
ย้อนเส้นทางรัก คะน้า ริญญารัตน์-แฟน มิจฉาชีพ วิวาห์ล่ม โป๊ะแตก โลก 2 ใบ จนความจริงเปิดเผย ไฮโซกำมะลอ ทองปลอม
วงการบันเทิงนาทีนี้ไม่มีเรื่องที่คนอยากรู้มากไปกว่า ย้อนเส้นทางความรักระหว่าง นางเอกสาวช่อง 7 คะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ กับแฟน หลังจากเพิ่งถูกขอแต่งงานได้เพียง 3 วัน เมื่อปลายมีนาคม แล้วต้องมาแจ้งข่าวร้ายผ่านอินสตาแกรมว่า โสดแล้ว เพราะฝ่ายชายมีโลก 2 ใบ

ย้อนกลับไปในช่วงปลายปี 2567 หัวใจของคะน้ายังคงบอบช้ำจากการเลิกรากับคนรักเก่า ความเหงาผลักดันให้เปิดใจให้กับโอกาสใหม่ๆ ในโลกออนไลน์ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้พบกับชายหนุ่มคนหนึ่งผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ การพูดคุยถูกคอพัฒนาไปสู่การนัดเจอ จนในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มแน่นแฟ้นขึ้น
ตลอดระยะเวลาที่คบหากัน คะน้ายอมรับว่าฝ่ายชายดูแลเธอและครอบครัวเป็นอย่างดี ไปรับไปส่ง เอาใจใส่ทุกรายละเอียด แม้กระทั่งคุณแม่ของคะน้าก็เอ็นดูและไว้ใจให้เขาเข้าออกบ้านได้อย่างสนิทสนม ความดี ความสม่ำเสมอของแฟน ทำให้คะน้าไม่เคยระแคะระคายสงสัยในตัวชายคนรัก แม้แต่เพื่อนสนิทยังออกปากชมว่าเขาดูรักเธอมาก
กระทั่งความสัมพันธ์ดำเนินไปได้เพียงไม่กี่เดือน ฝ่ายชายก็เอ่ยปากขอแต่งงาน แม้ในใจคะน้าจะรู้สึกว่ารวดเร็วเกินไป แต่ด้วยวัย 32 ปีที่มองหาการสร้างครอบครัว จึงตอบตกลงและโพสต์ภาพสวมแหวนประกาศข่าวดีให้ทุกคนได้ทราบ
อย่างไรก็ตาม การขอแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้มีการเซอร์ไพรส์หวือหวา เป็นเพียงการยื่นแหวนให้เท่านั้น แต่หลังจากนั้น ฝ่ายชายกลับกระตือรือร้นพูดคุยถึงเรื่องสถานที่จัดงาน ทำให้คะน้าเชื่อมั่นในความรักครั้งนี้อย่างสนิทใจ
ทว่าความสุขนั้นอยู่ได้เพียงไม่นาน หลังจากการโพสต์ภาพถูกขอแต่งงาน กลับมี “ผู้หวังดี” ส่งข้อความมาเตือนให้คะน้าตรวจสอบข้อมูลของแฟนหนุ่มผ่านเบอร์โทรศัพท์เบอร์หนึ่ง ก่อนหน้านี้เคยมีผู้หญิงทักมาหาเธอแล้ว แต่ฝ่ายชายอ้างว่าเป็นคนเก่าที่เข้ามาวุ่นวาย ครั้งนี้ด้วยความสงสัย คะน้าจึงตัดสินใจโทรไปยังเบอร์ที่ได้รับ
ปลายสายก็เป็นเสียงผู้หญิง ซึ่งในช่วงแรกทั้งคู่พูดคุยกันด้วยดี แต่แล้วคู่กรณีก็โทรกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ พร้อมยืนยันสถานะที่ทำให้คะน้าถึงกับใจวูบ “ฉันเป็นเมียเขานะ คบกันมา 3-4 ปีแล้ว” เสียงทะเลาะกันที่ดังลอดมา ทำให้คะน้าจำได้แม่นว่าเป็นเสียงของชายคนรัก
วินาทีที่ความจริงปรากฏ คะน้ารู้ทันทีว่าเธอตกอยู่ในสถานการณ์ “โลก 2 ใบ” โดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกสับสน เสียใจ ผิดหวังถาโถมเข้ามา คะน้าตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ในทันที ไม่อยากเป็น “บ้านน้อย” ของใคร และเชื่อว่าตัวเองไม่สมควรต้องเจอเรื่องราวเช่นนี้ แม้ฝ่ายชายจะพยายามติดต่อเพื่อขอพูดคุย แต่คะน้าก็เลือกที่จะไม่รับสาย เพราะไม่อยากสานต่อความเจ็บปวด
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2568 “กัน จอมพลัง” หรือ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ ได้ออกมาเปิดเผยผ่านการไลฟ์สดว่า คะน้า ริญญารัตน์ ได้เข้ามาร้องเรียนขอความช่วยเหลือ เล่าถึงพฤติกรรมของชายคนดังกล่าวที่ไม่เพียงแต่มีโลกอีกใบ แต่ยังอ้างตนเองมีตำแหน่งสำคัญ ใกล้ชิดผู้มีอำนาจ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
กัน จอมพลัง เล่าว่า ในช่วงที่คบหากัน ฝ่ายชายแสดงพฤติกรรมที่น่าสงสัย เช่น การใช้รถนำขบวนถึง 5 คัน พร้อมบุคคลแต่งกายคล้ายข้าราชการร่วมขบวน อ้างว่าคะน้ามี “เส้นเงินสีเทา” จากธุรกิจเก่า และขอข้อมูลบัญชีเพื่อจัดการ ฝ่ายชายัยงอ้างว่าได้รับการสนับสนุนจากผู้บัญชาการไซเบอร์ นายกรัฐมนตรี และข้าราชการชั้นสูง นอกจากนี้ ยังมีการขอเงิน 98,000 บาท อ้างว่าจะนำไปซื้อไวน์ขอบคุณนายกรัฐมนตรี และส่งเอกสาร “กำหนดการแต่งงานพระราชทาน” มาให้ ทำให้คะน้าต้องจำใจคุยเรื่องแต่งงานด้วย
“ชายคนนี้อ้างว่ามีคนไปตรวจสอบน้องคะน้ากับแฟนเก่า อ้างมีเส้นเงินผิดปกติ พอช่วยเสร็จก็อ้างว่า ต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าไวน์ให้ผู้ใหญ่ 9.8 หมื่นบาท โดยตอนนั้นไม่คิดว่าจะโกหก ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างคบกัน 1 เดือนกว่า ฝ่ายชายก็มาขอแต่งงาน น้องคะน้าก็คิดว่าเร็วไป แต่น้องไม่ขัด เพราะฝ่ายชายอ้างได้สมรสพระราชทานมาด้วย ทำให้น้องคะน้าไม่กล้าขัด เหมือนมัดมือชก”กัน จอมพลัง กล่าว
ที่น่าตกใจคือ ฝ่ายชายได้นำทองคำหนัก 50 บาท แหวนเพชรมาสู่ขอ แต่เมื่อคะน้าทำทองตกพื้น กลับพบรอยดำจนสงสัยว่าเป็นของปลอม ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูล โลก 2 ใบที่มีผู้หวังดีแจ้งเข้ามา ทำให้คะน้าตัดสินใจเลิกราและเริ่มตรวจสอบ จนพบว่าชายคนดังกล่าวมีประวัติแอบอ้างและหลอกลวงผู้อื่นในลักษณะเดียวกันหลายครั้ง
ล่าสุด กัน จอมพลัง ยืนยันว่าจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อพิสูจน์ความจริงว่าชายคนนี้เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือหน่วยงานที่กล่าวอ้างหรือไม่ และบุคคลที่แต่งกายคล้ายข้าราชการในขบวนนั้นเป็นใครกันแน่ ดราม่ารักครั้งนี้จึงไม่ได้จบลงง่ายๆ และกลายเป็นอีกหนึ่งบทเรียนราคาแพงในชีวิตของนักแสดงสาว คะน้า ริญญารัตน์
จากนี้ไป คะน้า ริญญารัตน์ จึงให้คำมั่นว่าจะใช้เวลามากขึ้นในการพิจารณาผู้ที่จะเข้ามาในชีวิต เพื่อไม่ให้ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจาก “โลก 2 ใบ” และการถูกหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ อีกครั้ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง