คลิปชวนอ้วก ชายไร้บ้านนิวยอร์ก กินซากหนูตายข้างถนน

คลิปสยอง ชายไร้บ้านกินหนูตายกลางนิวยอร์ก ชาวเมืองผวา ชี้ปัญหาคนไร้บ้านวิกฤตหนัก ในรอบหลายทศวรรษ ยอดพุ่งกว่า 350,000 คน เผยสาเหตุและสถิติสุดทึ่ง
เว็บไซต์ต่างประเทศ dailymail เผยแพร่คลิปไวรัลสุดสะเทือนขวัญ เมื่อชายไร้บ้านคนหนึ่งนั่งอยู่บนก้อนอิฐ บริเวณทางเท้าในย่านบรองซ์ในนครนิวยอร์ก ถูกถ่ายคลิปขณะกำลังกินหนูตายข้างถนน ในช่วงเวลากลางวันแสก ๆ ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของผู้คนที่เดินผ่านไปมา ตามรายงานระบุว่า คลิปดังเมื่อถูกถ่ายเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ในคลิปสุดสยอง ขณะที่ชายหนุ่มกำลังกินซากหนูตายนั้น มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นในวิดีโอว่า “นี่มันเหลือเชื่อจริง ๆ ดูนั่นสิ” พร้อมพูดต่อว่า “ไม่นะ ฉันต้องออกไปจากบรองซ์” ขณะที่ชายคนนั้นกำลังถลกขนหนูออก
จากนั้น ผู้หญิงอีกคนหนึ่งอุทานว่า “เขากินมันเข้าไปแล้ว” ขณะที่ชายคนนั้นกัดกินซากหนู ทำให้ผู้คนบริเวณนั้นถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจ

หลังจากคลิปสุดสยองถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นมากมาย บ้างก็รู้สึกตกใจกับการกระทำของชายคนดังกล่าว บ้างก็รู้สึกขยะแขยงที่เขากล้านั่งกินหนูอยู่ริมถนน โดยผู้ใช้ X รายหนึ่งมองว่า “นี่มันจุดเริ่มต้นของหนังซอมบี้ชัด ๆ” ขณะที่อีกคนหนึ่งกล่าวว่า “น่าขยะแขยง ดูไม่ได้”
ดูเหมือนความคิดเห็นต่อคลิปดังกล่าวจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะชาวเน็ตอีกรายมองว่า การกินซากหนูตายเหมือนกับการกินเชื้อโรคชัด พร้อมกับใส่อีโมจิรูปอาเจียน
View this post on Instagram
อย่างไรก็ดี มีผู้เข้ามาวิเคราะห์สถานการณ์ที่นิวยอร์กกำลังเผชิญอยู่ มองว่า นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาอยากจะย้ายออกจากเมืองแห่งนี้ พร้อมให้เหตุผลว่า “การกระทำดังกล่าวน่าขยะแขยงสิ้นดี มันแย่ขนาดนี้ได้ยังไง ในเมืองที่ปกครองโดยพวกเสรีนิยม?”
ขณะเดียวกัน หลายคนวิจารณ์เหตุการณ์นี้ว่า “น่าขยะแขยง” ความเห็นอีกด้านหนึ่งเดาว่า ชายคนดังกล่าวน่าจะเป็นคนไร้บ้าน และแสดงความเสียใจที่เขาต้องทำเช่นนี้

ทั้งนี้ ปัญหาคนไร้บ้านในนครนิวยอร์กพุ่งสูงขึ้นถึงระดับสูงสุด นับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) ในช่วงทศวรรษ 1930 ตามรายงานขององค์กรการกุศล Coalition for the Homeless หรือ กลุ่มพันธมิตรเพื่อคนไร้บ้าน ตามรายงานพบว่า ในเดือนมกราคม 2025 มีผู้คนมากกว่า 120,500 คน อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงทั่วเมืองและอีกหลายพันคนต้องนอนข้างถนน
องค์กรการกุศล Coalition for the Homeless ประเมินว่า มีคนไร้บ้านมากกว่า 350,000 คนในนครนิวยอร์ก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 4% ของประชากรทั้งหมด
วิกฤตไร้บ้านนิวยอร์ก สถิติพุ่งสูงสุด สะท้อนชีวิตสิ้นหวังข้างถนน
มหานครนิวยอร์ก กำลังเผชิญกับวิกฤตคนไร้บ้านที่เลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) ในช่วงทศวรรษ 1930 จำนวนคนไร้บ้านพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ สะท้อนถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจนที่ฝังรากลึกในสังคม
ข้อมูลจาก องค์กร Coalition for the Homeless หรือ กลุ่มพันธมิตรเพื่อคนไร้บ้าน เปิดเผยข้อมูลที่น่ากังวลว่า ในเดือนมกราคม 2025 มีผู้คนมากกว่า 120,513 คน ต้องอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงคนไร้บ้านในแต่ละคืน และยังมีอีกหลายพันคนที่ต้องนอนตามท้องถนน, สถานีรถไฟใต้ดิน, หรือพื้นที่สาธารณะ
นอกจากนี้ ยังมีคนมากกว่า 200,000 คน ที่ต้องอาศัยอยู่กับเพื่อนหรือครอบครัวเป็นการชั่วคราว จากตัวเลขที่ปรากฏคาดการณ์ได้ว่ามีคนไร้บ้านกมากกว่า 350,000 คน ในมหานครนิวยอร์ก
สถานการณ์ยิ่งน่าเป็นห่วง เมื่อพบว่า 70% ของผู้ที่อาศัยในศูนย์พักพิง เป็นสมาชิกของครอบครัวไร้บ้าน ซึ่งรวมถึงเด็ก ๆ มากถึง 41,615 คน และในปีการศึกษา 2023-2024 มีเด็กนักเรียนในนิวยอร์กมากกว่า 146,000 คน หรือประมาณ 1 ใน 8 เคยประสบกับภาวะไร้บ้าน
เผยสาเหตุหลัก การขาดแคลนที่อยู่อาศัยราคาถูก
สาเหตุหลักของวิกฤตนี้ คือ การขาดแคลนที่อยู่อาศัยราคาถูก นิวยอร์กสูญเสียที่อยู่อาศัยราคาถูกไปกว่า 1.1 ล้านยูนิต ในช่วงปี 1996-2017 ทำให้อัตราห้องว่างของอพาร์ตเมนต์ราคาถูกเหลือน้อยกว่า 1% อีกทั้งปัญหาความเหลื่อมล้ำทางรายได้, ปัญหาสุขภาพจิตและการใช้สารเสพติด, การขาดบริการสนับสนุน, และนโยบายของรัฐที่ไม่เอื้ออำนวย ถือเป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
ครอบครัวที่เข้าพักในศูนย์พักพิง โดยไม่รวมผู้ลี้ภัย ส่วนใหญ่มาจากย่านที่ยากจนที่สุดของนิวยอร์ก อย่างไรก็ตาม ทุกเขตชุมชนในนิวยอร์ก ล้วนมีส่วนทำให้เกิดวิกฤตคนไร้บ้าน
เมื่อเทียบกับครอบครัวไร้บ้าน ผู้ใหญ่โสดไร้บ้าน มีอัตราการเจ็บป่วยทางจิต, ใช้สารเสพติด, และปัญหาสุขภาพร้ายแรงอื่นๆ ที่สูงกว่า ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับอัตราดังกล่าวในกลุ่มผู้ลี้ภัย
สถิติคนไร้บ้านในมหานครนิวยอร์ก
นอกจากนี้ ยังพบว่าคนผิวดำและชาวฮิสแปนิก และชาวลาติน ได้รับผลกระทบจากภาวะไร้บ้าน พบว่า ประมาณ 56% ของหัวหน้าครอบครัวในศูนย์พักพิงเป็นคนผิวดำ และ 32% เป็นชาวฮิสแปนิกและลาติน อีก 7% เป็นคนผิวขาว น้อยกว่า 1% เป็นชาวเอเชียอเมริกันหรือชาวอเมริกันพื้นเมือง และจำนวนที่เหลือยังไม่ทราบเชื้อชาติหรือชาติพันธุ์
ข้อมูลจาก กลุ่มพันธมิตรเพื่อคนไร้บ้าน เผยว่า งบประมาณ 2023 ของเมือง ระยะเวลาพักพิงเฉลี่ย ในระบบที่พักพิงของ DHS สำหรับผู้ใหญ่ที่โสดอยู่ที่ 412 วัน, ครอบครัวที่มีเด็กอาศัยอยู่ 437 วัน และ 750 วันสำหรับครอบครัวผู้ใหญ่
แม้ว่านิวยอร์กจะมีกฎหมาย ‘สิทธิในการพักพิง’ (Right to Shelter) ซึ่งช่วยให้คนไร้บ้านมากกว่า 1 ล้านคน มีที่พักพิงตั้งแต่ปี 1981 แต่สถานการณ์ในปัจจุบันก็ยังคงน่ากังวล และต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและครอบคลุมจากทุกภาคส่วน
ข้อมูลจาก : dailymail , newyorkchity และ coalitionforthehomeless
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- มจร ส่งสาส์นแสดงความอาลัย ไฟไหม้วัดในนิวยอร์ก พระธรรมทูตมรณภาพ
- นองเลือด กราดยิงไนต์คลับ นิวยอร์ก เจ็บอื้อ สังคมโยงแผนก่อการร้ายทั่วประเทศ
- แท็กซี่พุ่งชนคนเดินเท้าหน้าห้างดัง กลางนิวยอร์ก ล้อปั่นบดขาเด็ก 9 ขวบ ระทึกวันคริสต์มาส