ข่าวต่างประเทศ

แม่สุดเศร้า ลูกวัย 7 ขวบเกือบนิ้วด้วน เพราะพฤติกรรมเด็กๆ ชี้พ่อแม่อย่ามองข้าม

คนเป็นแม่แทบใจสลาย ลูกน้อยวัย 7 ขวบเกือบ “นิ้วด้วน” ต้นตอมาจากพฤติกรรมที่เด็กๆ ทำกันทุกคน แพทย์ชี้อย่างมองข้ามเด็ดขาด

นิสัยมักถูกพ่อแม่สร้างให้ลูกตั้งแต่เล็ก แน่นอนว่าพ่อแม่จะรู้ชัดเจนว่านิสัยอะไรดีที่จะสอนลูก แต่ นอกจากนิสัยที่ถูกเลี้ยงดูจากครอบครัว ก็จะมีนิสัยบางอย่างที่ลูกเรียนรู้เอง หรือเลียนแบบจากคนรอบข้าง ถ้ามันดีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ดี พ่อแม่ต้องเข้าไปแทรกแซงเพื่อปรับเปลี่ยนให้ทันท่วงที เพราะเมื่อนิสัยไม่ดียิ่งพัฒนา ก็จะยิ่งเป็นอันตรายต่อลูกในอนาคต

ตัวอย่างเช่นเรื่องนี้ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา แผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อของโรงพยาบาลเด็กจังหวัดหูหนาน ประเทศจีน ได้รับเคสเด็กเล็ก 3 คนที่ติดเชื้อที่นิ้วเนื่องจากนิสัยที่เด็กหลายคนทำกัน

เหตุการณ์เตือนภัยครั้งนี้เกิดขึ้นกับเด็กชายวัย 7 ขวบ ที่ใช้ชื่อสมมติว่า เสี่ยวกุย มีอาการนิ้วติดเชื้อรุนแรงจนเกือบต้องถูกตัดนิ้วทิ้ง โดยแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเป็นโรคกระดูกอักเสบ (Osteomyelitis) ซึ่งเป็นภาวะติดเชื้อที่กระดูกและไขกระดูก

โดยสาเหตุที่แท้จริงมาจากนิสัยที่เด็กหลายคนมีเหมือนกัน นั่นคือ “การกัดนิ้ว” ซึ่งคุณแม่ของด็กน้อยรายนี้ได้เปิดเผยว่า ลูกชายของเธอมีพฤติกรรมนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาล แม้ว่าพ่อแม่จะพยายามหาวิธีแก้ไขแต่ก็ไม่สำเร็จ

คุณแม่เล่าว่าช่วง 20 วันก่อนเกิดเหตุ เธอพบว่านิ้วชี้มือซ้ายของเสี่ยวกุย มีอาการบวมและเจ็บ เธอจึงพาไปตรวจที่โรงพยาบาล แม้ว่าแพทย์ได้ทำการรักษา แต่เมื่อกลับมาบ้านและทำแผลทุกวัน อาการที่นิ้วก็ยังไม่ดีขึ้น

แต่การมาโรงพยาบาลในครั้งนี้ทำเธอแทบเป็นลม เพราะผลเอ็กซ์เรย์ทำให้เห็นว่ามีการติดเชื้อที่ลุกลามจนไปถึงกระดูกนิ้ว และบางส่วนของกระดูกนิ้วถูกทำลาย ก่อนที่จะมีการวินิจฉัยว่าลูกของเธอเป็นโรคกระดูกอักเสบ

หลังเข้ารับการรักษาและควบคุมอาการติดเชื้อได้แล้ว ทีมแพทย์จึงจะรักษากระดูกหักทางพยาธิวิทยาในระยะที่ 2 และจะอุดกระดูกที่มีข้อบกพร่อง

แพทย์ได้บอกว่า “มือของคนเราในแต่ละวันสัมผัสกับแบคทีเรียจำนวนมาก ในปากก็มีแบคทีเรียจำนวนมากเช่นกัน หากเด็กกัดผิวหนังนิ้ว เกราะป้องกันก็จะหายไป ความต้านทานลดลง ความเสี่ยงในการติดเชื้อก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก”

“หากโรคกระดูกอักเสบเฉียบพลันไม่ได้รับการควบคุมอย่างทันท่วงที แบคทีเรียจะบุกรุกเข้าไปในไขกระดูกและก่อให้เกิดความเสียหายจากการติดเชื้อเฉพาะที่แยกอิสระ สิ่งนี้จะเพิ่มความซับซ้อนของการรักษาอย่างมาก และง่ายต่อการนำไปสู่เนื้อร้ายที่นิ้ว และจำเป็นต้องตัดมันทิ้งก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายยิ่งขึ้น หรือแม้แต่อันตรายถึงชีวิต”

จากกรณีของเสี่ยวกุย แพทย์ยังให้คำแนะนำว่า ในช่วงแรก เด็กๆรับรู้โลกผ่านการสัมผัสและการกัดเป็นเรื่องปกติ แต่นิสัยกัดนิ้วนั้นจะเลิกยากเมื่อเด็กโตขึ้น ดังนั้นพ่อแม่จึงจำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงก่อนที่จะสายเกินไป

อ้างอิง : phunuphapluat.nguoiduatin.vn

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Bas

ผู้สื่อข่าวกีฬา จบการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีประสบการณ์เขียนข่าวกีฬากับ SMMSport กว่า 10 ปี เริ่มทำงานกับ Thaiger เมื่อ 2021 ชอบและติดตามกีฬามาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะฟุตบอลทั้งบอลไทย และต่างประเทศ 5 ลีกดังของโลก พร้อมอัปเดตข่าวสารวงการฟุตบอล แบบเข้าใจง่าย ให้เพื่อนๆและแฟนบอลได้ติดตามกันทุกวัน ช่องทางติดต่อ saral@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button