ข่าวการเมือง

สภาประมุขบาทหลวงคาทอลิก ค้านสุดตัว พ.ร.บ.กาสิโน หวั่นมอมเมา ปชช.

อาร์ชบิชอป วีระ ประธานสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกฯ ยื่นค้านร่าง พ.ร.บ. กาสิโน กลัวประชาชนติดการพนัน เกิดปัญหาเชิงสังคมซ้ำซ้อน

วันนี้ (9 เม.ย.) อาร์ชบิชอป วีระ อาภรณ์รัตน์ ประธานสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย และคณะ ยื่นหนังสือต่อนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง การคัดค้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ….. หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

ประธานสภาประมุขฯ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวน และยุติระงับร่างกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากการอนุญาตให้มีการพนัน-กาสิโนจะนำพาชีวิตผู้คนไปสู่ปัญหาเชิงสังคมอีกมากมาย เช่น ติดพนันจนเกิดปัญหาทางการเงินและหนี้สิน อาชญากรรม ฟอกเงิน และค้ามนุษย์

รวมถึงขอให้รัฐบาลตระหนักเสมอว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจและพฤติกรรมด้านเกษตรกรรมมีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด การพัฒนาเศรษฐกิจต้องเป็นการพัฒนาที่ถูกต้องตามศีลธรรมเพื่อมุ่งสู่การพัฒนามนุษย์โดยรวม

ภาพจาก สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

อาร์ชบิชอป วีระ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้พวกตนไม่ได้ต่อต้านการมีธุรกิจประกอบสถานบันเทิงที่เหมาะสมกับครอบครัวที่เป็นการแสวงหาความบันเทิงโดยไม่ต้องทำบาป มีจิตใจบริสุทธิ์ มิเช่นนั้นเราจะเข้าใจผิดว่าการที่มีความสุขหรือสนุกได้จะต้องเกี่ยวข้องกับบาป ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน และเรามั่นใจว่าทาง สว.และสส.จะเป็นกำลังหลักที่สำคัญในการช่วยให้ประเทศไทยพัฒนาอย่างยั่งยืนในทางที่ถูกต้องชอบธรรม

ขณะที่นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่าเราไม่อยากให้มีการเล่นในการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ เพราะต้องรับฟังทุกองคาพยพในประเทศไทย ทุกศาสนา และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายฉบับนี้ การรับฟังอย่างรอบด้านนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายข้าราชการประจำที่ทำเรื่องนี้อยู่ก็มีความกังวลว่ากฎหมายฟาสแทร็คเช่นนี้ จะต้องมีการทบทวนใหม่หรือไม่ เพราะหลายฝ่ายมีความเป็นห่วง แต่ไม่สามารถต้านทานนโยบายได้ ทั้งนี้ หากกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาในสภา เราจะนำข้อมูลนี้เป็นส่วนหนึ่งในการพูดแทนประชาชน

ภาพจาก สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านร่าง พ.ร.บ. กาสิโน ข้างต้นเหมือนกัน โดยให้เหตุผลว่า

“พระพุทธศาสนาซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 1 แห่งรัตนโกสินทร์ทรงสังคายนาพระไตรปีอก ครั้งที่ ไว้เป็นหลักฐานจนทุกวันนี้ มีพระพุทธธรรมเป็นคำสอนเป็น ที่ประจักษ์ต่อวงวิชาการและวิทยาศาสตร์ ว่าเป็นกระบวนการค้ายันให้สังคมมนุษย์ชาติ ไม่จำกัดเพศ ผิวพรรณ เชื้อชาติ ให้มีความเจริญพัฒนารุ่งเรือง อย่างสถาพรมั่นคง เป็นอารยธรรมของมนุษย์ มีความศิวิไลซ์และอนาคตตราบนานเท่านาน

ความเจริญรุ่งเรือง ความมั่นคงของชาติ มีได้อาศัยเพียงการกระตุ้นเศรษกิจด้วย การชี้นำประชาชนให้หลงไหลในกิเลสหรือเครื่องเศร้าหมอง คือ อบายมุข แต่ให้ทุกคนมีศีลธรรมจากคำสอนในพระพุทธธรรม มากำกับตนเองให้มีคุณธรรม จากนั้นจึงแสดงออกมาให้คนอื่นหรือชาติอื่น 1 รู้ว่าเราเป็นมนุษย์ เป็นชาติแห่งอารยธรรม คือ มีจริยธรรมนั้นเอง

ภาพจาก พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

นายกรัฐมนตรี เป็นสุภาพสตรี มีบุตรและธิดาในวัยเด็กที่น่ารักเหมือนน้ำใสสะอาดกำลังเจริญเติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติ จะเป็นคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล จะเป็นเยาวชนผู้กุมอนาคตของชาติ จักได้เข้าใจว่า ชาติจะเจริญขึ้นนั้นกับการทำตามคำสอนของพระพุทธธรรม เช่น วุฒิธรรม โดยเฉพาะข้อ 4 คือ ธรรมานุธรรม-ปฏิบัติ (ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม) คือธรรมะที่ค้ำยันให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง โดยปัจเจกบุคคล ใช้ธรรมะนำทางชีวิต มีไข่การมี อาชีพด้วยกิจกรรมที่ตรงข้ามกับศีล 5 โดยเฉพาะในศีลข้อ 2 และข้อ 5 อันจะนำความเสื่อมมาสู่ปวงชนชาวไทยและชาติไทยในที่สุด

การที่รัฐบาลจะดำเนินการให้มี Entertainment Complex (EC) โดยอ้างว่ามีใน ต่างประเทศและมีประโยชน์นั้นเป็นการรับรู้ข้อมูลด้านแคบและขาดวิสัยทัศน์ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ไม่ต้องพึ่งเศรษฐกิจจาก EC เลย แต่ประเทศไทยมีแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ หรือ สุวรรณภูมิมีทรัพยากรธรรมชาติ ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เป็นเอกลักษณ์ของโลก

การชี้นำเศรษฐกิจนี้จะเป็นการให้วิสัยทัศน์ที่เบี่ยงเบนต่อลูกหลานของท่านนายกรัฐมนตรีให้เข้าใจผิดว่า ปัจจัย 4ไม่สำคัญ และเห็นว่ากิจการ EC ซึ่งขัดต่อศีล-ธรรม และมีผลเสียต่อคุณธรรมนั้น เป็นเรื่องดีแต่ในหลักพระพุทธธรรม EC คือหนทางแห่งความเสื่อม คือ อบายมุข ไม่ควรจะเกิดในแผ่นดินไทยที่มีพระพุทธธรรม ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่าเป็นศาสนาที่สอนความจริง ความมีเหตุมีผลตามอริยสัจ 4 ประการ และนำสังคมสู่ความเจริญ

การพัฒนาชาติให้เจริญ ควรใช้ยุทธศาสตร์ของมรรคมีองค์ 8 ในกรอบปัญญา ศีล และสมาธิ ด้วยการประยุกต์หลักการสัมมาปฏิบัติ ทั้ง ข้อ มาแก้ปัญหาของชาติด้วยวิถีแห่งพระพุทธธรรม

พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และเครือสมาคมทั่วราชอาณาจักร ได้ร่วมกันมีปฏิญญากรุงเทพมหานคร 2566 ไว้แล้ว 5 ประการ (ฉบับย่อ) และ ได้นำเสนอกราบเรียนท่านนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 คนไทยควรยึดหลักว่า

1. เดินตามรอย รัชกาลที่ 9

2. ปลุกเร้าการไม่โกง

3. จรรโลงพระพุทธศาสนา

4. ศรัทธาทำตามพระพุทธธรรม

5. น้อมนำศีล สู่สังคม

ในนามพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และเครือสมาคมพระพุทธศาสนาทั่วราชอาณาจักร จึงขอคัดค้านการนำเสนอร่างพระราชบัญญัติเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพลอกซ์ พ.ศ. …..(ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ่วง “กาสิโน”) ฉบับนี้

ลงนามแถลงการณ์โดย นางศุลีมาศ สิทธิสัมพัน นายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์”

แฟ้มภาพ
แฟ้มภาพ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

yo

นักเขียนข่าว บทความทั่วไปประเภทไลฟ์สไตล์ สำเร็จการศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาปรัชญา มศก. ติดต่อได้ที่อีเมล yo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button