รอง ผบช.ก เมิน ‘ทนายตั้ม’ แต่งสูทรอตำรวจ 5 วัน ยึดตามหลักฐานเป็นหลัก
รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมิน ทนายตั้ม แต่งสูทรอ 5 วัน ยึดตามหลักฐานเป็นหลัก คัดค้านการประกันตัว มีพฤติการร์ยุ่งพยานหลักฐาน
จากกรณีที่ นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด กล่าวว่า ทนายตั้มเตรียมตัวถูกจับกุมจากตำรวจมาเป็นเวลานานถึง 5 วัน โดยใส่สูทแต่งตัวรอให้ถูกจับกุมอยู่ที่บ้านตลอดเวลา กระทั่งวันนี้เห็นว่ายังไม่มีการออกหมายจับจึงเดินทางไปทำบุญที่วัดในจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งมีความบริสุทธิ์ใจสังเกตได้จากการแต่งตัวและเสื้อผ้า ที่ทั้งสองคนวางแผนว่าจะไปนอนทำวัตรเย็นที่วัดและเดินทางกลับบ้าน ไม่ได้จะเดินทางหนีออกไปยังชายแดนอย่างที่ทุกคนตั้งข้อสังเกต ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้า การสอบปากคำนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และภรรยา เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยระบุว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และให้การในรายละเอียดในมุมของตนเองที่ต้องการแก้ข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนก็สอบสวนไว้ แต่ก็เป็นสิทธิที่ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ และแก้คำให้การเป็นเรื่องปกติตามขั้นตอน ตราบใดที่ผู้ต้องหายังไม่ลงชื่อรับรองคำให้การ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ต้องหาให้การก็แสดงให้เห็นเจตนาบางอย่าง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ นอกจากนี้ ทั้งคู่บอกด้วยว่าจะทำหนังสือคำให้การมาชี้แจงเพิ่มเติมภายใน 15 วัน ทั้ง 2 คน ก็ยังมีอาการเครียดตลอดทั้งคืน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการถูกควบคุมตัว แต่ก็ยังไม่ได้ร้องขอสิ่งใดเพิ่มเติม
และคาดว่าวันนี้พนักงานสอบสวนจะคุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง โดยคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ข่มขู่พยาน และมีพฤติการณ์หลบหนี
ส่วนประเด็นที่ทนายของทนายตั้มบอกว่า ไม่ได้หลบหนี แค่ไปทำบุญ ก็ไม่ได้มีผลเปลี่ยนแปลงในเรื่องของพยานหลักฐาน เพียงได้ตัวมาก็ถือว่าดำเนินการแล้วเสร็จ และที่ทนายตั้มอ้างว่า แต่งสูทรอมา 5 วันแล้ว แต่ตำรวจไม่ไปจับกุม ก็ไม่ได้มีผล เพราะต้องขึ้นอยู่กับว่าตำรวจได้พยานหลักฐานที่เพียงพอ ต่อการขออนุมัติศาลออกหมายจับเมื่อใด ดังนั้นจะแต่งตัวรอนานแค่ไหน หากตำรวจไม่มีหมายจับก็ยังจับไม่ได้
วันนี้ตำรวจอยู่ระหว่างไปขอศาลอนุมัติหมายเข้าตรวจค้น สำนักงาน ษิทรา ลอว์เฟิร์ม ย่านสาทร ของทนายตั้มในวันนี้ด้วย ส่วนการตรวจค้นเมื่อวาน 2 จุด ก็ยืนยันว่าตำรวจได้ยึดพยานหลักฐานสำคัญที่สามารถใช้พิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ของทนายตั้มไว้ได้
แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และอายัดบัญชีที่รับเงินจากฝ่ายผู้เสียหาย ซึ่งพยานหลักฐานชัดเจนโดยตรงแล้ว ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ได้รายงานให้ ปปง. ดำเนินการต่อ
ส่วนการขยายผลดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำความผิดคนอื่นๆ นั้น ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ซึ่งหากพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลใดก็จะต้องดำเนินคดีเพิ่มเติม แต่ต้องขอระยะเวลาสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจนก่อน และจะยังเน้นไปที่คดีปมเงิน 71 ล้านบาท, ค่ารถเบนซ์ 13 ล้านบาท, และค่าออกแบบโรงแรม 9 ล้านบาท และนอกจาก 3 ส่วนนี้แล้ว ก็ยังมีปมเงินอีก 1 ส่วนที่ตำรวจอยู่ระหว่างการดำเนินการ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘บิ๊กอ้อ’ เผย ‘ทนายตั้ม-เมีย’ เตรียมซิ่งหนีออกนอกประเทศ รอสอบเพิ่ม
- ‘อ.อ๊อด’ โพสต์สะท้อนธรรมะ ตอนมีประโยชน์กอดคอ ‘ทนายตั้ม’ ติดคุกทิ้งทันที
- สนธิ เคลื่อนไหว หลังทนายตั้ม-เมีย ถูกจับ ฝากถึงทนายเดชาด้วย