นักเรียนชายวัย 18 ปี เสียชีวิตจากเลือดออกในสมอง หลังถูกคุณยายตบหน้าบนรถเมล์ เหตุเพราะไม่ยอมสละที่นั่งผู้พิการ แม้จะพยายามอธิบายว่าเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล
เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงบ่ายของเดือนกันยายน ปี 2566 ที่ผ่านมา ณ เมืองหนานชาง มณฑลเจียงซี ประเทศจีนเมื่อนักเรียนชายวัย 18 ปี นามว่า ลัมเดียป (Lam Diep) ขึ้นรถเมล์ด้วยความเหนื่อยล้าหลังเรียนมาทั้งวัน ภายในรถเมล์แออัดไปด้วยผู้โดยสาร หลังจากพยายามเบียดฝ่าฝูงชน เขาพบที่นั่งว่างซึ่งเป็นที่นั่งสำหรับผู้พิการ แม้จะลังเลใจ แต่ด้วยความเหนื่อยล้าทำให้เขาตัดสินใจนั่งลงเพื่อพักสักครู่ หวังว่าจะได้พักผ่อนบ้างในระหว่างเดินทาง
ขณะที่นักเรียนชายคนดังกล่าวกำลังจะเคลิ้มหลับ เสียงตะโกนดังลั่นก็ดังขึ้นทำลายความเงียบบนรถ คุณยายท่าทางเคร่งขรึมยืนอยู่ตรงหน้า ต่อว่าเขาที่นั่งที่สำหรับผู้สูงอายุและผู้อ่อนแอ
นักเรียนชายสะดุ้งตื่น พยายามอธิบายด้วยเสียงสั่นเครือว่า “คุณยายครับ ผมเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล ร่างกายเหนื่อยมาก…” แต่พูดไม่ทันจบ คุณยายก็ขัดจังหวะด้วยความโกรธ
คุณยายมนุษย์ป้า ไม่ฟังคำอธิบายใด ๆ กลับยิ่งโมโหหนัก ใช้คำพูดรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ให้โอกาสเด็กหนุ่มได้ชี้แจง ผู้โดยสารรอบข้างเริ่มสนใจเหตุการณ์ บางคนเห็นใจนักเรียน บางคนก็ตำหนิคุณยายที่ก้าวร้าวเกินไป
แม้จะมีคุณป้าใจดีคนหนึ่งลุกขึ้นเสนอที่นั่งให้คุณยาย แต่คุณยายปฏิเสธและยิ่งโกรธหนัก ด้วยความโมโห คุณยายตบหน้านักเรียนชายอย่างแรง เสียงดังสนั่นจนผู้โดยสารทั้งรถตกตะลึง นักเรียนชายเซถลาล้มลงพื้น หมดสติไป
เกิดความวุ่นวายบนรถ ผู้โดยสารรีบบอกคนขับให้จอดและนำตัวนักเรียนส่งโรงพยาบาล ขณะที่คุณยายฉวยโอกาสชุลมุนหลบหนีไป
นักเรียนชายถูกนำส่งโรงพยาบาลในอาการวิกฤต แพทย์วินิจฉัยว่าการล้มครั้งนี้ทำให้เกิดเลือดออกในสมองฉับพลัน แม้ทีมแพทย์จะพยายามอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาไว้ได้ ท้ายที่สุด ชายหนุ่มก็จากไปตลอดกาลเพียงเพราะการโต้เถียงที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
การจากไปอย่างกะทันหันของ ลัมเดียป ทำให้ครอบครัวเจ็บปวดจนทนไม่ไหว พ่อแม่ของเขาเสียใจมาก น้ำตากลายเป็นสิ่งเดียวที่ปลอบใจที่เหลืออยู่
หลังเกิดเหตุการณ์สลดบนรถโดยสารประจำทาง ที่คุณยายรายหนึ่งใช้ความรุนแรงตบหน้านักเรียนชายวัย 18 ปี “ลัม เดียป” จนล้มศีรษะกระแทกพื้น และเสียชีวิตในเวลาต่อมาจากอาการเลือดออกในสมอง ล่าสุดศาลได้มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวแล้ว ให้จำคุก 3 ปี และปรับเป็นเงินประมาณ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1,016,700,000 ดอง
ทั้งนี้ จากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด คำให้การพยาน และบันทึกทางการแพทย์ ตำรวจระบุว่าการกระทำของหญิงชราเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของเหยื่อ แม้ในตอนแรกผู้ต้องหาจะปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่สุดท้ายก็ยอมรับสารภาพ
คำตัดสินครั้งนี้แม้จะไม่สามารถนำชีวิตของนักเรียนชายกลับคืนมาได้ แต่ก็ช่วยบรรเทาใจครอบครัวผู้เสียชีวิต และถือเป็นบทเรียนสำคัญแก่สังคมในเรื่องการเคารพชีวิตผู้อื่นและการควบคุมอารมณ์
ข่าวอื่น ๆ
- สาวร่างบาง เลิกใส่ยกทรง 2 ปี หน้าอกเปลี่ยนชัด จนคนต้องทัก แห่โฟกัสผิดจุด
- ดาราเอวีญี่ปุ่นงงหนัก หม่ำซาลาเปาบนรถไฟชินคันเซ็น ทำไมเจอถล่มยับ
- ภูเก็ตฉาวอีก นทท.ฝรั่ง จัดท่ามาตรฐาน แทงกันริมหาดกะตะ ไม่อายคน
อ้างอิง : Soha
