บันเทิง

เมย์ วาสนา เล่าทั้งน้ำตา ดิว อริสรา อ้างชื่อ เอาของไปจำนำ จนคนคิดว่าถังแตก

‘เมย์ วาสนา’ น้ำตาตกใน ให้ ‘ดิว อริสรา’ ยืมของ 62 ล้าน สุดท้ายเอาไปจำนำ อ้างมาดามเมนี่เดือดร้อน มีปัญหาธุรกิจ เจ็บจนจุก ไม่น่าทำกับคนที่ช่วยเหลือตัวเองได้ลง

‘มาดามเมนี่’ หรือ เมย์ วาสนา อินทะแสง ร่ำไห้เปิดใจกลางรายการโหนกระแส เล่าจุดแตกหักกับ “ดิว อริสรา” เพราะมารู้ทีหลังว่าดาราสาวเอาทรัพย์สิน 62 ล้านของตัวเอง ไปจำนำตั้งแต่วันแรกที่ให้ยืม ทั้งยังอ้างชื่อของมาดามเมนี่ และสร้างเรื่องเท็จขึ้นมาว่าไฮโซสาวกำลังมีปัญหาทางธุรกิจ ต้องรีบใช้เงิน ทำเอาเมย์ถึงกับรับไม่ได้ ไม่คิดว่าการทุ่มเทช่วยเหลือน้องสาวคนสนิท จะได้รับผลตอบแทนมาเป็นคำใส่ร้าย และทำลายชื่อเสียงกันแบบนี้

เมย์ วาสนา เจ็บใจ ให้ ดิว อริสรา ยืมของ 62 ล้าน แต่อ้างชื่อไปจำนำ ใส่ร้ายมีปัญหาธุรกิจ
ภาพจาก : โหนกระแส

เมย์ วาสนา เล่าย้อนกลับไปว่าตั้งแต่ให้ ดิว อริสรา ยืมของแบรนด์เนม 5 ชิ้นในเดือนสิงหาคม ปี 2567 สุดท้ายหลังผ่านเวลามา 4-5 เดือน ดิวได้สารภาพว่านำทรัพย์สินของเมย์ไปจำนำแล้ว จากนั้นจึงเริ่มมีกระแสข่าว 62 ล้านบาทขึ้นมา ด้านเมย์ วาสนาแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะออกมาแฉเธอเลย เพราะไม่อยากตัดช่องทางทำมาหากิน

ทั้งยังยืดระยะเวลาให้ 1 เดือน เพราะเชื่อมาตลอดว่าดิวจะคืนของให้ ซึ่งทุกครัง้ที่คุยกันเธอจะประวิงเวลา และให้ความหวังว่าจะนำกระเป๋ากับนาฬิกาหรูมาคืนก่อน กระทั่งเวลาผ่านไป เมย์จึงตัดใจขีดเส้นตาย วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ให้ดิว อริสราไปเคลียร์ปัญหาของตนเอง และนำของมาคืนเธอก่อนที่เรื่องจะบานปลายถึงโรงพัก

มาดามเมนี่ แฉ ดิว อริสรา ยืมขอ 62 ล้านเอาไปจำนำแลกเงิน
ภาพจาก : โหนกระแส

ไม่เพียงเท่านั้น เมย์ วาสนา ยังเผยอีกว่าดิวเสนอให้เธอเป็นฝ่ายไถ่ของมาจากร้านรับจำนำก่อน จากนั้นจะเซ็นรับสภาพหนี้ และชดใช้คืนภายหลัง ซึ่งนักธุรกิจสาวได้ปรึกษาทนายและติงว่าไม่ควรทำ เพราะให้ทรัพย์สินไป 62 ล้านแล้ว หากต้องช่วยเหลือเงินอีก 20 กว่าล้าน เป็นเรื่องที่มากจนเกินไป เมย์จึงบอกกับดิวว่า “ถ้าพี่ไม่ได้ของคืน แล้วพี่ต้องสู้ก็จะสู้ถึงที่สุด เพราะอยากได้ของคืนมา”

ดิว อริสรา ใช้ชื่อเมย์ วาสนา เาอของไปจำนำแลกเงิน 20 ล้าน
ภาพจาก : โหนกระแส

ต่อมา มาดามเมนี่ได้บอกเล่า “ฟางเส้นสุดท้าย” ที่ทำให้เธอต้องออกมาประกาศตามหาของ 5 ชิ้นผ่านอินสตาแกรมของตัวเอง เพราะได้เห็นแชตของน้องคนหนึ่งที่ดิวไปพูดคุยด้วย และอ้างว่าสิ่งของเหล่านี้เป็นของ “ผู้ใหญ่” ท่านหนึ่ง ซึ่งกำลังเดือดร้อนมาก มีปัญหาทางธุรกิจ ติดหนี้ผู้ผลิตจึงต้องใช้เงินด่วน

แม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยชื่อว่าเป็นเมย์ แต่ของบางอย่างมีชิ้นเดียวในโลก แวดวงไฮโซจึงรับรู้กันหมดว่าเป็นคนใคร นี่จึงเป็นสาเหตุที่เมนี่เสียใจมาก ไม่คิดว่าการช่วยเหลือคนหนึ่ง แต่กลับต้องเสียชื่อเสียงรวมถึงศักดิ์ศรีแบบนี้ ทั้งยังมารู้อีกว่าดิว อริสรา นำเรื่องราวและชื่อของตัวเองไปอ้างกับหลายคน เพื่อให้รับของเหล่านี้เอาไว้แลกกับเงินในจำนวนที่ต้องการ

เมย์ วาสนา แฉ หลักฐาน ดิว อริสรา เอาของ 62 ล้านไปจำนำ
ภาพจาก : โหนกระแส

หลักฐานเด็ดที่ทำให้เมย์สะเทือนใจจนต้องร้องไห้ออกมา คือบันทึกประจำวันของบุคคลหนึ่ง ที่ไปแจ้งความไว้เพื่อปกป้องตัวเองหลังมีข่าวลือ ดาราอักษรย่อ “ด.” ยืมของมาดามเมนี่ 62 ล้านบาทแล้วไม่คืน โดยเนื้อหาในเอกสารนั้นระบุว่า ดิว อริสรา ติดต่อไปกู้ยืมเงิน 5.5 ล้านบาท โดยใช้นาฬิกา ริชาร์ด มิลล์ และกระเป๋า 2 ใบเป็นหลักค้ำประกัน ซึ่งจะใช้คืนภายในระยะเวลา 2 เดือน

ทว่าสิ่งที่เจ็บจี๊ดคือดิวอ้างกับบุคคลนั้นว่า “เมย์ วาสนา” เป็นคนขอยืมเงินจำนวนนี้ และที่สำคัญการตกลงจำนำของแลกเงินในครั้งนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2567 หมายความว่าหลังจากมาดามเมนี่ ช่วยเหลือดิว อริสรา โดยให้ยืมของไป ดาราสาวก็นำมาส่งต่อให้ร้านรับจำนำทันที! ทั้งที่ฝั่งของเมย์เคยบอกตั้งแต่แรกว่าไม่อนุญาตให้นำทรัพย์สินไปขายหรือจำนำ

ด้วยเหตุนี้เอง เมย์ วาสนา จึงตาสว่าง เพิ่งรู้ตัวว่าถูกหลอกมาตั้งแต่วันแรก โดยอ้างว่าจะนำไปฝากไว้กับพี่ที่รู้จัก เพื่อนำเงินมาคืน “ซุง ศตาวิน” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง แต่สุดท้ายเรื่องราวก็พลิกผัน สิ่งของกระจัดกระจายไปตามบุคคลต่าง ๆ ทั้งยังใช้ชื่อของเมย์ในการยืมเงินคนอื่น ทำให้เธอต้องโพสต์ทวงของด้วยตนเอง ในวันที่ 15 มีนาคม 2568 อย่างที่ทุกคนเห็นในโลกโซเชียล

กระทั่งในช่วงท้ายของรายการมีการโฟนอิน ดิว อริสรา ได้เข้ามาชี้แจงใมุมมองฝั่งตนเอง ยืนยันว่าไม่เคยเอาชื่อของ เมย์ ไปแชตคุยกับผู้หญิงคนไหนในทำนองใส่ความว่าเมย์ มีปัญหาการเงิน ซึ่งข้อมูลตรงนี้ทั้งสองฝั่งพูดไม่ตรงกัน และยังคงยืนกรานฝั่งตน.

ภาพจาก : โหนกระแส

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Woralada

นักเขียนเรื่องไลฟ์สไตล์ ข่าวบันเทิง และประเด็นการเมือง เวลาว่างชอบดูซีรีส์ อ่านวรรณกรรม และไปคอนเสิร์ตเพื่อต่อพลังงานชีวิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button