ล่าตัว ‘พรชัย โควสุรัตน์’ อดีตนายก อบจ.อุบล หลบหนีคุก 20 ปี คดีทุจริต 3 ปียังเงียบ
ตำรวจบุกค้นบ้าน พรชัย โควสุรัตน์ อดีตนายก อบจ.อุบล หลบหนีคดีทุจริต 3 ปียังไม่พบ
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 3 และเจ้าพนักงานตำรวจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักในตำบลวารินชำราบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามตัวนายพรชัย โควสุรัตน์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ในคดีทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์
การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากนายพรชัย ถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาจำคุก 20 ปี ไม่รอลงอาญา ในคดีทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์ แต่เจ้าตัวหลบหนีคดี
ผลการตรวจค้น พบเพียงนายเฉลิมชัย โควสุรัตน์ น้องชายของนายพรชัย และภรรยา ซึ่งพักอาศัยอยู่ภายในบ้าน โดยนายเฉลิมชัยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี และอนุญาตให้เข้าตรวจค้น แต่ไม่พบตัวนายพรชัยแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ณ สถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ
ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 3 ยึดทรัพย์ ‘พรชัย โค้วสุรัตน์’ หลังถูกชี้มูลความผิดร่ำรวยผิดปกติ
ย้อนกลับไปเมื่อ วันที่ 12 ก.ย.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาให้ยึดทรัพย์ที่ดินจำนวน 34 แปลง มูลค่า 93,473,640 บาท ของนายพรชัย โค้วสุรัตน์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุบลราชธานี ตกเป็นของแผ่นดิน โดยทรัพย์สินดังกล่าวถูกตรวจสอบว่าได้มาอย่างผิดปกติและไม่สามารถชี้แจงที่มาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
รายละเอียดการยึดทรัพย์ คดีนี้เริ่มต้นจากการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งพบว่านายพรชัยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่อยู่ในชื่อบริษัทเอกชน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท อีสานริช จำกัด และบริษัท เป็นไทแทรคเตอร์ จำกัด รวมถึงบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทรัพย์สินเหล่านี้ประกอบด้วยที่ดินในจังหวัดอุบลราชธานี รวม 34 แปลง และเงินจากการจำหน่ายที่ดิน รวมมูลค่าประเมินทั้งสิ้นกว่า 93 ล้านบาท
ศาลฯ สั่งให้นายพรชัยส่งมอบเอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สินดังกล่าวแก่กระทรวงการคลัง และหากไม่สามารถโอนทรัพย์สินให้แก่แผ่นดินได้ ให้ชดใช้เป็นเงินหรือโอนทรัพย์สินอื่นแทนตามมูลค่าที่ขาด
สำหรับที่มาของคำพิพากษาครั้งนี้ เริ่มจากการตรวจสอบของ ป.ป.ช. ที่พบว่านายพรชัยมีทรัพย์สินผิดปกติ ทั้งในชื่อของบริษัท เป็นไทแทรคเตอร์ จำกัด จำนวน 53 แปลง (มูลค่าประเมิน 82,708,655 บาท) และในชื่อของนางสาววิสิฏฐี ศรีธัญรัตน์ จำนวน 22 แปลง (มูลค่าประเมิน 10,764,985 บาท) โดยเป็นทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างการดำรงตำแหน่งนายก อบจ. อุบลราชธานี จนนำไปสู่การฟ้องร้องในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3
ในปี 2564 นายพรชัย โค้วสุรัตน์ ได้ตัดสินใจหลบหนี ที่ตนเองต้องโทษหลายคดีใหญ่ โดยเฉพาะคดีทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์ส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคดีทุจริตก่อสร้างสะพาน รวมถึงมีโทษจำคุกรวม 22 ปี ที่ศาลพิพากษาไว้แล้ว และยังมีคดีค้างที่อยู่ระหว่างการสอบสวนจาก ป.ป.ช. อีกกว่า 25 คดี
วันที่ 11 ตุลาคม 2564 ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์ โดยกำหนดเงื่อนไขให้ติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) กระทั่งเวลา 03.45 น. วันที่ 9 พ.ย. 2564 ระบบตรวจพบว่าสายรัดของอุปกรณ์ EM ถูกทำลาย เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมพยายามติดต่อไปยังนายพรชัยและบุคคลอ้างอิง แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ในวันที่ 10 พ.ย. 2564 ซึ่งเป็นวันที่ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำพิพากษา นายพรชัยไม่ได้เดินทางมาศาล ถือว่าเข้าข่ายพฤติการณ์หลบหนี จนนำไปสู่การออกหมายจับ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ศธ. เผยผลสอบ ครูเบญ ปมชื่อหาย ไม่พบการทุจริต เขตพื้นที่กรอกข้อมูลพลาด
- ศาลรัฐธรรมนูญ ตีตกคำร้อง ‘วัฒนา อัศวเหม’ ปมทุจริตคลองด่าน
- ราชกิจจาฯ ประกาศ มอบสมณศักดิ์ พระมหาสังคม-พระมหาเทอด หลังพ้นคดีทุจริตวัด