ดีอี เตือนความจำ ลูกค้าธนาคารที่ชื่อบัญชีไม่ตรงกับเบอร์โทร รีบลงทะเบียนก่อนวันที่ 30 เม.ย. ก่อนถูกระงับบัญชี -เลขหมายมิ.ย. 68
วันนี้ (27 เม.ย.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี-รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เผยว่า ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ดำเนินมาตรการ “การยกระดับความปลอดภัยในการใช้ Mobile Banking” ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 โดยจะมีการแจ้งเตือน กลุ่มที่ต้องยืนยันตัวตน ผ่านแอปพลิเคชัน Mobile Banking เท่านั้น ภายในวันที่ 30 เมษายน 2568
ขณะที่ความคืบหน้าของการดำเนินมาตรการระงับบัญชี Mobile Banking ระยะที่ 1 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้มีมติให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เป็นผู้ดำเนินการ โดยมีขั้นตอน ดังนี้
1. ให้ ปปง. แจ้งธนาคารพิจารณานำข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้บริการ ส่งไปยังผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ (โอเปอร์เรเตอร์) และส่งผลกลับให้ธนาคาร เพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลถูกต้องตรงกันกับข้อมูลที่ลูกค้าแจ้งไว้ตอนลงทะเบียนใช้บริการ Mobile Banking หรือไม่
2. ปปง. พิจารณาผลการดำเนินการตรวจสอบข้างต้นแล้ว และแบ่งผู้ใช้บริการเป็น 3 ประเภท ดังนี้
- พบข้อมูลตรงกัน หรือ Y
- ไม่พบข้อมูลการลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์ หรือ P
- ข้อมูลไม่ตรงกับผู้ใช้ Mobile Banking หรือ N
3. ปปง. แจ้งธนาคาร ให้แจ้งผู้ใช้บริการที่มีข้อมูลเป็น P และ N ปรับปรุงข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ โดยในขั้นตอนนี้ ผู้ใช้บริการ กลุ่ม P และ N ต้องดำเนินการปรับปรุงข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เมษายน 2568
“ทั้งนี้ ลูกค้าที่มีชื่อผู้ใช้งาน Mobile Banking ไม่ตรงกับชื่อเจ้าของซิม หากยังไม่ได้รับแจ้งจากธนาคาร ผ่าน Mobile Banking ยังไม่ต้องดำเนินการใด ๆ สามารถใช้งานได้ตามปกติ” รองนายกฯ นายประเสริฐ กล่าว
ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าที่ต้องดำเนินการภายในวันที่ 30 เม.ย. คือกลุ่มที่เปิดใช้บริการ Mobile Banking ตั้งแต่ปี 2565 และเข้าเงื่อนไขใน 2 กลุ่มนี้ ได้แก่
1. กลุ่มผู้ใช้งาน Mobile Banking ที่ตรวจหมายเลขโทรศัพท์มือถือไม่พบชื่อเจ้าของซิม
2. กลุ่มชาวต่างชาติที่หมายเลขโทรศัพท์มือถือมีชื่อเจ้าของซิมไม่ตรงกับชื่อผู้ใช้งาน Mobile Banking
แนวทางการดำเนินการระยะที่ 2 เมื่อครบกำหนดภายหลังวันที่ 30 เม.ย.
- ธนาคารจะส่งข้อมูลผู้ใช้ Mobile Banking ที่เป็นปัจจุบันถึงวันที่ 30 เมษายน 2568 ไปให้ โอเปอร์เรเตอร์
- โอเปอร์เรเตอร์ จะนำข้อมูลดังกล่าวที่ภาคธนาคารส่งผ่านระบบของ ปปง. ไปตรวจสอบกับข้อมูลลูกค้าของตนเองว่าเป็น กลุ่ม Y, N หรือ P แล้วส่งกลับให้ธนาคาร
จากนั้นในเดือนพฤษภาคม ธนาคารจะดำเนินการส่งข้อมูล ชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ของผู้เปิดใช้ Mobile Banking ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ของกลุ่มลูกค้าทุกสัญชาติ สถานะ P จำนวนประมาณ 1.8 ล้านเลขหมาย และกลุ่มลูกค้าต่างชาติ สถานะ N จำนวนประมาณ 7 แสนเลขหมาย รวมทั้งหมดจำนวนประมาณ 2.5 ล้านเลขหมาย ให้ Operator เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง
ขณะที่ ปปง. จะมีหนังสือผ่านสมาคมธนาคารไทย แจ้งให้ภาคธนาคารส่งข้อมูลผ่านระบบของ ปปง. ภายในวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 เมื่อได้รับข้อมูลกลับมาแล้ว ปปง. จะรวบรวมข้อมูลและมีหนังสือผ่าน กสทช. แจ้งให้ โอเปอร์เรเตอร์ นำข้อมูลไปตรวจสอบให้แล้วเสร็จ และส่งผลการตรวจสอบกลับมาให้ธนาคารผ่านระบบไม่เกินวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 และให้ธนาคารเริ่มดำเนินการตรวจสอบผล และเริ่มระงับการใช้บริการ Mobile Banking ในเดือนมิถุนายน 2568
ทั้งนี้กรณีที่ผู้ใช้ Mobile Banking ซึ่งมาขอปรับสถานะให้ธนาคารเป็นผู้พิจารณาดำเนินการปรับสถานะจาก N เป็น Y และกรณีผู้ใช้ Mobile Banking สถานะ P ซึ่งได้เปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์แล้ว และได้แจ้งหมายเลขใหม่ต่อธนาคารแล้ว ให้ธนาคารบันทึกไว้ โดยไม่ต้องส่งมาตรวจใหม่ เมื่อตรวจสอบแล้ว หากสถานะ N เปลี่ยนเป็น Y หรือสถานะ P ซึ่งผู้ใช้ Mobile Banking ได้ไปเปลี่ยนหมายเลขใหม่แล้วพบข้อมูลตรงกัน ถือว่าจบกระบวนการ
ส่วนกลุ่มผู้ใช้ Mobile Banking สถานะ P ที่ไม่ยอมเปลี่ยนหมายเลข หรือกลุ่มลูกค้าต่างชาติสถานะ N ที่ไม่ยอมมายืนยันตัวตน ผู้ใช้บริการทั้ง 2 กลุ่มนี้ จะถูกระงับการใช้บริการ Mobile Banking พร้อมทั้งให้ธนาคารแจ้งลูกค้าทราบ จนกว่าลูกค้าจะมาปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน จึงสามารถใช้บริการดังกล่าวได้
“การดำเนินมาตรการยกระดับความปลอดภัย Mobile Banking เพื่อเป็นการสกัดกั้นช่องทางการก่ออาชญากรรมของมิจฉาชีพ ให้ชื่อผู้ใช้งานตรงกับชื่อเจ้าของซิมมือถือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับการทำงานร่วมกันของกระทรวงดีอี กสทช. ปปง. ภาคธนาคารและผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ในการป้องกันการหลอกลวงทางออนไลน์ต่อประชาชน
โดยขอย้ำอีกครั้งถึงผู้ใช้บริการ Mobile Banking ที่ได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอปฯ ธนาคาร เร่งดำเนินการยืนยันสถานะของตนเองให้ถูกต้อง ภายในวันที่ 30 เมษายน 2568 นี้” นายประเสริฐ กล่าวปิดท้าย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- วันสุดท้าย ผู้สูงอายุผูกพร้อมเพย์ รับเงินดิจิทัล 28 เม.ย. 68 ทำตามนี้ได้เงินชัวร์
- รอวันแจก เงินดิจิทัลเฟส 4 อายุ 21 – 59 ปี ใครได้บ้าง แนะวิธีเช็กสิทธิ
- เงินดิจิทัลเฟส 4 อายุ 21-59 ได้เงินวันไหน เช็กคุณสมบัติ วิธีตรวจสอบสถานะ
ข่าวล่าสุด
