ภาคเหนือจมฝุ่น หมอเชียงใหม่ แชร์เคสส่องกล้องเจอ ‘ฝุ่นเต็มจมูก’ แสบจมูก มีน้ำมูก แถมเลือดกำเดาไหล พบคนใส่แมสก์แค่ 10% ย้ำปอดล้างไม่ได้ สงสารชาวบ้านไม่มีหน้ากาก-เครื่องกรองอากาศ
สถานการณ์ฝุ่นควัน PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือยังคงน่าเป็นห่วง ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้รับเรื่องร้องเรียนจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจมูกในจังหวัดเชียงใหม่ หลังพบว่าผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้ป้องกันตนเองเท่าที่ควร แม้ต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศที่รุนแรง
เจ้าของโพสต์ เผยว่า ปัญหาฝุ่นในเชียงใหม่และภาคเหนือขณะนี้หนักหนาสาหัสมาก จากการสังเกตพบว่าประชาชนทั่วไปสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นเพียงประมาณ 10% เท่านั้น สวนทางกับจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติทางระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น ทั้งอาการแสบจมูก, มีน้ำมูกไหล ไปจนถึงเลือดกำเดาไหล
คุณหมอได้แชร์ภาพวิดีโอจากการส่องกล้องตรวจโพรงจมูกของผู้ป่วยรายหนึ่งใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เผยให้เห็นว่ามีฝุ่นละอองสีดำเกาะติดอยู่ภายในโพรงจมูกเป็นจำนวนมากจนตนเองตกใจ พร้อมตั้งคำถามที่ชวนให้ตระหนักว่า ยังมีฝุ่นที่มองไม่เห็นมีอีกเท่าไหร่ เพราะจมูกยังล้างด้วยน้ำเกลือได้ แต่ปอดไม่สามารถล้างได้
“สวัสดีค่ะเราเป็นหมอจมูกที่เชียงใหม่ อยากฝากจ่าเตือนคนเชียงใหม่และภาคเหนือหน่อยได้ไหมคะ ฝุ่นเยอะมาก แต่ตามท้องถนน มีคนใส่mask แค่ประมาณ 10% แล้วก็แสบจมูก มีน้ำมูก เลือดกำเดาไหลกัน ขอบคุณมากๆค่ะ อันนี้ที่วิดีโอถ่ายจากส่องกล้องโพรงจมูกคนไข้อ.เชียงดาวค่ะ ฝุ่นเต็มจมูกจนตกใจค่ะ แล้วฝุ่นที่มองไม่เห็นมีอีกเท่าไหร่ จมูกยังล้างด้วยน้ำเกลือได้ แต่ปอดล้างไม่ได้ค่ะ”
หลังจากที่ตรวจคนไข้เรียบร้อยแล้ว คุณหมอรู้สึกสงสารชาวบ้านหลายคนที่อาจไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้อหน้ากากอนามัยหรือเครื่องกรองอากาศดี ๆ ขณะเดียวกันบางส่วนที่มีอุปกรณ์ป้องกันตนเองก็ละเลยที่จะดูแลตนเอง เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม คุณหมอตั้งคำถามทิ้งท้ายไว้ว่า เมื่อไหร่ปัญหาเรื่องฝุ่นจะดีขึ้นเสียที และสามารถแก้ปัญหาที่ต้นตอได้จริงหรือ หากยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ก็ต้องดูแลตนเองกันดี ๆ ต่อไป
“ตอนตรวจ คือน้ำตาจะไหล จมูกเต็มไปด้วยฝุ่น สงสารชาวบ้านตาดำๆมาก บางคนก็ไม่ได้มีปัจจัยซื้อหน้ากาก หรือเครื่องกรองอากาศดี ๆ บางคนมีนะ แต่ไม่ใช้ เพราะยังคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เมื่อไหร่ปัญหานี้จะดีขึ้นซักที เราแก้ที่ต้นตอได้จริงหรือยัง ถ้ายังแก้ไม่ได้ ก็ต้องดูแลตัวเองกันดีๆนะพี่น้อง”
คู่มือป้องกันตัวเอง ปกป้องจมูก-ปอด ลดเสี่ยงโรคร้าย
สำหรับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ยังคงเป็นภัยคุกคามสุขภาพที่วนเวียนกลับมาสร้างความกังวลให้กับคนไทยในหลายพื้นที่ การรับฝุ่นพิษต่อเนื่องส่งผลทำให้เกิดอาการระคายเคืองในระยะสั้น รวมทะเงเสียร้ายแรงต่อระบบทางเดินหายใจ หัวใจและหลอดเลือดในระยะยาว
หากต้องออกนอกอาคารในวันที่ฝุ่นหนา ควรสวมหน้ากาก N95 หรือหน้ากากมาตรฐานเทียบเท่า โดยต้องเลือกขนาดที่พอดีและสวมใส่ให้ถูกต้องแนบกระชับกับใบหน้าเสมอ เพื่อประสิทธิภาพการป้องกันสูงสุด นอกจากนี้ ควรพิจารณาลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงหนัก เพราะจะทำให้สูดหายใจเอาอากาศปนเปื้อนฝุ่นเข้าสู่ปอดในปริมาณที่มากขึ้น
ขณะเดียวกัน การป้องกันฝุ่นภายในอาคารก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรปิดประตูหน้าต่างให้สนิท เพื่อลดการเล็ดลอดของฝุ่นจากภายนอก ควรใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองได้มาตรฐานและมีขนาดเหมาะสมกับห้อง เพราะช่วยดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ปนเปื้อนอยู่ภายในอาคารได้ โดยเฉพาะในห้องนอนและพื้นที่ที่ใช้เวลาอยู่เป็นประจำ ควบคู่ไปกับการหมั่นทำความสะอาดบ้าน ด้วยการดูดฝุ่น หรือเช็ดถูพื้นผิวต่าง ๆ ด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เพื่อลดการสะสมและฟุ้งกระจายของฝุ่นภายใน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ชัชชาติ” คาดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 สัปดาห์นี้จะดีขึ้น ต้นเหตุลมเปลี่ยนทิศ
- วันนี้ ค่าฝุ่น PM2.5 ดีขึ้น ไร้สีแดง แต่ยังเกินมาตรฐานทุกเขต บึงกุ่ม จมฝุ่นหนัก
- วิกฤตฝุ่น วันนี้ กรุงเทพฯ ฟ้ามัว PM2.5 เกินมาตรฐาน 5 พื้นที่ แตะระดับสีแดง
ข่าวล่าสุด
บันเทิง คิมซูฮยอน รับเคยคบ คิมแซรน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ลุยฟ้องหมิ่นฯ 1.2 หมื่นล้าน
ข่าวกีฬา บีจีหน้าซีด “พาทริค กุสส์ตาฟสัน” เจ็บ ACL พัก 6-8 เดือน สะเทือนทัพช้างศึก
