวโน้มที่เพิ่มขึ้นนี้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการดำเนินมาตรการเพื่อแก้ไขผลกระทบด้านสุขภาพจิตและความเสี่ยงในการติดการพนันในหมู่เยาวชน
ตัวอย่างเช่น นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คนหนึ่งเริ่มเล่นการพนันกับเพื่อนเพื่อผ่อนคลายหลังจากเรียน แต่ในเวลาไม่นานก็กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน กินเวลาอ่านหนังสือ ทำให้ขาดเรียนและตามไม่ทันการเรียน ความสนใจของนักศึกษาคนนี้เปลี่ยนไปจดจ่อกับการพนันโดยสิ้นเชิง ส่งผลให้เกรดตกอย่างมาก และอาจารย์ที่ปรึกษาสังเกตได้ถึงการมีส่วนร่วมห้องเรียนที่ลดลง เกรดเฉลี่ยของนักศึกษาคนนี้ลดลงอย่างหนักในช่วงกลางภาค และมีหลายวิชาที่สอบตก เนื่องจากการติดการพนันกลายเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าความรับผิดชอบทางวิชาการ
2. ละเลยความรับผิดชอบทางการเรียน
นักเรียนมักละเลยความรับผิดชอบทางการเรียนเมื่อพวกเขาหมกมุ่นอยู่กับการพนัน ความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเล่นการพนันทำให้ความสำคัญของการเรียน กิจกรรมเสริมหลักสูตร และหน้าที่อื่นๆ ถูกลดความสำคัญลง ส่งผลให้เกิดการละเลยอย่างมีนัยสำคัญ การละเลยหน้าที่ทางการเรียนแสดงออกได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่การไม่ส่งงาน ขาดเรียน ไม่เตรียมตัวสอบ ไปจนถึงการไม่สนใจเส้นตายต่างๆ การไม่รับผิดชอบด้านการเรียนส่งผลให้เกรดตก ความรู้สึกเห็นคุณค่าในตนเองลดลง และมีความเสี่ยงต่อความล้มเหลวทางการศึกษา
ความตั้งใจในการเรียนของนักเรียนลดลงเมื่อการพนันกลายเป็นสิ่งที่ใช้เวลาและพลังงานไปมาก นักเรียนใช้เวลาจำนวนมากไปกับกิจกรรมการพนัน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมออนไลน์ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ทันทีและเต็มไปด้วยสิ่งรบกวน เวลาที่ใช้ไปกับการพนันคือเวลาที่ถูกพรากไปจากการทำการบ้าน การอ่านหนังสือ หรือการทำงานกลุ่ม นักเรียนเริ่มตามเนื้อหาการเรียนไม่ทัน และครูเริ่มสังเกตเห็นถึงการมีส่วนร่วมที่ลดลง ผลงานที่ไม่สม่ำเสมอ และการมีส่วนร่วมในชั้นเรียนที่ถดถอย
3. การเงินไม่มั่นคง
การพนันสามารถนำพานักเรียนเข้าสู่วิกฤตทางการเงิน โดยเฉพาะเมื่อการพนันกลายเป็นนิสัยและเริ่มรบกวนชีวิตประจำวัน ลักษณะที่ไม่แน่นอนของการพนันนำไปสู่การสูญเสียอย่างมาก ทำให้นักเรียนต้องหาวิธีเพิ่มเติมในการชำระหนี้ นักเรียนเดิมพันด้วยเงินจำนวนมากขึ้นเพื่อหวังจะเอาเงินที่เสียไปคืน แต่กลับจมลึกลงในความวุ่นวายทางการเงิน วงจรของการพยายามเอาคืนเงินที่เสียไปถือเป็นลักษณะเด่นของการติดการพนัน และนำไปสู่หนี้สินที่สะสมจนยากต่อการจัดการหรือหลีกเลี่ยง
นักเรียนต้องต่อสู้กับภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าหนังสือเรียน ค่าเช่าห้อง หรือค่าครองชีพประจำวัน ทำให้เกิดการสะสมของหนี้ ปัญหาทางการเงินเหล่านี้ส่งผลต่อสุขภาพจิต ทำให้เกิดความรู้สึกสิ้นหวัง ความเครียด และความวิตกกังวล บางกรณีนักเรียนถึงขั้นใช้วิธีผิดกฎหมาย เช่น การขโมยหรือฉ้อโกง เพื่อหาเงินมาเล่นการพนัน ทำให้พวกเขาจมอยู่ในวงจรแห่งการทำลายตนเองทั้งในด้านส่วนตัวและการเงิน
4. ถอนตัวจากชีวิตทางสังคม
แรงกดดันทางสังคม เช่น อิทธิพลจากเพื่อนและความต้องการที่จะเข้ากลุ่ม เป็นปัจจัยที่ผลักดันให้นักเรียนหันมาเล่นการพนัน การเล่นการพนันเป็นประจำส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์เหล่านี้ในระยะยาว นำไปสู่การแยกตัวทางสังคม นักเรียนเริ่มถอนตัวและสูญเสียความสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อนฝูง เนื่องจากให้ความสำคัญกับการพนันมากกว่าการเข้าสังคม ส่งผลให้พลาดโอกาสในการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและการได้รับการสนับสนุนทางอารมณ์
ตัวอย่างเช่น นักเรียนคนหนึ่งที่เล่นการพนันเป็นประจำมักจะปฏิเสธคำเชิญเข้ากลุ่มติว งานสังคมหรือการออกไปเที่ยวกับเพื่อน โดยเลือกที่จะอยู่บ้านและเล่นการพนันแทน พฤติกรรมดังกล่าวค่อยๆ ตัดขาดความสัมพันธ์ที่สำคัญ จนนำไปสู่การแยกตัว ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพทางสังคมและอารมณ์มีนัยสำคัญในระยะยาว ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพจิต โอกาสทางอาชีพ และความพึงพอใจในชีวิตโดยรวมเมื่อนักเรียนเข้าสู่ช่วงวัยผู้ใหญ่
5. หันไปทำกิจกรรมผิดกฎหมาย
เมื่อนักเรียนมีปัญหาการพนันที่รุนแรงขึ้น พวกเขาเริ่มหันไปทำกิจกรรมผิดกฎหมาย การพัฒนาไปสู่พฤติกรรมทางอาญาที่รุนแรงขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นถือเป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่ง ซึ่งส่งผลต่อทั้งตัวบุคคลและสังคมในวงกว้าง ปัญหาการพนันมักเริ่มต้นจากชีวิตส่วนตัวของนักเรียน โดยเริ่มจากการโกหกและฉ้อโกงภายในครอบครัว ก่อนจะลุกลามไปสู่การกระทำที่รุนแรงขึ้น สมองส่วนหน้าของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาที่ยังอยู่ในช่วงพัฒนา ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการตัดสินใจ การควบคุมแรงกระตุ้น และการประเมินผลกระทบ ยังไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดและพฤติกรรมเสี่ยง รวมถึงการก่ออาชญากรรมเพื่อหาเงินมาเล่นการพนัน
ในช่วงแรกนักเรียนอาจเริ่มจากการโกหกเรื่องเงินที่ใช้ไปกับการพนัน ซ่อนความสูญเสียจากพ่อแม่ หรือแม้แต่ขโมยเงินจำนวนเล็กน้อยจากสมาชิกในครอบครัวเพื่อนำไปใช้หนี้การพนัน แต่เมื่อการเสพติดรุนแรงขึ้น ความสิ้นหวังก็เพิ่มขึ้นตาม ความสิ้นหวังนี้นำไปสู่การกระทำผิดที่รุนแรงยิ่งขึ้น การขโมยเล็กๆ ภายในครอบครัวอาจกลายเป็นการขู่กรรโชกหรือฉ้อโกงภายในโรงเรียน นักเรียนบางคนขโมยของจากเพื่อน ขายของใช้ส่วนตัว หรือหลอกลวงให้ผู้อื่นให้เงินโดยอ้างเหตุผลต่างๆ เพื่อชดเชยความสูญเสียจากการพนัน
ในบางกรณีที่รุนแรง นักเรียนหันไปสู่พฤติกรรมอาชญากรรมที่มีการจัดการมากขึ้น เช่น การลักทรัพย์หรือการค้ายาเสพติดเพื่อหาเงินมาเล่นการพนัน ความเสี่ยงที่จะถูกจับไม่ได้มีน้ำหนักมากพอที่จะหยุดยั้งความต้องการอย่างแรงกล้าในการเล่นพนัน ทำให้เกิดวงจรอุบาทว์ที่นักเรียนเริ่มมองว่าการกระทำผิดกฎหมายเป็นเพียงวิธีหนึ่งในการบรรลุเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น นักเรียนคนหนึ่งงัดตู้เซฟของพ่อแม่ หรือแม้แต่ใช้กลอุบายหลอกเพื่อนร่วมชั้นให้ยืมเงิน โดยมีเจตนาจะนำไปเล่นการพนันแทนที่จะใช้คืนหนี้
6. สุขภาพกายและสุขภาพจิตที่เสื่อมถอย
การติดการพนันในหมู่นักเรียนส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อสุขภาพจิตโดยรวม ก่อให้เกิดปัญหาทางจิตใจที่สะสมขึ้นตามเวลา การพนันมักเป็นทั้งตัวกระตุ้นและปัจจัยเสริมที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้รุนแรงขึ้น เพิ่มความปั่นป่วนทางอารมณ์ที่นักเรียนเผชิญ ในขณะที่ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า ความเครียด และความท้าทายด้านสุขภาพจิตอื่นๆ มักถูกพูดถึงแยกกัน
ตัวอย่างเช่น ความขึ้นๆ ลงๆ ทางอารมณ์จากการพนันนำไปสู่ความวิตกกังวลอย่างรุนแรง นักเรียนเผชิญกับความกังวลก่อนการวางเดิมพัน กลัวผลลัพธ์ที่จะตามมา และรู้สึกเสียใจและหวาดกลัวหลังจากแพ้การพนัน วัฏจักรของความวิตกกังวลเช่นนี้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นความวิตกกังวลในชีวิตประจำวัน กระทบต่อการใช้ชีวิตและคุณภาพชีวิตโดยรวม ความวิตกกังวลรุนแรงถึงขั้นที่นักเรียนหลีกเลี่ยงสถานการณ์ทางสังคมหรือถอนตัวจากหน้าที่ทางการเรียน เพราะกลัวความล้มเหลวทั้งในการพนันและด้านอื่นๆ ของชีวิต การติดการพนันยังพบว่ามีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการกินผิดปกติ ความเครียดทางอารมณ์ที่เกิดจากการพนัน โดยเฉพาะความรู้สึกผิด ความอับอาย และความวิตกกังวล ทำให้นักเรียนบางคนใช้พฤติกรรมการกินที่ผิดปกติเป็นวิธีในการระบายอารมณ์ แรงกดดันในการจัดการกับปัญหาสุขภาพจิตเหล่านี้เกินกว่าที่นักเรียนจะรับมือไหว จนนำไปสู่การใช้ “อาหาร” หรือ “การพนัน” เป็นกลไกการเผชิญปัญหาที่ไม่เหมาะสม
น้ำหนักของแรงกดดันทางการเรียน สังคม และการเงินที่สะสม รวมกับปัญหาสุขภาพจิตที่เกิดจากการพนัน ผลักดันให้นักเรียนเข้าสู่ภาวะล่มสลายทางอารมณ์และพฤติกรรมทำลายตนเอง นักเรียนพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้มีวิถีชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การจัดการกับวิกฤตสุขภาพจิตที่เกิดจากการพนัน จำเป็นต้องมีการสนับสนุนจากโรงเรียนอย่างรอบด้าน โดยต้องจัดหาทรัพยากรด้านสุขภาพจิตอย่างครอบคลุม มีระบบสนับสนุนที่รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านการติดการพนัน และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความเชื่อมโยงของปัญหาเหล่านี้ เพื่อช่วยให้นักเรียนหลุดพ้นจากวงจรดังกล่าว
7. ความเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองที่เพิ่มขึ้น
ความเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองเพิ่มขึ้นในหมู่นักเรียนที่เล่นการพนัน เนื่องจากการพนันทำให้เกิดความทุกข์ทางอารมณ์ที่รุนแรง และกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกผิด ความอับอาย และความหงุดหงิดอย่างรุนแรง ความเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเอง และในกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือการฆ่าตัวตาย เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อมีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง นักเรียนที่มีปัญหาการพนันมักประสบกับความทุกข์ทางอารมณ์อย่างหนัก รวมถึงความรู้สึกสิ้นหวัง ภาวะซึมเศร้า และความวิตกกังวล ซึ่งนำไปสู่ความคิดและพฤติกรรมในการฆ่าตัวตาย
ลักษณะที่ทำลายล้างของการติดการพนันทำให้ปัญหาสุขภาพจิตเหล่านี้รุนแรงขึ้น เพราะความพยายามที่จะเอาเงินที่เสียไปคืน กลายเป็นวงจรแห่งความสิ้นหวังและหมดหนทางอย่างไม่จบสิ้นตัวอย่างเช่น นักเรียนคนหนึ่งที่มีหนี้สินจำนวนมากจากการพนัน รู้สึกว่าตนเองติดกับดักของสถานการณ์ และต้องเผชิญกับความกดดันอย่างหนักในการ “เอาคืน” เงินที่เสียไป ความกดดันอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความอับอายจากการต้องซ่อนปัญหาการติดการพนันจากคนรอบข้าง ทำให้นักเรียนรู้สึกโดดเดี่ยว สิ้นหวัง และไม่สามารถหาทางออกจากปัญหาได้ การมีความคิดฆ่าตัวตายในกลุ่มเยาวชนกลายเป็นประเด็นที่น่ากังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเยาวชนต้องเผชิญกับแรงกดดันสะสมจากทั้งด้านการเรียน สังคม และปัญหาส่วนตัว
ทำไมนักเรียนจึงหันมาเล่นการพนัน?
นักเรียนหันมาเล่นการพนันด้วยเหตุผลที่หลากหลาย โดยสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดได้แก่ ความคิดถึงบ้าน การจัดการเรื่องการเงิน และความต้องการหลีกหนีจากความเป็นจริง นักเรียนบางคนใช้การพนันเป็นเครื่องมือในการเบี่ยงเบนความสนใจจากความรู้สึกด้านลบ เช่น ความคิดถึงบ้าน โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นของชีวิตในมหาวิทยาลัยที่เต็มไปด้วยความเหงาหรือความเครียด
การรับมือกับอิสรภาพใหม่และการบริหารเงินจำนวนมาก เช่น เงินกู้เพื่อการศึกษา ยิ่งเพิ่มแรงจูงใจในการเล่นการพนัน นำไปสู่พฤติกรรมเสี่ยง เช่น ใช้จ่ายเกินกำลัง การพนันจึงกลายเป็นทางออกง่ายๆ ในการหลีกหนีแรงกดดันจากการเรียนหรือปัญหาส่วนตัว ผ่านเกมต่างๆ เช่น คาสิโนออนไลน์
คาสิโนออนไลน์ดึงดูดนักเรียนเพราะให้ความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัว ทำให้นักเรียนสามารถเล่นพนันได้อย่างเงียบๆ โดยไม่ต้องออกจากห้อง ความสามารถในการเข้าถึงและความง่ายในการวางเดิมพันผ่านสมาร์ตโฟนทำให้การพนันออนไลน์ยิ่งน่าสนใจมากขึ้น
การพนันกลายเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้นเมื่อพวกเขาติดอยู่ในวงจรของการพยายามเอาเงินที่เสียไปคืน นักเรียนเริ่มมีพฤติกรรมการพนันที่ทำลายตนเองผ่านทาง UFABET โดยมีเป้าหมายเพื่อหลีกหนีจากความกดดันทางการเรียนและความเครียด
รูปแบบการพนันประเภทใดที่พบนักเรียนไทยเล่นมากที่สุด?
การแทงกีฬาเป็นรูปแบบการพนันที่พบนักเรียนไทยเล่นมากที่สุด การเดิมพันการแข่งขันกีฬากลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลัย โดยเฉพาะหลังจากที่หลายรัฐมีการออกกฎหมายให้การพนันกีฬาเป็นเรื่องถูกกฎหมาย รองลงมาคือการเล่นหวยและเกมไพ่ ตามรายงานของเว็บไซต์ nationthailand.com กีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มนักเรียนสำหรับการเดิมพัน ได้แก่ ฟุตบอล บาสเก๊ตบอล และอีสปอร์ต เนื่องจากเป็นกีฬาที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก การเดิมพันในกีฬาดังกล่าวจึงช่วยสร้างความเชื่อมโยงกับการแข่งขันแบบทันที เพิ่มระดับความตื่นเต้นให้กับทั้งแฟนกีฬาและนักพนัน
นักเรียนจำนวนมากติดการพนันกีฬา โดยเฉพาะ การพนันฟุตบอลออนไลน์ เนื่องจากสามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยส่วนใหญ่จะวางเดิมพันผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ทำให้สามารถเล่นพนันได้ทุกที่ทุกเวลา การเดิมพันกีฬายังมีการโฆษณาอย่างหนักไปยังกลุ่มวัยรุ่นผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะแพลตฟอร์มอย่าง TikTok ซึ่งเป็นแหล่งรวมของนักศึกษาและเยาวชนจำนวนมาก
ความรู้สึกเร่งเร้าและความตื่นเต้นจากการติดตามการแข่งขันกีฬาสด ทำให้การวางเดิมพันดูเหมือนไม่เป็นอันตราย และบางครั้งอาจให้ความรู้สึกเหมือนได้รับรางวัล โดยเฉพาะเมื่อมีการโปรโมตเพื่อกระตุ้นให้ผู้ชมมีส่วนร่วมกับเกมที่พวกเขาชื่นชอบอยู่แล้ว การมีอยู่ของโบนัสส่งเสริมการขายและการเข้าถึงแพลตฟอร์มการเดิมพันได้อย่างง่ายดาย ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจ แต่ปัจจัยเหล่านี้กลับเป็นตัวเร่งให้ความเสี่ยงต่อการติดการพนันในหมู่นักเรียนเพิ่มสูงขึ้น
การพนันในหมู่นักเรียนไทยกำลังเพิ่มขึ้นหรือไม่?
ใช่ การพนันในหมู่นักเรียนไทยกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีเด็กและเยาวชนไทยเกือบ 5 ล้านคนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการพนัน ตามข้อมูลจากเวที “สังคมเสี่ยงพนัน: เดิมพันอนาคต” ซึ่งจัดโดยมูลนิธิส่งเสริมสุขภาพไทยร่วมกับศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตัวเลขดังกล่าวรวมถึงเด็กอายุ 15–18 ปี ประมาณ 1.06 ล้านคน และเยาวชนอายุ 19–25 ปี อีกประมาณ 3.92 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่ปี 2564 งานวิจัยนี้จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 15–27 พฤศจิกายน 2566 ใน 24 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 7,000 คนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ผลการวิจัยพบว่า 21% ของกลุ่มนักพนันเป็นเด็ก และ 26% เป็นเยาวชน
ผู้เชี่ยวชาญในเวทีดังกล่าวได้แสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น โดยเชื่อมโยงกับการเข้าถึงแพลตฟอร์มการพนันออนไลน์ที่ง่ายขึ้น ซึ่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และมักใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการขายที่เข้าถึงเยาวชนอย่างหนัก ผลการศึกษาเน้นว่า ปัจจุบันมีประชากรกว่า 6 ล้านคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดปัญหาติดการพนัน และยังมีผู้ได้รับผลกระทบจากการพนันถึง 45 ล้านคน ซึ่งรวมถึงปัญหาทางการเงิน ความขัดแย้งในครอบครัว ปัญหาสุขภาพจิต และการแยกตัวออกจากสังคม ผลการศึกษานี้สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการปฏิรูปกฎหมาย จัดสรรทรัพยากรด้านสุขภาพจิต และออกนโยบายที่ตรงกลุ่มเป้าหมายเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบระยะยาวของการติดการพนัน
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้นักเรียนเล่นการพนันมีอะไรบ้าง?
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้นักเรียนเล่นการพนันมีดังต่อไปนี้
-
- เพศ : งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าเพศชายมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมเล่นการพนันมากกว่าเพศหญิง รูปแบบนี้พบได้ในหลายช่วงอายุ รวมถึงเด็กก่อนวัยรุ่นและวัยรุ่น ซึ่งเพศชายมักจะแสดงอัตราการมีส่วนร่วมในการพนันสูงกว่า
- อายุ : นักเรียนที่มีอายุมากกว่ามีแนวโน้มจะเข้าร่วมกิจกรรมการพนันมากขึ้น โดยความน่าจะเป็นในการเล่นการพนันจะเพิ่มขึ้นตามอายุของนักเรียน โดยเฉพาะในระดับมัธยมปลายที่มีสัดส่วนนักเรียนเล่นการพนันสูงกว่าเด็กที่อายุน้อยกว่า
- พฤติกรรมการพนันของผู้ปกครอง : อีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือการมีผู้ปกครองที่เล่นการพนัน เด็กที่เติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่เล่นการพนันมีแนวโน้มที่จะพัฒนาพฤติกรรมการเล่นการพนันตาม เนื่องจากการเลียนแบบและทัศนคติของครอบครัวต่อการพนัน
- พฤติกรรมไม่เหมาะสมในโรงเรียน : นักเรียนที่แสดงพฤติกรรมที่มีปัญหาในโรงเรียน เช่น ขาดเรียน หรือสร้างความวุ่นวาย มักมีความเสี่ยงสูงในการพัฒนาปัญหาการพนัน พฤติกรรมเหล่านี้สะท้อนถึงปัญหาภายใน เช่น การขาดการควบคุมแรงกระตุ้น หรือความโน้มเอียงที่จะหาพฤติกรรมที่เสี่ยง
- อิทธิพลจากเพื่อน : การมีเพื่อนหรือกลุ่มเพื่อนที่เล่นการพนันเพิ่มความเป็นไปได้ที่นักเรียนจะเล่นตาม อิทธิพลทางสังคมและแรงกดดันจากเพื่อนมีบทบาทสำคัญในการหล่อหลอมทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อการพนัน
- การพนันออนไลน์ : การเข้าถึงการพนันออนไลน์ รวมถึงเกมพนันที่เล่นฟรี เป็นปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในหมู่นักเรียน แพลตฟอร์มเหล่านี้ทำให้เส้นแบ่งระหว่างการเล่นเกมและการพนันไม่ชัดเจน ส่งผลให้นักเรียนเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมการพนันโดยไม่รู้ตัวถึงความเสี่ยงที่แท้จริง
- ความขัดแย้งในครอบครัว : ปัญหาภายในครอบครัว โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการพนัน หรือการใช้เวลาหน้าจอมากเกินไป เช่น การเล่นวิดีโอเกม ทำให้นักเรียนมีความเสี่ยงในการหันไปเล่นการพนัน ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ไม่ดีทำให้นักเรียนมองการพนันเป็นทางออกหรือวิธีระบายความเครียด
- ผลการเรียนที่ย่ำแย่ : นักเรียนที่มีผลการเรียนต่ำ หรือมีปัญหาในการจดจ่อกับการเรียน มักมีแนวโน้มที่จะหันไปเล่นการพนัน ความต้องการความตื่นเต้น หรือการเบี่ยงเบนความสนใจจากแรงกดดันด้านวิชาการ เป็นแรงจูงใจที่ผลักดันพฤติกรรมนี้
- มุมมองว่าการพนันมีความเสี่ยงต่ำ : นักเรียนที่มองว่าการพนันเป็นกิจกรรมที่สนุกและไม่เสี่ยง มักมีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมมากขึ้น ความเชื่อว่าการพนันเป็นวิธีรวยเร็ว หรือเป็นแค่ความบันเทิงที่ไม่เป็นอันตราย ทำให้การพนันดูน่าดึงดูดสำหรับนักเรียน
- พฤติกรรมแสวงหาความตื่นเต้น : ต้นเร้าใจ มักมีแนวโน้มที่จะเล่นการพนัน การพนันให้ความรู้สึกตื่นเต้นทันทีและมีโอกาสได้รางวัล ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ที่กระตุ้นอารมณ์
อาการหรือสัญญาณของการติดการพนันในนักเรียนมีอะไรบ้าง?
อาการหรือสัญญาณของการติดการพนันในนักเรียนมีดังต่อไปนี้
-
- เล่นการพนันบ่อยเกินปกติ : นักเรียนเล่นการพนันบ่อยกว่าปกติ โดยใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ไปกับกิจกรรมการพนัน ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์หรือออฟไลน์ ซึ่งบ่งบอกว่าการพนันเริ่มกลายเป็นสิ่งที่หมกมุ่น
- พยายามเอาเงินที่เสียไปคืน : สัญญาณทั่วไปของการติดการพนันคือการที่นักเรียนยังคงเล่นต่อไปเพื่อพยายามเอาเงินที่เสียไปคืน ส่งผลให้เข้าสู่วงจรของการพนันอย่างต่อเนื่อง
- ผลการเรียนตกต่ำ : การติดการพนันทำให้นักเรียนละเลยการเรียน เช่น เกรดตก หรือขาดเรียนบ่อย ซึ่งสะท้อนว่าการพนันเริ่มรบกวนความรับผิดชอบทางวิชาการ
- ถอนตัวจากกิจกรรมทางสังคม : นักเรียนที่มีปัญหาการพนันมักจะเริ่มห่างเหินจากเพื่อนหรือกลุ่มสังคม เลือกที่จะเล่นการพนันแทนการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมหรือกิจกรรมนอกเวลาเรียน
- ปัญหาทางการเงิน : นักเรียนที่เริ่มติดการพนันมักจะขอเงินจากคนอื่น ยืมเงิน หรือประสบปัญหาในการจ่ายบิลต่างๆ เนื่องจากเสียเงินจากการพนัน พวกเขาอาจโกหกเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของตนเอง
- ความเครียดทางอารมณ์ : พฤติกรรมการพนันทำให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือหงุดหงิด โดยเฉพาะในช่วงที่ไม่สามารถเล่นการพนันได้ หรือเมื่อต้องเผชิญกับผลที่ตามมาจากการกระทำของตนเอง
- พฤติกรรมลับๆ ซ่อนๆ : นักเรียนเริ่มปกปิดการเล่นการพนันของตนเอง เช่น โกหกเรื่องที่ไปมา หรือแสดงท่าทีปกป้องตนเองเมื่อถูกถามเกี่ยวกับกิจกรรมของตน
- พฤติกรรมเสี่ยง : ในบางกรณี นักเรียนอาจเข้าสู่พฤติกรรมที่เสี่ยง เช่น การขโมย หรือการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ เพื่อหาเงินมาใช้กับการพนันหรือพฤติกรรมเสพติดของตน
วิธีป้องกันปัญหาการพนันในนักเรียนทำอย่างไร?
เพื่อป้องกันปัญหาการพนันในนักเรียน โปรดปฏิบัติตาม 5 ขั้นตอนต่อไปนี้
- การสื่อสารอย่างเปิดเผย : ผู้ปกครองควรพูดคุยกับบุตรหลานอย่างเปิดใจและตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความเสี่ยงของการพนัน พร้อมกำหนดความคาดหวังที่ชัดเจนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่รับผิดชอบ การสร้างสภาพแวดล้อมที่นักเรียนรู้สึกปลอดภัยในการพูดถึงปัญหาของตนเองถือเป็นสิ่งสำคัญ
- การเฝ้าสังเกตพฤติกรรม : ผู้ปกครองควรใส่ใจในกิจกรรมของบุตรหลาน โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ เพื่อให้สามารถตรวจพบพฤติกรรมที่อาจเกี่ยวข้องกับการพนันได้ตั้งแต่เนิ่นๆ การจำกัดเวลาในการใช้หน้าจอหรือการใช้งานอินเทอร์เน็ตจะช่วยลดโอกาสในการเข้าถึงเว็บไซต์การพนัน
- การให้คำแนะนำด้านการเงิน : การสอนให้เด็กเรียนรู้การจัดการเงินและผลเสียจากการใช้จ่ายโดยไม่มีการวางแผน ช่วยลดความเสี่ยงในการหันไปเล่นการพนัน ควรส่งเสริมให้พวกเขาใช้เงินอย่างมีสติและหลีกเลี่ยงการตัดสินใจทางการเงินที่เสี่ยง
- ส่งเสริมกิจกรรมที่ดีต่อสุขภาพ : สนับสนุนให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมนอกหลักสูตรหรือทำงานอดิเรกที่ส่งเสริมการพัฒนาตนเองและการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้นักเรียนใช้เวลาอย่างสร้างสรรค์และลดโอกาสในการหันไปเล่นการพนัน
- สังเกตสัญญาณเตือน : ผู้ปกครองควรใส่ใจต่อความเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรม เช่น การถอนตัวจากกิจกรรมในครอบครัว หรือมีสัญญาณของความเครียดทางอารมณ์ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของปัญหาการพนัน
โรงเรียนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันปัญหาการพนัน โดยการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการพนันอย่างชัดเจน จัดโครงการให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของการพนัน และให้การสนับสนุนแก่นักเรียนที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับการพนัน
สถาบันการศึกษาควรบรรจุเนื้อหาเกี่ยวกับการติดการพนันและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องไว้ในกิจกรรมปฐมนิเทศหรือสัมมนาด้านสุขภาพ การให้บริการให้คำปรึกษาและการจัดทำโครงการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ทั่วทั้งวิทยาเขต จะช่วยให้นักเรียนสามารถรับรู้สัญญาณของการเสพติดได้ตั้งแต่ระยะแรก โรงเรียนควรดำเนินนโยบายที่จำกัดหรือห้ามกิจกรรมการพนันในสถานศึกษา เช่น “คืนคาสิโน” หรือกลุ่มเดิมพันต่าง ๆ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและปราศจากแรงกดดันจากการพนัน นอกจากนี้ สถานศึกษาควรร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตในพื้นที่หรือศูนย์บำบัดการเสพติด เพื่อให้การดูแลเพิ่มเติมแก่ผู้เรียนที่ต้องการการรักษาหรือการฟื้นฟู
ติดตาม The Thaiger บน Google News: