เปิดประวัติ “แอนดอย ปรียากร” ครูสอนศิลปะจากลพบุรี สู่มงกุฎ “มิสทิฟฟานี่ 2025” งามสง่า คว้าใจกรรมการ สร้างแรงบันดาลใจด้วยคำตอบสุดคม
สร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งวงการนางงาม เมื่อค่ำคืนวันที่ 15 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา มงกุฎอันทรงเกียรติของ “มิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส 2025” ได้ถูกสวมให้กับสาวงามผู้มีความสามารถและเสน่ห์อันโดดเด่น นั่นคือ “แอนดอย ปรียากร พรพรหม” หรือ MTU23 ครูสอนศิลปะวัย 29 ปี จากจังหวัดลพบุรี ที่สามารถเอาชนะใจกรรมการและคว้าตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ไปครองได้อย่างสมศักดิ์ศรี
โดยมงกุฎมิสทิฟฟานี่ 2025 ตกเป็นของ แอนดอย – ปรียากร พรพรหม (@andoi_an) มิสทิฟฟานี่คนที่ 26 ศิษย์เก่า สาขาวิชาการสอนศิลปะ คณะศึกษาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยบูรพา และปัจจุบันรับราชการครู เธอสวยสง่าสมมงกุฎในทุกด้าน ทั้งรูปลักษณ์ บุคลิกภาพ ทัศนคติ และปฏิภาณไหวพริบในการตอบคำถาม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอคว้าชัยชนะในครั้งนี้
ในรอบตัดสิน “แอนดอย” ได้แสดงให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาดและทัศนคติที่น่าประทับใจ เมื่อเธอได้รับคำถามสุดท้ายที่ว่า “หากคุณสามารถส่งข้อความถึงรุ่นน้องทิฟฟานี่ในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยบรรจุไว้ในแคปซูลเวลา เรื่องราวและบทเรียนใดที่คุณคิดว่าสำคัญที่สุด ที่คุณอยากจะถ่ายทอด และเพราะเหตุผลใด”
“แอนดอย” ได้ตอบคำถามด้วยความมั่นใจและกินใจว่า “แมสเซสที่แอนดอยจะส่งไปคือคำว่าพัฒนา เพราะทุกการเริ่มต้น พวกเราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ในทุกวัน แต่ถ้าเราขาดการพัฒนา เราไม่สามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ในวันข้างหน้า แต่ถ้าทุกคนอยู่กับตัวเอง พัฒนาตัวเอง แอนดอยคิดว่า ไม่ว่าจะผ่านไปกี่วัน 1 วัน 2 วันหรือ 3 วัน ถ้าเราพัฒนา เราก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน” คำตอบนี้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่กรรมการเล็งเห็นและชื่นชม
ภายหลังการประกาศผลและสวมมงกุฎ “แอนดอย” ได้เปิดใจด้วยความตื้นตันว่า เธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะได้ตั้งใจและเต็มที่กับการประกวดในทุก ๆ วัน และค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนที่สวยงามที่สุดในชีวิตของเธอตลอด 29 ปีที่ผ่านมา เธอขอขอบคุณทีมงานมิสทิฟฟานี่ ทีมพี่เลี้ยง ทีมงานเสื้อผ้า รวมถึงครอบครัวที่คอยสนับสนุน และที่สำคัญที่สุดคือหน่วยงานต้นสังกัดที่เปิดโอกาสให้เธอได้แสดงออกถึงอัตลักษณ์ทางเพศในฐานะครูที่เป็นสาวทรานส์เจนเดอร์ โดยปราศจากการกีดกันและยังส่งกำลังใจให้เธอเสมอมา
เมื่อประเทศไทยได้มี “ครูที่เป็นมิสทิฟฟานี่” แล้ว “แอนดอย” ได้เล่าถึงความน่ารักกับผู้อำนวยการโรงเรียนของเธอว่า ในเช้าวันประกวด เธอได้ทักไปหา ผอ. ว่า “หนูจะเอามงกุฎกลับโรงเรียนของเรา” และในที่สุดเธอก็สามารถทำตามสัญญาได้สำเร็จ
“แอนดอย” ยังถือเป็นบุคคลที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง เพราะเธอเป็นครูที่โชคดีที่ได้รับการยอมรับในอัตลักษณ์ทางเพศอย่างเต็มที่จากหน่วยงานต้นสังกัด โดยไม่มีอุปสรรคใด ๆ ในการปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการครู เธอได้รับการปฏิบัติเหมือนกับบุคลากรที่เป็นเพศหญิงทั่วไป ลูกศิษย์ก็มีความสุขและไม่เคยมีปัญหาเรื่องการบูลลี่เกิดขึ้นเลย
เธอยังเผยอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่เป็นครู เธอไม่แน่ใจว่าตนเองเป็นสาวทรานส์คนแรกที่มีบัตรข้าราชการครูหรือไม่ แต่เธอได้รับการแต่งกายตามอัตลักษณ์ทางเพศหญิงอย่างเต็มที่ ซึ่งถือเป็นการให้เกียรติอย่างยิ่งจากหน่วยงาน
อย่างไรก็ตาม “แอนดอย” ก็ไม่ลืมที่จะใช้โอกาสนี้สะท้อนถึงปัญหาการกีดกันการแสดงออกตามอัตลักษณ์ทางเพศที่ยังคงมีอยู่ในวงการข้าราชการครูในหลายพื้นที่ โดยเธอตั้งใจที่จะเป็นกระบอกเสียงเพื่อเรียกร้องให้เกิดความเท่าเทียม
“ยังมีอีกหลายพื้นที่จะยังมีการกีดกันการแสดงออกตามอัตลักษณ์ทางเพศ อยากเรียกร้องให้อย่าเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นเขตไหน พื้นที่ไหน อยากให้ทุกคนได้รับสิทธิเท่ากัน” “แอนดอย” กล่าวด้วยความมุ่งมั่น
เบื้องหลังความสำเร็จ “แอนดอย” เติบโตมาในครอบครัวที่เข้มแข็ง โดยอาศัยอยู่กับคุณแม่เพียงสองคนตั้งแต่ อายุ 4 ขวบ เนื่องจากคุณพ่อของเธอรับราชการทหารอยู่ต่างประเทศและทางภาคใต้ ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา “หนูคิดว่าหนูจะทำให้แม่หนูภาคภูมิใจที่สุด หนูมองไปหนูไม่เห็นหรอกว่าแม่หนูอยู่ตรงไหน แต่สิ่งที่หนูรู้ได้ว่า แม่และพ่อกำลังดูหนูอยู่ และวันนี้ หนูอยากบอกกับแม่ว่า หนูทำได้แล้ว หนูรักแม่มาก” เธอเผยถึงความผูกพันกับครอบครัวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก
ถึงแม้จะได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรติมาครอง แต่ก็มีกระแสตีกลับในโลกออนไลน์ถึงความเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเรื่องการตอบคำถามรอบสุดท้าย ซึ่ง “แอนดอย” ได้กล่าวถึงเรื่องนี้อย่างหนักแน่นว่า “สิ่งเดียวที่แอนดอยมีคือความพยายาม และเชื่อว่าองค์กรก็เห็นความพยายามของแอนดอยแล้ว ถึงได้เลือกให้เป็นผู้ชนะในค่ำคืนนี้
สิ่งเดียวที่แอนดอยได้พูดไว้ในรอบตอบคำถามว่า สิ่งที่อยากจะฝากคือการพัฒนา คนเราจะหยุดพัฒนาเพียงเท่านี้เหรอ พรุ่งนี้ก็เป็นวันใหม่แล้ว คนเราสามารถพัฒนาใหม่ได้ทุกวัน อยากให้เชื่อในแอนดอยว่าแอนดอยจะคว้าชัยชนะครั้งนี้มาให้ได้ มง 5 ต้องเป็นของประเทศไทย”
ทั้งนี้ “แอนดอย” ในฐานะผู้ครองมงกุฎ Miss Tiffany’s Universe 2025 จะเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประกวด Miss International Queen 2025 การประกวดสาวทรานส์เจนเดอร์นานาชาติระดับโลก ที่จะจัดขึ้นในประเทศไทยในเดือนสิงหาคมนี้ แฟน ๆ นางงามชาวไทยต่างส่งกำลังใจให้ “แอนดอย” คว้ามงกุฎระดับโลกมาฝากคนไทยให้ได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ประวัติ ปีใหม่ ศรุดา มิสทิฟฟานี่ ครั้งที่ 25 แอร์โฮสเตสสาวยอดนักสู้ สู่ตำนานทุบเวที
- ร่วมเชียร์ ซากุระ ซาโต เด็กน้อยตามหาพ่อ ลงประกวด Miss Tiffany’s Universe 2025
- ยลโฉม ‘กวาง อริสรา’ Miss Tiffany 2022 คนล่าสุด สาวงามจากเมืองอุบลฯ
อ้างอิง: @andoi_an
ข่าวล่าสุด
