ย้อนเรื่องดี ทนายตั้ม คนมองข้าม ช่วยว่าความคนจน ด้วยเงิน 20 บาท
เปิดวีรกรรมความดี ‘ทนายตั้ม’ ช่วยเหลือคุณตาจำนงค์ ถูกลูกสาวฟ้องไล่ที่ คิดค่าทนายความแค่ 20 บาท เอฟซีแห่ชื่นชม เห็นใจคนยากจน มอบฉายาทนายประชาชน
นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ “ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ซึ่งกำลังมีกระแสข่าวจากกรณีรับเงิน 71 ล้านมาจากเจ๊อ้อย โดยอ้างว่าได้มาด้วความเสน่หา ต่อมาจึงถูกแฉวีรกรรมจากอดีตกัลยาณมิตรรอบทิศทาง
กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวในวันที่ 7 พ.ย. 67 และถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 3 ข้อหา คือ ฉ้อโกง, ฟอกเงิน และข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปฯ เป็นเหตุให้ทนายตั้มถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แม้ว่าจะยังไม่มีการตัดสินความผิดก็ตาม วันนี้ The thaiger จะพาทุกคนไปย้อนวันวานส่องชีวิตอีกมุมหนึ่งของทนายตั้ม ที่เคยช่วยเหลือคนยากจนด้วยน้ำใจที่งดงาม จนได้รับคำชื่นชมจากเอฟซีในโซเชียลนับพันคอมเมนต์
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 65 ทนายตั้มได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ส่วนตัว โดยพูดถึงคดีของ ‘คุณตาจำนงค์’ ซึ่งถูกลูกสาวฟ้อองไล่ที่ให้ออกจากบ้านของตัวเอง ทนายตั้มจึงยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือโดยคิดค่าทนายความแค่ 20 บาท เนื่องจากเห็นว่าคุณตาและครอบครัวกำลังเดือดร้อน อีกทั้งยังถ่ายรูปแบงก์ 20 ลงโซเชียล และกล่าวว่าจะใช้เงินนี้เป็นสิ่งนำโชคในชีวิตด้วย
“ยังตามติดคดีคุณตาจำนงค์ที่ลูกสาวฟ้องไล่ที่พี่น้องออกจากบ้านตัวเองอยู่นะครับ โดยวันนี้ผมฟ้องคดีถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณ ให้ตาจำนงค์ ที่ศาลจังหวัดกบินทร์บุรี ศาลท่านเมตตารับฟ้องเรียบร้อย เลขคดี พ.43/2565 นัดสืบพยานโจทก์ 23 พฤษภาคม 2565 เวลา 13.30 น. คดีนี้ผมคิดค่าทนายแค่ 20 บาทเพราะเห็นใจคุณตาและครอบครัวครับ”
จากเรื่องราวดังกล่าว ทำให้ทนายตั้มได้รับคำชื่นชมมากมายจากลูกเพจ ที่เข้ามาคอมเมนต์ขอบคุณที่เห็นใจความเดือดร้อนของคนยากคนจน ยกย่องให้เป็นที่พึ่งพาของประชาชน และได้อวยพรให้ทนายษิทรารวมถึงครอบครัวมีแต่ความสุขความเจริญ นอกจากนี้ยังมีบางคนที่เคยไม่ชอบทนายตั้ม เปลี่ยนใจมาเป็นเอฟซีเต็มตัวเพราะข่าวการช่วยเหลือในครั้งนี้ด้วย
ต่อมาในวันที่ 17 ก.พ. 66 ทนายตั้มได้กลับมาพูดถึงคดีของคุณตาจำนงค์อีกครั้ง พร้อมรื้อฟื้นความทรงจำที่ตนเองเคยเรียกค่าทนาย 20 บาทเพื่อช่วยเหลือคนยากจน โดยระบุว่าในวันนี้คุณตาได้ขอยุติคดีความลงแล้ว เนื่องจากป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย จึงขึ้นศาลไม่ไหว และอยากใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายอย่างสงบ ทนายตั้มและทีมงานจึงเคารพการตัดสินใจ แต่ได้แจ้งว่ายังคงโทรหาคุณตาเพื่อถามสารทุกข์สุขดิบเป็นประจำไม่ได้ทอดทิ้งไปไหน
นี่คือหนึ่งในคุณงามความดีของทนายตั้มที่ใครหลายคนอาจไม่รู้หรือหลงลืมไปแล้ว ส่วนในคดีปัจจุบันที่กำลังถูกแจ้งข้อกล่าวหานั้น ต้องรอดูว่าทนายคนดังจะทำผิดจริงอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง หรือจะสามารถหาหลักฐานมาพลิกเกม พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองจนชนะคดีได้ คงต้องติดตามความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป.
ภาพจาก : Facebook ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง