โค้ชสาวถูกหักอก ‘วางยา-รัดคอ’ ลูกศิษย์วัย 13 ปี หวังตายตาม อำพรางคดี
รักต้องฆ่า โค้ชสเก็ตสาวตกหลุมรักลูกศิษย์วัย 13 ปี ถูกปฏิเสธความรัก ลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม อีกทั้งอำพรางคดีให้เหมือนการฆ่าตัวตาย สุดท้ายศาลตัดสินจำคุก 17 ปี
เว็บไซต์ต่างประเทศ ettoday ขุดเรื่องราวเมื่อ 16 ปีก่อน ณ เมืองไทจง ไต้หวัน ได้เกิดคดีฆาตกรรมที่สะเทือนขวัญขึ้น เมื่อ ‘อูอี้ฮวา’ โค้ชสอนสเก็ตน้ำแข็งหญิงวัย 29 ปี ตกหลุมรักลูกศิษย์วัย 13 ปี แต่ถูกปฏิเสธ ด้วยความโกรธแค้นจึงหลอกให้เด็กสาวทานซุปที่ผสมยานอนหลับ จากนั้นกรีดฝ่ามือของลูกศิษย์เป็นคำว่า “รัก” ก่อนที่กรีดข้อมือตนเอง และเผาถ่านภายในรถ พยายามอำพรางคดีให้ดูเหมือนการฆ่าตัวตาย
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 พฤษภาคม 2547 ช่างซ่อมรถได้รับแจ้งให้ไปซ่อมรถที่ตลาดจินชุน บนถนนฉงเต๋อ เมืองไทจง แต่เมื่อไปถึงสถานที่ดังกล่าวกลับพบหญิงสาวในที่นั่งคนขับกำลังหมดสติ มีมีดอยู่ในมือหลายเล่ม รวมทั้งพบร่างของเด็กหญิงนอนอยู่เบาะหลัง เขาจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ อูอี้ฮวาถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนเด็กหญิงวัย 13 ปี ได้เสียชีวิตลงแล้ว พบเชือกสอดแนมและหม้อถ่านพร้อมขี้เถ้าในรถยนต์ แต่กระจกด้านหลังไม่ได้ปิด ทำให้โค้ชสาวยังไม่เสียชีวิต เพียงแค่หมดสติไปเท่านั้น
หลังจากที่อูอี้ฮวาฟื้นแล้ว จาง เฉิงรุย ผู้ตรวจการกองพลที่ 5 ของกรมตำรวจเมืองไถจง จึงพาตัวไปที่สถานนีตำรวจ ด้านพ่อและแม่ของเด็กสาวไม่พอใจเป็นอย่างมากเมื่อรับรู้ว่าโค้ชรักลูกของพวกเขาในเชิงชู้สาว จึงพูดอย่างโกรธแค้นว่า “ลูกสาวฉันอายุแค่ 13 ปี เธอมีความคิดแบบนี้ได้ยังไง เธอพูดเรื่องไร้สาระ”
ด้านตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าทั้งคู่ตั้งใจฆ่าตัวตายไปพร้อมกัน เพราะหากทั้งสองตกลงที่จะตายเพื่อความรัก ทำไมอูอี้ฮวาจึงเตรียมมีดแรมโบ้และเชือกมาด้วย เจ้าหน้าจึงตั้งข้อสงสัยว่าเด็กสาวอาจถูกฆาตกรรม หลังจากตรวจสอบพบว่าบนฝ่ามือของเด็กสาวมีคำว่า “ความรัก” ดูเหมือนเธอเต็มใจที่จะพลีชีพเพื่อความรัก
อย่างไรก็ตาม ตำรวจจับพิรุธได้ว่า “คนถนัดขวาจะใช้มือซ้ายเขียนซึ่งลายมือจะเบี้ยวแน่นอน แต่คำที่อยู่บนมือของผู้ตายเหมือนจะเขียนอยู่ในทิศทางเดียวกัน จึงคาดการณ์ว่าน่าจะมีบุคคลอื่นเขียนคำลงบนฝ่ามือหลังจากที่เธอเสียชีวิตแล้ว
เมื่อตำรวจสืบค้นข้อเท็จจริงแล้วทราบว่า โค้ชสาวตกหลุมรักลูกศิษย์ของตนเอง อูอี้ฮวาจึงเปลี่ยนคำสารภาพ โดยกล่าวว่า เธอทุ่มเทความรักทั้งหมดให้กับเด็กสาว แต่กลับถูกหักหลังไปตกหลุมรักผู้ชายคนอื่นจึงตัดสินใจฆ่าลูกศิษย์ และต้องการฆ่าตัวตายตาม
นอกจากนี้ยังพบว่า เมื่อปีที่แล้วเธอมีประวัติคุกคามทางเพศเด็กหญิงคนนี้มาก่อน แต่หลังจากโทรแจ้งตำรวจ โค้ชสาวขอร้องให้อัยการเลื่อนการพิจารณาคดีออกไป และอนุญาตให้สอนเด็กสาวต่อไปได้
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้พบหลักฐานสำคัญในคอมพิวเตอร์ขออูอี้ฮวาง ทั้งแผนการก่อเหตุและจดหมายลาตายที่เขียนไว้ล่วงหน้า เมื่อจำนนต่อหลักฐาน เธอจึงยอมรับว่าได้ล่อลวงเหยื่อด้วยอาหารที่ชอบ ผสมยานอนหลับในซุปมิโสะ และเมื่อถูกเด็กสาวปฏิเสธความรัก จึงบังคับให้ดื่มซุปผสมยา ก่อนใช้เชือกลูกเสือรัดคอและใช้มือปิดจมูกปากจนเสียชีวิต
ดร.เกา ต้าเฉิง แพทย์นิติเวชผู้ชำนาญการ ได้ให้ความเห็นว่า ผู้ตายน่าจะเสียชีวิตจากการถูกรัดคอและกดหน้าจนขาดอากาศ ไม่ใช่การเสียชีวิตจากการกดทับอย่างที่ผู้ต้องหาพยายามอ้าง อีกทั้งรอยฟันบนเยื่อบุริมฝีปากบนและจุดเลือดออกระหว่างฟันและเหงือกของผู้ตาย เป็นหลักฐานชัดเจนว่าเป็นการฆาตกรรม
ศาลอุทธรณ์พิจารณาตามหลักฐานทางนิติเวชและพฤติการณ์แห่งคดี ตัดสินจำคุกอูอี้ฮวาเป็นเวลา 17 ปี แต่บทลงโทษนี้คงไม่อาจชดเชยชีวิตอันบริสุทธิ์ที่ต้องจากไปก่อนวัยอันควร
ข้อมูลจาก : ettoday
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง