รู้จัก Daylight Saving Time ทรัมป์อยากยกเลิก นโยบายหักล้างเวลา ไม่ใช่เรื่องง่าย

ทรัมป์เปลี่ยนใจ? ยกเลิก “Daylight Saving Time” อาจไม่ใช่เรื่องง่าย เตรียมปรับเวลาเร็วขึ้นวันอาทิตย์นี้
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดูเหมือนจะใจเย็นลงกับเรื่องการยกเลิก “Daylight Saving Time” หรือการปรับเวลาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมงในช่วงฤดูร้อน เขากล่าวว่า เรื่องนี้เป็น “ประเด็น 50-50” ซึ่งต่างจากท่าทีเดิมที่เคยบอกว่า การปรับเวลาเป็นเรื่อง “ไม่สะดวก” โดยท่าทีนี้ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่สหรัฐฯ จะปรับเวลาเร็วขึ้นในวันอาทิตย์นี้
เมื่อถูกถามถึงเรื่องการยกเลิก Daylight Saving Time ทรัมป์กล่าวว่า “มันเป็นประเด็น 50-50 ถ้าอะไรมัน 50-50 มันก็ยากที่จะทำให้ตื่นเต้นได้” เขายังบอกอีกว่า บางคนอยากให้มีแสงสว่างในตอนเย็นมากขึ้น แต่บางคนก็อยากให้มีแสงสว่างในตอนเช้า เพราะไม่อยากพาลูกไปโรงเรียนตอนมืด ๆ
“มันเป็นสิ่งที่ผมทำได้ แต่หลายคนก็ชอบแบบนี้ หลายคนก็ชอบอีกแบบ มันค่อนข้างเท่า ๆ กัน แล้วปกติ ถ้าเป็นแบบนี้ เรายังต้องทำอะไรอีก?” ทรัมป์กล่าว
ยังไม่ชัดเจน ทรัมป์จะยกเลิก Daylight Saving Time ไหม? แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยกเลิก ทั้งที่เมื่อเดือนธันวาคม ทรัมป์เคยโพสต์บน Truth Social ว่า พรรครีพับลิกันจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อยกเลิก Daylight Saving Time ซึ่งเขาบอกว่า “มีคนสนับสนุนน้อย แต่เสียงแข็ง” และ “เป็นภาระค่าใช้จ่ายของประเทศ” อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่สามารถยกเลิก Daylight Saving Time ได้ด้วยตัวเอง ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรสด้วย
Daylight Saving Time คืออะไร?
Daylight Saving Time ชื่อภาษาไทย เวลาออมแสง คือ การปรับนาฬิกาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมง เพื่อให้มีแสงสว่างในตอนเย็นนานขึ้น ซึ่งในสหรัฐอเมริกา จะเริ่มปรับเวลาในวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนมีนาคม ไปจนถึงวันอาทิตย์แรกของเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ 2025 จะเริ่มปรับเวลาในวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม เวลา 2.00 น. ซึ่งหมายความว่า คนส่วนใหญ่จะนอนน้อยลง 1 ชั่วโมง แต่จะได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินช้าลง 1 ชั่วโมง
แล้ว อีลอน มัสค์ คิดยังไงกับ Daylight Saving Time?
อีลอน มัสค์ ที่ปรึกษาคนสำคัญของทรัมป์ ได้โพสต์ถามความเห็นชาวอเมริกันบน X (ทวิตเตอร์เดิม) ว่า อยากให้ยกเลิก Daylight Saving Time หรือไม่ โดยผลสำรวจพบว่า 58.1% อยากให้มีแสงสว่างในตอนเย็นมากขึ้น ส่วน 41.9% อยากให้มีแสงสว่างในตอนเช้ามากขึ้น

ทำไมถึงมี Daylight Saving Time?
Daylight Saving Time เริ่มขึ้นครั้งแรกในปี 1918 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่อให้ประหยัดพลังงาน และมีแสงสว่างในตอนเย็นนานขึ้น แต่ก็มีการยกเลิกไป จนกลายเป็นเรื่องปฏิบัติแตกต่างกันของแต่ละท้องถิ่น ก่อนที่จะกลับมาใช้อีกครั้งในปี 1966
คนที่อยากให้ยกเลิก Daylight Saving Time บอกว่า มันส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ทำให้เกิดปัญหาหัวใจ อุบัติเหตุทางรถยนต์ และโรคซึมเศร้า ส่วนคนที่สนับสนุน บอกว่า มันช่วยให้มีแสงแดดหลังเลิกงาน ประหยัดพลังงาน และทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
ที่ผ่านมา สมาชิกสภาคองเกรสพยายามแก้ไขกฎหมายเรื่อง Daylight Saving Time มาหลายปีแล้ว โดยในปี 2022 วุฒิสภาได้ผ่านร่างกฎหมาย “Sunshine Protection Act” ที่จะทำให้ Daylight Saving Time เป็นการปรับเวลาแบบถาวร แต่ร่างกฎหมายนี้ก็ไม่ได้รับการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “วันวสันตวิษุวัต” ปรากฏการณ์ เวลากลางวันยาวเท่ากลางคืน
- รู้จัก นาฬิกาวันสิ้นโลก นับถอยหลังสู่เที่ยงคืน สัญญาณเตือนหายนะ มนุษยชาติ
- เด็ก 9 ขวบ เก็บหินปริศนาจากชายหาด แท้จริงเป็น ขวานมือยุคหิน อายุกว่าสี่หมื่นปี