คลัง เผยเตรียมเสนอ Entertainment Complex ต่อ ครม. เล็งให้ทันในปีนี้
รมช.คลัง เผยเตรียมเสนอ Entertainment Complex ต่อคณะรัฐมนตรีในปีนี้ เชื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 20% เพิ่มงาน
นาย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการศึกษา สถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ว่า กระทรวงการคลังได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไป คาดว่าจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบให้ทันภายในปีนี้ เพื่อส่งให้กฤษฎีกาตรวจร่างแล้วจะส่งกลับเข้ามาเพื่อนำส่งสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสภาฯ จะเปิดสมัยการประชุมสามัญอีกครั้งในกลางเดือนธ.ค.2567 ถึง เม.ย.2568
ยืนยันว่าเป็นนโยบายที่ต้องการทำ ส่วนสาเหตุที่ยังไม่ได้ส่งเข้าครม. เนื่องจากเป็นอํานาจนายกฯ ในการพิจารณาวาระเข้าประชุม แต่ไม่ได้รีบร้อนดำเนินการ ซึ่งต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากมีภารกิจอื่นที่นายกฯ ต้องพิจารณา
ส่วนการทำประชาพิจารณ์ มีผู้เห็นชอบ 82% โดยได้มีข้อเสนอแนะจากภาคส่วนต่างๆ ซึ่งรัฐบาลจะรับฟังข้อคิดเห็นดังกล่าว เพื่อปรับแก้กฎหมายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์มากที่สุด ทั้งด้านศีลธรรม โครงสร้าง ผลประโยชน์ของผู้ประกอบการ เพื่อนำไปบรรจุกระบวนการขั้นตอนทางเอกสาร เมื่อเข้าไปสู่ขั้นตอนทางสภาฯ ก็จะเห็นข้อคิดเห็นทั้งหมด
“ขอชี้แจงว่า เราจะต้องรับข้อสังเกตทั้งหมด แต่อาจไม่ได้นำทุกข้อคิดเห็นไปดำเนินการปรับแก้ให้กฎหมาย เราฟังไว้แล้ว ทั้งหมดนี้สุดท้ายจะถูกบรรจุเข้าไปอยู่ในกระบวนการขั้นตอนทางเอกสาร พอเข้าสู่ขั้นตอนสภาฯ คอมเมนต์เหล่านี้จะนำไปพูดคุยกันในสภาฯต่อไป”
ในส่วนของ สนามม้าและสนามกอล์ฟนั้น สามารถเข้าข่ายเป็น เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ได้ อย่างไรก็ตาม ภาครัฐจะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดูว่านโยบายนี้มีประโยชน์อย่างไร และควรดำเนินการอย่างไร และคนที่เข้าร่วมโครงการนี้จะต้องเปิดเผยและโปร่งใสในการดำเนินการ ทั้งในส่วนที่ภาครัฐกำหนด และข้อเสนอเพิ่มเติมที่มีต่อภาครัฐ ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนทางกฎหมาย จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของพื้นที่ วงเงินโครงการได้ แต่ยังยืนยันทุนจดทะเบียน ประกอบธุรกิจยังอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท
เป็นสิ่งที่ดีที่ภาคเอกชนให้ความสนใจ เพราะจะเป็นโอกาสสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ จากผลการศึกษาของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่า หากมีการจัดตั้ง เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นราว 5-20% สร้างการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ หนุนจีดีพีช่วงก่อสร้างและช่วงการลงทุน ช่วยเพิ่มรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติจาก 40,000 บาทต่อคน ไปสู่ระดับประมาณ 60,000 บาทต่อคน ได้ รวมถึงเพิ่มการจ้างงานคนในประเทศด้วย
สำหรับรายละเอียดของร่างกฎหมายดังกล่าว เปิดช่องให้คนไทยเข้าไปเล่นในกาสิโนนั้นได้ แต่ต้องมีค่าเข้าต่อครั้งไม่เกิน 5,000 บาท ขณะที่อายุสัมปทานของโครงการจะมีใบอนุญาต 30 ปี และต่ออายุได้อีกคราวละ 10 ปี โดยมีค่าใบอนุญาต ใบละ 5,000 ล้านบาท และมีค่ารายปีอีกปีละ 1,000 ล้านบาท
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อนุทิน มั่นใจ “นโยบายกัญชา” เดินหน้าต่อ ยุครัฐบาลแพทองธาร ลั่นหนุนกาสิโน แต่มีเงื่อนไข
- เปิดรายชื่อบอร์ด ราชตฤณมัยฯ ชุดใหม่ เตรียมโปรเจ็กต์ กาสิโนกลางกรุง