เจอแล้ว! เด็กหญิง 16 หายตัวนานหลายเดือน ถูกซ่อนในตู้เสื้อผ้าบ้านนักข่มขืน รอดได้เพราะแอบส่ง IG

สุดช็อก! พบเด็กสาววัย 16 หายตัวนานหลายเดือน ถูกซ่อนในตู้เสื้อผ้าบ้านอาชญากรทางเพศ ถูกใช้แรงงานทาส รอดได้เพราะแอบส่ง IG
ฟอร์ตคอลลินส์, โคโลราโด – เด็กสาววัยรุ่นชาวอเมริกันวัย 16 ปี ที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจากบ้านเกิดในรัฐมิสซูรีนานหลายเดือน ถูกพบตัวแล้วในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่ มีอาการหวาดผวา ขณะซ่อนตัวอยู่หลังประตูตู้เสื้อผ้าที่รกทึบภายในบ้านของอาชญากรทางเพศรายหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไปเกือบ 1,126 กิโลเมตร ในรัฐโคโลราโด
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า เด็กสาวตกเป็นเหยื่อของนาย แม็กซิมิเลียน บอนเดรสกู วัย 44 ปี ซึ่งเป็นอาชญากรทางเพศที่ขึ้นทะเบียน มีน้ำหนักตัวถึง 145 กิโลกรัม เคยมีความผิดฐานติดต่อกับผู้เยาว์เพื่อวัตถุประสงค์ทางศีลธรรมอันมิชอบมาก่อน
บอนเดรสกูถูกกล่าวหาว่าลักพาตัวเด็กสาว กักขังเธอตัดขาดจากโลกภายนอก และบังคับให้ใช้ชีวิตเหมือนนักโทษ
ฝันร้ายของเด็กสาวสิ้นสุดลง เมื่อเธอสามารถแอบส่งข้อความขอความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวังผ่านแอปพลิเคชันอินสตาแกรม ไปหาเพื่อนคนหนึ่ง นำไปสู่การแกะรอยของเจ้าหน้าที่สืบสวนจนพบตำแหน่งบ้านในรัฐโคโลราโดที่เด็กสาวถูกคุมขังอยู่
ก่อนหน้านี้ เด็กสาวหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โทรศัพท์มือถือเงียบหาย โซเชียลมีเดียไม่มีความเคลื่อนไหว ท่ามกลางความกังวลของครอบครัวที่ไม่ทราบชะตากรรม
พ่อของเธอแจ้งความคนหายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024 หลังจากได้รับโทรศัพท์จากโรงเรียนว่าเธอไม่ได้เข้าเรียน เพื่อนๆ ให้การกับตำรวจว่าเธอเคยพูดถึงการหนีไปโคโลราโด แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายสัปดาห์จนเป็นหลายเดือนโดยไม่มีข่าวคราว ความหวังก็เริ่มเลือนลาง
กระทั่งวันที่ 15 เมษายน ความหวังก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง บัญชีอินสตาแกรมของเธอซึ่งเงียบไปนานตั้งแต่หายตัว กลับมามีความเคลื่อนไหวเมื่อเธอส่งข้อความสำคัญที่ช่วยชีวิตเธอออกมา สัญญาณดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสามารถติดตามที่อยู่ IP (IP Address) ที่ใช้เข้าถึงบัญชีได้
ร่องรอยทางดิจิทัลชี้ไปยังบ้านพักแห่งหนึ่งในเมืองฟอร์ตคอลลินส์ รัฐโคโลราโด และระบุตัวตนไปยังนายบอนเดรสกูโดยตรง ด้วยสถานะอาชญากรทางเพศ ตำรวจจึงไม่รอช้า
เจ้าหน้าที่ได้รับหมายค้น จึงไปยังบ้านของบอนเดรสกูในวันที่ 18 เมษายน แต่เมื่อไปถึง บอนเดรสกูปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเด็กสาวที่หายไป แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อคำให้การและเข้าตรวจค้นบ้าน จนกระทั่งพบเด็กสาววัยรุ่นยังมีชีวิตอยู่ ซ่อนตัวด้วยความหวาดกลัวอยู่ในตู้เสื้อผ้า
คำให้การของเด็กสาวเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นน่าสะเทือนใจ
จากเอกสารคำให้การจับกุมระบุว่า เธอเริ่มติดต่อกับบอนเดรสกูเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ผ่านแอปพลิเคชันชื่อ ‘Boo’ ก่อนจะย้ายไปคุยกันต่อทาง Snapchat ทั้งคู่วางแผนการหลบหนี บอนเดรสกูเช่ารถ ขับรถข้ามคืน ไปรับเธอที่รัฐมิสซูรีกลางดึก เธอบอกกับตำรวจว่าพวกเขาหลีกเลี่ยงการใช้ถนนที่เก็บค่าผ่านทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบสวนเชื่อว่าเป็นความพยายามโดยเจตนาที่จะไม่ทิ้งร่องรอย
เมื่อมาถึงโคโลราโด มีรายงานว่าบอนเดรสกูใช้ผ้าห่มห่อตัวเด็กสาวแล้วอุ้มเธอเข้าไปในบ้าน เพื่อไม่ให้ใครสังเกตเห็น เด็กสาวให้การว่าบอนเดรสกูสั่งให้เธอย้อมผม สวมหน้ากากกับแว่นกันแดดในโอกาสไม่กี่ครั้งที่เธออาจได้ออกจากบ้าน ที่จริงแล้ว เธอได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอก “เพียงไม่กี่ครั้ง” ตลอดหลายเดือนที่ถูกกักขัง
นอกจากนี้ ยังมีข้อกล่าวหาว่าบอนเดรสกูบังคับให้เด็กสาวทำงานให้กับธุรกิจรับจ้างกำจัดหิมะของเขา ชื่อ FoCo Sno GO โดยให้เธอสวมหน้ากากขณะตักหิมะ เพื่อปกปิดตัวตนและอายุ เธอบอกเจ้าหน้าที่ว่าชายคนนี้ยึดใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราว บัตรนักเรียน และโทรศัพท์ที่เธอพกติดตัวมา ก่อนจะทุบทิ้งเพื่อไม่ให้เธอติดต่อขอความช่วยเหลือจากใครได้
แต่บอนเดรสกูก็ทำพลาดครั้งสำคัญ เขาให้โทรศัพท์เครื่องเก่าเครื่องหนึ่งแก่เด็กสาว โดยดูเหมือนจะไม่ทราบว่าเครื่องนั้นยังคงติดตั้งแอปอินสตาแกรมอยู่ ตำรวจกล่าวว่า อุปกรณ์เครื่องนั้นเองที่ทำให้เธอสามารถส่งข้อความซึ่งนำไปสู่การช่วยเหลือในที่สุด
คำให้การของเด็กสาวเผยให้เห็นถึงกับดักทางจิตใจที่เธอต้องเผชิญ เธอบอกตำรวจว่าภายในเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์ เธอได้ร้องขอบอนเดรสกูให้ปล่อยเธอกลับบ้าน แต่เขาบอกว่าเธอไปไม่ได้เพราะเขาไม่มีเงิน เมื่อตำรวจถามว่าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเธอหนีไป เด็กสาวเพียงตอบว่าเธอไม่รู้จักใครในโคโลราโดและไม่มีทางออก
เอกสารคำให้การยังให้รายละเอียดว่าบอนเดรสกูควบคุมให้เธออยู่อย่างโดดเดี่ยว เฝ้าติดตาม และต้องพึ่งพาเขา เขาทุบโทรศัพท์ที่เธอมีเมื่อมาถึง เก็บบัตรประจำตัวของเธอไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะเหมือนไร้ตัวตน ไร้อำนาจต่อรอง
ความหวังเดียวที่เธอมีคือแอปอินสตาแกรมที่ถูกลืมบนโทรศัพท์เครื่องเก่า และความกล้าที่จะส่งข้อความออกไปโดยไม่รู้ว่าจะมีใครเห็นหรือไม่
ตามข้อมูลทะเบียนอาชญากรทางเพศของรัฐโคโลราโด ประวัติอาชญากรรมของบอนเดรสกูไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยเปิดเผย การถูกตัดสินว่ามีความผิดในปี 2019 ฐานติดต่อกับผู้เยาว์เพื่อวัตถุประสงค์ทางศีลธรรมอันมิชอบ ควรจะทำให้เขาอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด แต่ประวัติเหล่านั้นก็ไม่ได้ป้องกันไม่ให้เขาล่อลวงและลักพาตัวเด็กอีกคน
ขณะนี้ นอกจากข้อหาลักพาตัวและล่วงละเมิดทางเพศแล้ว บอนเดรสกูยังถูกกล่าวหาว่าไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการลงทะเบียนเป็นอาชญากรทางเพศอย่างถูกต้อง เขายังถูกตั้งข้อหาทารุณกรรมเด็ก ให้ที่พักพิงแก่ผู้เยาว์ ขัดขวางเจ้าพนักงาน ทำร้ายร่างกายระดับสอง และกักขังหน่วงเหนี่ยว
ปัจจุบัน บอนเดรสกูยังคงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำลาริเมอร์เคาน์ตี้ ด้วยวงเงินประกันตัวเป็นเงินสด 18 ล้านบาท
ขณะนี้ ตำรวจกำลังร้องขอข้อมูลเพิ่มเติมจากสาธารณชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาจเคยว่าจ้างบริษัท FoCo Sno GO ของบอนเดรสกูให้มาช่วยงาน เจ้าหน้าที่สืบสวนเชื่อว่าเด็กสาวอาจถูกบังคับให้ทำงานในที่สาธารณะโดยสวมหน้ากากเพื่อปิดบังตัวเอง ขณะที่ชายผู้กักขังเธอได้รับประโยชน์จากแรงงานของเธอ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ศาลไต้หวัน สั่งจำคุกครูสาว 17 ปีครึ่ง ข่มขืนนักเรียน จนตัวเองท้อง
- เผยชีวิตสีเทา ‘ทราย สก๊อต’ พี่เลี้ยงข่มขืน-ล่วงละเมิด แม่คือฝันร้ายวัยเด็ก
- อดีตทหาร มอบตัว ข่มขืนหญิงออทิสติกในห้องน้ำ อ้างไม่รู้ว่าน้องป่วย
ติดตาม The Thaiger บน Google News: