สสจ.ระยอง แจงเหตุ หนุ่มถูกงูกัด ยันรพ.ไม่ได้ไล่กลับบ้าน ทรุดเพราะพิษออกฤทธิ์ช้า

สสจ.ระยอง แจงไทม์ไลน์แรกรับ หนุ่มถูกงูสมิงคลากัด ตรวจไม่เจอพิษจริง ยืนยันทำตามขั้นตอนการรักษา ก่อนพิษงูเข้าสู่ระบบประสาทช่วงเช้าอีกวัน
จากกรณีที่มีข่าวว่า หนุ่มถูกงูสมิงคลากัด ซึ่งมีพิษรุนแรงเทียบเท่างูเห่า เมื่อไปโรงพยาบาลในพื้นที่จ.ระยอง หมอกลับให้เพียงแค่ยาฆ่าเชื้อและยาแก้ปวด แล้วให้กลับบ้านได้ ค่อยมาใหม่ตอน 9 โมงเช้า สุดท้ายอาการทรุด หายใจไม่ออก ลืมตาไม่ขึ้น ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ นอนรักษาตัวในห้อง ICU ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้
ล่าสุด นพ.สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ระยอง ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีการรักษาเคสดังกล่าว โดยเผยว่า การนำเสนอข่าวก่อนหน้านี้มีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อการปฏิบัติงานของโรงพยาบาลอย่างมาก ก่อนจะแจงรายละเอียดและไทม์ไลน์การรักษา หนุ่มถูกงูกัด รายนี้ให้ทราบ ดังนี้

เวลา 02.20 น. ของวันที่ 7 พ.ค. 68 ผู้ป่วยเข้ารับบริการที่ห้องฉุกเฉิน รพ.วังจันทร์ ให้ประวัติว่าถูกงูกัดที่นิ้วก้อยมือขวา เวลาประมาณ 01:40 น.วันเดียวกัน
การตรวจประเมินแรกรับ แพทย์ตรวจพบบาดแผลเป็นรอยถลอกที่นิ้วก้อยขวา แต่ไม่มีอาการบวม และที่สำคัญคือ ยังไม่มีอาการแสดงของพิษงูทั้งทางระบบประสาทและระบบเลือด แพทย์จึงได้ดำเนินการตามแนวทางการรักษาผู้ป่วยถูกงูพิษกัดของกรมการแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยมีการตรวจวัดสมรรถภาพการหายใจ และตรวจเลือดเพื่อดูความผิดปกติที่อาจเกิดจากพิษงู ซึ่งผลการตรวจทั้งหมดในเบื้องต้นออกมา “ปกติ”
จากนั้นได้ให้ผู้ป่วยนอนสังเกตอาการต่อในห้องฉุกเฉินเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจนถึงเวลา 04:15 น. ก็ยังคง ไม่พบอาการผิดปกติใด ๆ เพิ่มเติม แพทย์จึงได้ให้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่แผล และยาแก้ปวด พร้อมทั้งอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้ แต่ได้นัดหมายให้ผู้ป่วยกลับมาพบแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินอีกครั้งในช่วงเช้า เพื่อติดตามอาการและตรวจเลือดซ้ำ เฝ้าระวังอาการผิดปกติจากพิษงูที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง
นพ.สุรวิทย์ กล่าวต่อว่า ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน (7 พ.ค.) แม่ของผู้ป่วยสังเกตเห็นความผิดปกติ คือ ผู้ป่วยมีหนังตาตก กลืนลำบาก และดูซึมลง จึงรีบพาผู้ป่วยกลับมาที่ รพ.วังจันทร์ อีกครั้ง ในเวลา 08:14 น.
แพทย์จึงได้ทำการตรวจประเมินอาการเป็นครั้งที่ 2 ผู้ป่วยยังรู้สึกตัว พูดคุยได้ แต่แจ้งว่าเริ่มมีอาการปากชา ลิ้นชา ตั้งแต่เวลาประมาณ 06:00 น. แพทย์ตรวจร่างกายพบสมรรถภาพการหายใจและค่าออกซิเจนในเลือดยังปกติ แต่ พบอาการหนังตาตกชัดเจน ซึ่งเป็นอาการบ่งชี้สำคัญของพิษงูทางระบบประสาท
แพทย์จึงวินิจฉัยว่าผู้ป่วยถูกงูที่มีพิษต่อระบบประสาทกัด และได้ ใส่ท่อช่วยหายใจทันที เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนเรื่องกล้ามเนื้อหายใจอ่อนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ จากนั้นได้ประสานงานส่งตัวผู้ป่วยไปยัง รพ.ระยอง ซึ่งมีศักยภาพในการรักษาสูงกว่า เพื่อให้เซรุ่มต้านพิษงูเฉพาะทาง และเข้ารับการดูแลในหอผู้ป่วยหนัก (ICU)
“โดย รพ.ระยองได้ให้เซรุ่มต้านพิษทางระบบประสาท 1 โดส เมื่อเวลา 24.00 น. คืนที่ผ่านมา (7 พ.ค.) อาการล่าสุดเช้าวันนี้ (8 พฤษภาคม 2568) ผู้ป่วยสัญญาณชีพปกติ ยังคงใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ในห้องไอซียูเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ รพ.วังจันทร์ จะได้มีการสื่อสารกับญาติและนายจ้างของผู้ป่วยเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องต่อไป” นพ.สุรวิทย์ กล่าวปิดท้าย
การชี้แจงครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อแก้ไขความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และยืนยันว่าโรงพยาบาลวังจันทร์ได้ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยตามมาตรฐานทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยถูกงูพิษกัดทุกขั้นตอน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หนุ่มถูกงูกัด หมอบอกไม่ใช่เคสสำคัญ อาการทรุดหนัก ลืมตาไม่ขึ้น
- เพจดังชี้ เคส ‘หนุ่มถูกงูกัด’ แปลกมาก หมอสั่งกลับบ้าน ทั้งที่ต้องแอดมิตดูอาการก่อน
อ้างอิงจาก : khaosod, FB Paweena Tubtimhom
ติดตาม The Thaiger บน Google News: