นากยกรัฐมนตรีแห่งสิงคโปร์ ลอเรนซ์ หว่อง แถลงด่วน! ชี้ ยุคค้าเสรีจบแล้ว เตือน ประชาชนชาวสิงคโปร์ เตรียมรับแรงกระแทกนโยบายศก.สหรัฐอเมริกา
นายกรัฐมนตรี ลอเรนซ์ หว่อง แห่งสิงคโปร์ แถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศเมื่อวันเสาร์ที่ 5 เม.ย. 68 ส่งสารเตือนอย่างจริงจังถึงประชาชนชาวสิงคโปร์ ให้เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของระเบียบโลก ซึ่งกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่อันตราย, กีดกันทางการค้า และเอาแน่เอานอนไม่ได้มากขึ้น อันเป็นผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายภาษีของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
“ยุคแห่งโลกาภิวัตน์และการค้าเสรีภายใต้กฎเกณฑ์นั้นสิ้นสุดลงแล้ว” นายกฯ หว่อง กล่าว พร้อมชี้ว่า ท่าทีล่าสุดของสหรัฐฯ ที่หันมาให้ความสำคัญกับการใช้อัตราภาษีศุลกากรตอบโต้เป็นรายประเทศ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สั่นสะเทือนระเบียบโลก และเป็นการปฏิเสธกรอบการทำงานขององค์การการค้าโลก (WTO) อย่างสิ้นเชิง ซึ่งสหรัฐฯ เองเคยเป็นผู้สนับสนุนหลักในการสร้างระบบนี้ขึ้นมา
ผู้นำสิงคโปร์แสดงความกังวลอย่างยิ่งว่า แม้ผลกระทบโดยตรงต่อสิงคโปร์จากภาษีระลอกแรกอาจจำกัด (คาดการณ์ขั้นต่ำ 10%) แต่ผลกระทบที่ตามมาจะกว้างขวางและลึกซึ้ง หากประเทศอื่นๆ ดำเนินรอยตามสหรัฐฯ ในการละทิ้งกติกาการค้าสากล และหันไปใช้เงื่อนไขที่ตนเองกำหนด “ก็จะสร้างปัญหาให้กับทุกประเทศ โดยเฉพาะประเทศเล็กๆ อย่างสิงคโปร์ เราเสี่ยงที่จะถูกบีบคั้น ถูกละเลย และถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”
นายกฯ หว่อง ยังคาดการณ์ถึงปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรงจากนานาประเทศต่อมาตรการของสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะเกิด “สงครามการค้าโลกอย่างเต็มรูปแบบ” ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก ทั้งการค้า การลงทุน และการเติบโตที่จะชะลอตัวลง โดยสิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศที่พึ่งพาการค้าในระดับสูง จะได้รับผลกระทบหนักกว่าหลายประเทศ
นายกฯ สิงคโปร์ได้เปรียบเทียบสถานการณ์ปัจจุบันกับช่วงทศวรรษที่ 1930 ซึ่งสงครามการค้าได้บานปลายกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่สอง พร้อมเตือนว่า สถาบันระหว่างประเทศกำลังอ่อนแอลง และบรรทัดฐานสากลกำลังเสื่อมถอย ประเทศต่างๆ มีแนวโน้มจะยึดผลประโยชน์ส่วนตนเป็นหลักมากขึ้น
“นี่คือความจริงอันโหดร้ายของโลกเราในปัจจุบัน” นายกฯ หว่อง กล่าว พร้อมเรียกร้องให้ชาวสิงคโปร์อย่าประมาท “ความเสี่ยงครั้งนี้เป็นเรื่องจริง และเดิมพันก็สูงมาก หนทางข้างหน้าจะยากลำบากมากขึ้น” เขากระตุ้นให้ประเทศเสริมสร้างขีดความสามารถ, สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับประเทศที่มีแนวคิดคล้ายกัน และที่สำคัญที่สุดคือการยืนหยัดและรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้สิงคโปร์สามารถอยู่รอดได้ในโลกที่ผันผวนนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ระทึก โดนัลด์ ทรัมป์ เปลี่ยนเฮลิคอปเตอร์กลางทาง หลังเจอปัญหา
- เกมเมอร์ผวา สื่อเผย “ภาษีทรัมป์” ทำเกมราคาพุ่ง ได้ผลกระทบกันถ้วนหน้า
- ทีมเศรฐกิจพรรคประชาชน เสนอรัฐบาล วิธีรับมือทรัมป์ตั้งกำแพงภาษี 36%
อ้างอิง : Hindustan Times
ข่าวล่าสุด
