บิ๊กเต่า เปิดหลักฐานใหม่ “นาย ส.” ปมเส้นเงิน 10 ล้าน มั่นใจต้องได้สักข้อหา
บิ๊กเต่า อัปเดต 6 ประเด็นร้อน ปม “กฤษอนงค์-ฟิล์ม รัฐภูมิ” รีดทรัพย์บอสดิไอคอน ขอเวลา 10 วันสอบพยานเพิ่ม ส่วนประเด็นนาย ส. พบเส้นทางการเงินใหม่ในคดีฟอกเงิน
วันนี้ (18 พ.ย.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เผยความคืบหน้าคดีกรรโชกทรัพย์ของ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ซึ่งเป็นตัวกลางเรียกรับสินบนในคดีดิไอคอน กรุ๊ป หลังการประชุมช่วงเช้า ทั้งหมด 6 เประเด็นด้วยกัน ได้แก่ ประเด็น 1. ปมเรียกรับผลประโยชน์ วงเงินรวม 7.5 แสนล้านบาท ซึ่งออกหมายจับและนำตัวฝากขังเป็นที่เรียบร้อย, ประเด็น 2 ข้อหาหมิ่นประมาทที่ “หนุ่ม กรรชัย” แจ้งความกับ น.ส.กฤษอนงค์ และนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม
ประเด็นที่ 3 กรณีน.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ แจ้งความหมิ่นประมาทหลังมีการกล่าวอ้างชื่อเจ้าตัวในคลิปเสียงกรรโชกทรัพย์, ประเด็นที่ 4 กรณีกฤษอนงค์-รัฐภูมิ เรียกรับเงินจากนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล และน.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร “บอสปัน” ที่มอบอำนาจให้ทนายเดินทางมาแจ้งความในวันพรุ่งนี้
ส่วนประเด็นที่ 5 นั้น เป็นเรื่องของนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ หรือ เอก สายไหมต้องรอด กรณีถูกบอสพอลเอาผิด ปมอ้างพยานเท็จในคดีดิไอคอน ว่า คืบหน้าแล้ว 80-90% หากไม่ติดปัญหาอะไร จะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งตัวพยานจะโดนด้วย-เข้าข่ายเรื่องไหนบ้างนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะเป็นผู้พิจารณา โดยจะมีการหารือกับ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. เพื่อตรวจสอบเนื้อหาในสำนวนว่าขาดตกบกพร่องอะไรหรือไม่ แต่ยืนยันว่าจะดำเนินตามขั้นตอนกฎหมายอย่างแน่นอน
ขณะที่ประเด็นที่ 6 เป็นเรื่องของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ที่ได้ข้อมูลใหม่ว่ามีการโอนเงินจากบัญชีแม่ถึงเจ้าตัวกว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 64-67 ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากไม่มีผู้ร้องทุกข์แจ้งความอาจจะดำเนินในคดีอาญาทุจริต เนื่องจากนาย ส. เป็นเจ้าหน้าที่รัฐในระยะเวลาหนึ่ง แต่ก็ต้องมีการนำไทม์ไลน์การโอนเงินและระยะเวลาในการรับตำแหน่งมาตรวจสอบอีกครั้ง โดยถ้าไม่สามารถดำเนินคดีได้ จะเขียนเป็นรายงานสืบสวนเพื่อส่งให้ดีเอสไอดำเนินคดีข้อหาฟอกเงินต่อไป
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ระบุเพิ่มเติมว่า คดีของฟิล์ม-กฤษอนงค์ นั้น ตนขอเวลาทำงาน 10 วัน เนื่องจากต้องเก็บพยานหลักฐานและสอบปากคำกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากเป็นคดีบอสดิไอคอน หากมีใบมอบอำนาจสามารถมาแจ้งความได้เลย พร้อมดำเนินการ เพราะส่วนนี้อาจเป็นเกี่ยวข้องกับข้อหาในนามนิติบุคคล และต้องถอดคลิปเสียงเพื่อพิจารณาว่าเป็นการหลอกโอนเงิน 20 ล้านบาทหรือไม่ หากใช่ ก็จะเข้าข่ายข้อหาพยายามฉ้อโกง หรือหากมีการข่มขู่ก็จะเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ ส่วนจะเป็นหมายเรียกหรือจับนั้นก็ต้องพิจารณากันต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง